วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down โดยมีแรงกดดันจาก Fund Flow ที่ไหลออก แรงขายนำโดยกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง ตามด้วยแรงขายในหุ้นกลุ่มขนส่ง ไอซีทีและค้าปลีกอย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ครม. ชุดใหม่ ส่งผลให้ดัชนี SET Indexปิดตลาดที่ 1,282.54 จุด -10.18 จุด -0.79% มูลค่าการซื้อขาย 31,595.35 ลบ. Program Trading-2,230.86 ลบ. ต่างชาติ-1,671.74 ลบ. TFEX +8,267 สัญญา ตราสารหนี –7,690.14 ลบ

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ น 66.27 จุด หรือ +0.14% โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันวันที่ 3 เนื่องจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นปัจจัยหนุนตลาด
+ เจ้าหน้าที่บางคนของธนาคารกลางสหรัฐฯ แสดงความสงสัยถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี ยเพิ่มเติม หลังจากที่ FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2567 พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับลดเพิ่มเติมในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป
+ คิม จองอึน ผู้นำกาหลีเหนือ ประกาศว่ารัฐบาลเปียงยางพร้อมกลับมาเจรจากับสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง หากรัฐบาลวอชิงตันยอมถอนข้อเรียกร้องเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์
+ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ2568 (ต.ค.2567-ส.ค.2568) กรมจัดเก็บรายได้รวม 4.89 แสนล้านบาทเติบโต 1.6%YoY คาดทั้ งปีจะจัดเก็บได้ตามเป้าหมาย 5.35 แสนล้านบาทหรือสูงกว่าปีก่อน 2.17% สอดคล้องกับเอกสารงบประมาณ

ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 4 เซนต์ หรือ -0.06% ปิดที่62.64 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า อิรัก ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มการส่งออกน้ำมัน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
- Citi Group คาดการณ์ว่า ทองคำอาจปรับตัวขึ้นสู่ระดับ3,800-4,000 ดอลลาร์ ส่วนเงินบาทแข็งค่า 31.58 บาทต่อดอลลาร์ฉุดยอดนักท่องเที่ยวหดตัวลงโดยเฉพาะสหรัฐฯ ลด 5%
- ฮ่องกงเตรียมพร้อมรับมือซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) หนึ่งในพายุรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งส่งผลให้โรงเรียนและธุรกิจบางส่วนต้องปิดทำการ ขณะที่เที่ยวบินโดยสารส่วนใหญ่จากสนามบินฮ่องกงจะถูกระงับตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงเช้าวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.)
-ธนาคารไทยพาณิชย์ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในช่วงกลางถึงระยะยาวมองว่าแรงกดดันด้านแข็งค่าต่อเงินบาทจะยังอยู่ แต่เงินบาทน่าจะไม่แข็งค่าไปจากระดับปัจจุบันมากนัก โดยมอ ง ก ร อบ สิ้นปีนี้31.00-32.00 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอและเครื่องชี้ เช่น การส่งออก และการบริโภคภาคเอกชน มีแนวโน้มชะลอลงต่อได้ในช่วงที่เหลือของปี

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด นักลงทุนยังจับตานโยบายรัฐบาล ที่จะแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาในสัปดาห์หน้า คาดกรอบดัชนีวันนี้ ที่ 1,275-1,290 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : SAWAD TIDLOR THANI NCAP SAK
- กระทรวงการคลังพร้อมเดินหน้าโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP
- ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น. : CBG MENA BJC CPALL CPAXT TNP KK MOTHER