Bangkokbiznews รายงานว่า รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเสนอให้ลดค่าไฟฟ้าอย่างน้อย 0.04 บาท/กิโลวัตต์ชั่วโมง ในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2026F (เทียบกับอัตราปัจจุบันที่ 3.94 บาท/กิโลวัตต์ชั่วโมง)

• เรามองว่าสถานการณ์เป็นกลางต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า เราเชื่อว่าผลกระทบจากอัตราค่าไฟฟ้าที่ลดลงน่าจะได้รับการบรรเทาด้วยต้นทุนก๊าซที่ลดลง ประกอบกับอุปทานก๊าซธรรมชาติภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น ราคา LNG เฉลี่ยที่ลดลง และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น การคาดการณ์ของเราได้คาดการณ์อัตราค่าไฟฟ้าที่ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 3.88 บาท/กิโลวัตต์ชั่วโมง ในปี 2026F (เทียบกับ 4.02 บาท/กิโลวัตต์ชั่วโมง ในปี 2025F) และต้นทุนก๊าซที่ 299 บาท/ล้านบีทียูในปี 2026F (เทียบกับ 324 บาท/ล้านบีทียูในปี 2025F) จากการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของเรา พบว่าการปรับลดค่าไฟฟ้าทุกๆ 0.01 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง จะส่งผลกระทบต่อกำไรประมาณ 0.70% ของ GPSC และ BGRIM ในปี 2026F

• เรายังคงมุมมองเชิงบวกในระยะสั้นสำหรับบริษัทสาธารณูปโภคของไทย และชอบ GPSC มากกว่า BGRIM ในบรรดาบริษัทผลิตไฟฟ้าและความร้อนร่วม เราเชื่อว่า GPSC มีความเสี่ยงอย่างมากจาก IU margin ที่ดีกว่า การเข้าซื้อสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้นจากบริษัทในกลุ่ม ปตท. และการคาดการณ์ว่าผลประกอบการและมูลค่าที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจาก Avaada

• เราแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ GPSC โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 49.00 บาท และ "ถือ" สำหรับ BGRIM โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 15.00 บาท