วันพุธที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Up โดยในช่วงแรกมีแรงขายกดดันมากในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อย่างไรก็ตาม Fund Flow ที่ไหลกลับเข้ามา เป็นปัจจัยหนุนดัชนีกลับมายืนในแดนบวก มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก ขนส่ง และไอซีที ขณะที่วานนี้กระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขการส่งออกขยายตัวเพียง5.8% จากตลาดคาด 6.7-8% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,278.41 จุด +5.21 จุด +0.41%มูลค่าการซื้อขาย 38,563.93 ลบ. Program Trading +275.93 ลบ. ต่างชาติ +1,326.54 ลบ. TFEX-4,913 สัญญา ตราสารหนี้+144.31 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ +2.49% ปิดที่64.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันตึงตัว หลังจากมีรายงานว่ากองทัพของยูเครนได้โจมตีสถานีสูบน้ำมันในรัสเซีย
+ สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 20.5% สู่ระดับ 800,000 ยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 630,000 ยูนิต จากระดับ 664,000 ยูนิตในเดือนก.ค.
+ สมาคมธนาคารเพื่อการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (MBA) ของสหรัฐฯเปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 0.6% ในสัปดาห์ที่แล้วหลังอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 171.50 จุด หรือ -0.37% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายท าก าไรหลังจากเจอโรม พาวเวลประธาน FED เตือนว่าราคาหุ้นอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์นี้เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ FED
- Fitch Ratings ปรับลดมุมมอง (Outlook) ความน่าเชื่อถือไทยเป็นลบ(Negative) แต่คงอันดับเครดิตเรตติ้งที่ BBB+ จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อแนวโน้มการคลังสาธารณะของประเทศไทยอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้อ
- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) พัดถล่มเกาะไต้หวัน ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงเขื่อนกั้นน้ าที่พังทลายลงมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย และมีผู้สูญหายจ านวนมาก
- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยเดือน ส.ค.2568มีมูลค่า 27,743.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.8%YoY แม้บวกต่อเนื่อง14 เดือนแต่ขยายตัวในอัตราชะลอลงมาก หลังมีการบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรต่างตอบแทนของสหรัฐ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ในช่วง8M68 ส่งออกขยายตัว 13.3% โดยมีมูลค่า 223,175.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- ททท.คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้เหลือ 33.4 ล้านคน ลดลง 6%YoYโดยนักท่องเที่ยวจีนร่วงแรงถึง 35% ขณะที่ตลาดอาเซียนก็ติดลบ 8%จากผลพวงของเงินบาทแข็งค่าเป็นหลัก

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้โดยมีโอกาส Rebound ต่อจากวันก่อน โดยมีแรงหนุนจากความคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ประกอบกับมีแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำ มันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่1,270-1,285 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
-หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : SAWAD TIDLOR THANI NCAP SAK
-กระทรวงการคลังพร้อมเดินหน้าโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP
- ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น. : CBG MENA BJC CPALL CPAXT TNP KK MOTHER