Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.พาย : Pi Daily

106

 

 

Pi Daily ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเริ่มนิ่งเพราะรอติดตามประชุม FED ปลายสัปดาห์ ซึ่งไม่แน่อาจเจอแรง Sell On Fact เพราะรับกับดอกเบี้ยไปแล้ว ขณะที่ดอกเบี้ย FED อาจปรับลงได้ไม่ทันใจกับตลาดหวังเพราะเงินเฟ้อยังสูง

ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 273 จุด (-0.6%) อย่างไรก็ตามดัชนี Nasdaq ปิดแดนบวกเพราะได้แรงหนุนจากหุ้น Microsoft ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.5% แรงกดดันจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

คืนวันศุกร์ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยมิชิแกนได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ 55.4 ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 58.2 จากการสำรวจพบว่าผู้บริโภคมีมุมมองเชิงลบต่อทิศทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะผู้บริโภคที่มีรายได้ระดับล่างและระดับกลางทั้งนี้ประเด็นการค้ายังเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสนใจสูงแต่โดยรวมก็สะท้อนถึงทิศทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 93% ที่ FED จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน สำหรับปัจจัยในประเทศตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวกเล็กน้อย (+0.4%) แต่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 764 ล้านบาท ปัจจัยในประเทศยังทรงตัว (ไม่มีปัจจัยใหม่ๆที่มีนัยยะสำคัญ) หลังรับทราบประเด็นบวกจากการลดดอกเบี้ยของ FED พร้อมกับรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทมีปัจจัยน่าสนใจพบว่าในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าพบว่ากระแสเงินทุนต่างชาติมิได้เข้ามาในตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยยะหากพิจารณาเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯช่วงต้นปีอยู่ที่ 34.3 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯและแข็งค่าลงมาอยู่ที่ 31.6 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ (ล่าสุด) แต่กลับพบว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 8.5 หมื่นล้านบาท สะท้อนถึงปัญหาเชิงปัจจัยพื้นฐานของประเทศไทยที่เป็นไปได้ทั้งเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนขยายตัวต่ำ คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามเพราะนักลงทุนจะรอดูการประชุม FED ในคืนวันพฤหัสหรือจะทราบผลทางการในช่วงเช้าของวันศุกร์ ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ถือว่าปรับขึ้นมาสะท้อนปัจจัยคาดหวังผ่อนคลายนโยบายการเงินไปพอสมควร จึงควรระมัดระวัง Upside ที่อาจจำกัดในระยะสั้น แต่กับตลาดหุ้นไทยเชื่อว่าจะไม่ได้เห็นการปรับฐานแรงเพราะยังมีความคาดหวังจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1285 – 1300 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเลือกหุ้นที่รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO CPAXT) การเงิน (MTC) อสังหาริมทรัพย์ (AP SPALI) นิคมอุตสาหกรรม (AMATA WHA) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB)

SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 137.00 บาท)
ชอบที่ SCB มุ่งมั่นในการเพิ่ม ROE และรักษาผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายเงินปันผลสูง โดยคาดผลตอบแทนเงินปันผลสูงสุดในกลุ่มธนาคารที่ 9.2% และคาดกำไรสุทธิปี 2025 จะเติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคารใหญ่ที่ 7.2% ในปี 2025

WHA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 5.10 บาท)
ในช่วง 2H25 ซึ่งในแง่เป้าการดำเนินงานยังคงเป็นไปตามแผนเดิมในทุกธุรกิจเหมือนที่กล่าวไว้ตอนประชุมนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุด อย่างเช่นเป้าการขายที่ดิน การเพิ่มพื้นที่เช่าธุรกิจโรงงาน รวมถึงเป้าการขายน้ำและไฟ แม้จะมีการปรับลดงบลงทุนลงหลังจากมีบางธุรกิจมีการปรับแผนงานใหม่ก็ตาม

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ใครกัน อินฟูลฯปั่นหุ้น By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เสพ ข่าวรวบเครือข่ายพิธีกรรายการเรียลิตี้โชว์ธุรกิจดัง รวมหัวปั่นหุ้น .....

TPCH รับประกาศฯ เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์

TPCH รับประกาศฯ เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์

มัลติมีเดีย

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้