สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 กันยายน 2568)--- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 29 กันยายน 2568 คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ ตลาดติดตามการแถลงต่อสภาในวันนี้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าเป็นนโยบาย 5 ด้านและประกอบไปด้วย 15 นโยบายช่วยหนุนจิตวิทยาหากมีนโยบายใหม่ๆ ปัจจัยภายนอกติดตามเรื่อง Government Shutdown สหรัฐฯ มีเส้นตายก่อนวันที่ 1 ต.ค. นี้ เบื้องต้นอาจจะกระทบจิตวิทยาลงทุนช่วงถัดไป ทางเทคนิค ตลาดพักหลังขึ้น 2 วันและไม่สามารถยืน 1283/1293 ได้ การลงมีแนวรับที่ไม่ควรลงหลุดที่ 1278/1268 ไม่หลุดยังเป็นการแกว่งตัวขึ้น ต่ำกว่าจะกลับมาลงรอบใหม่
ประเด็นสำคัญ
• ติดตามการแถลงนโยบาย “4 เดือน 4 ภารกิจหลัก” ของนายกฯ ต่อรัฐสภาระหว่างวันที่ 29-30 ก.ย. 2568 โดยเฉพาะประเด็นมาตรการกระตุ้น ศก. ระยะสั้นและนโยบายลดค่าครองชีพ
• รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเผยรายละเอียด “คนละครึ่งพลัส” แบ่งผู้ได้รับสิทธิ์ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการฯ 13 ล้านคนและกลุ่มประชาชนที่ไม่อยู่ในระบบภาษี 9 ล้านคนจะได้รับสิทธิ์ 2,000 บาท/คน และกลุ่มผู้ที่อยู่ในระบบภาษี 11 ล้านคนจะได้รับสิทธิ์ 2,400 บาท/คน และมีระยะเวลาใช้จ่ายช่วง พ.ย.-ธ.ค. 2568 มองเป็น Sentiment บวกต่อ SET โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก (CPAXT CPALL BJC TNP) และกลุ่มสินค้าบริโภคอย่างเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI)
• กกพ. เดินหน้าโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟสสอง 2,180MW อีกครั้ง โดยจะลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับทั้ง 72 ราย (ลม 8 ราย 565MW และโซลาร์ 64 ราย 1580MW) หลังไม่พบการกระทำความผิดในการคัดเลือก โดยมีผู้ได้รับคัดเลือก เช่น EGCO, RATCH, GPSC-IRPC, BGRIM
• Reuters เผย OPEC+ มีแนวโน้มจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอีก 137kBD ใน พ.ย. 2568 ในการประชุมในวันที่ 5 ต.ค. นี้ จากสัปดาห์ก่อนที่ราคาน้ำมันขึ้นและมีความพยายามที่กลุ่มจะกลับมาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด
• สหรัฐฯ เผยดัชนี PCE ใน ส.ค. 2568 ปรับขึ้น 2.7%YoY เป็นไปตามที่ตลาดคาด เช่นเดียวกับ Core PCE ที่ปรับขึ้น 2.9%YoY ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคใน ก.ย. 2568 ลดลงสู่ 55.1 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ กดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและมาตรการภาษีสหรัฐฯ
• ตลาดกังวลกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ อาจเลื่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรใน ก.ย. 2568 ในวันที่ 3 ต.ค. นี้ จากความเสี่ยงที่งบประมาณเพื่อให้รัฐบาลกลางสามารถทำงานต่อได้ชั่วคราวไม่ได้รับการอนุมัติ และเสี่ยงเผชิญภาวะ Shut Down ในวันที่ 30 ก.ย. นี้
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1260-1300 จุด โดยปัจจัยในประเทศติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะแผนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน ส่วนปัจจัยต่างประเทศติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ PMI จีนและสหรัฐฯ รวมทั้งตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าตัวเลขจะออกมาไม่ได้แย่กว่าที่ตลาดกังวล ทำให้ไม่กดดันตลาดหุ้นไทยมากนัก แต่หากอ่อนแอมากขึ้น คาดจะทำให้ตลาดมีคาดหวังมากขึ้นต่อการเร่งปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในระยะถัดไป ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
แนวรับ – แนวต้าน : 1278/1268– 1290/1293
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ ตลาดรอติดตามการแถลงนโยบายรัฐบาล และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในต่างประเทศ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากฤดูกาลและจากปัจจัยเฉพาะตัว ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตระยะสั้น คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT (XD 1 ต.ค.) TTB (XD 6 ต.ค.)
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR
4. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงและต้องการเก็งกำไร 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากช่วงวันหยุดยาวชาติจีน 1-8 ต.ค. กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) 2) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคและการท่องเที่ยว กลุ่มค้าปลีก/ส่ง (CPALL CPAXT BJC TNP) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) และกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) และ 3) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากความต้องการซ่อมแซมถนนและที่อยู่อาศัย หลังน้ำท่วมกลุ่มวัสดุก่อสร้างและกลุ่มค้าปลีก (TASCO BJC HMPRO GLOBAL)
Daily Top Picks
CPAXT: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากโครงการคนละครึ่งพลัส คาดการเติบโตของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นใน 2H68 จะดีกว่า 1H68 ประมาณการกำไรปี 2568 +5% YoY ซึ่งการเติบโตจะได้แรงหนุนจาก Synergy โครงการ Habitat และการเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่จากระดับปัจจุบัน ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้น 23.60 บาท
GULF: ได้ประโยชน์จากแนวโน้ม Yield ที่ลดลง ใน 2H68 จะมีการ COD โรงไฟฟ้าใหม่ 7 โรงรวม 597MW ขณะที่ โรงไฟฟ้า Jackson (1,200MW, ถือ 49%) รับ Capacity Payment ใหม่จาก US$30 เป็น US$270/MW-day Data Center 25MW เริ่มรับรู้รายได้และ COD โครงการ Solar/Solar+BESS ราคาเป้าหมายระยะสั้น 44.50 บาท