วันศุกร์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหว Sideway ในแดนบวกตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังสหรัฐเผยตัวเลขการจ้างงานซบเซา อีกทั้งได้แรงหนุนจากความตึงเครียดทางการเมืองคลี่คลายลง หลังได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แต่ยังต้องติดตามการจัดตั้ง ครม. มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง และค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่1,264.80 จุด +12.25 จุด +0.98% มูลค่าการซื้อขาย 51,657.81 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี+28.19 จุด +2.28%) Program Trading +630.70 ลบ. ต่างชาติ +1,005.88 ลบ. TFEX +13,817 สัญญาตราสารหนี้-274.16 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า GDP 2Q68 ขยายตัว 2.2%YoY ดีกว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าขยายตัวเพียง 1%YoY
+ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งบริหารเพื่อเปิดทางให้ยกเว้นภาษีนำเข้าบางส่วนแก่ประเทศคู่ค้าที่บรรลุข้อตกลงด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เช่นนิกเกิล ทองคำ และโลหะอื่น ๆ รวมถึงสารประกอบทางเภสัชภัณฑ์และสารเคมีภัณฑ์มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 00:01 น. ของวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.
+ กระทรวงการคลังพร้อมเดินหน้าโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ได้ทันทีหลังรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนโดยมีงบประมาณ 25,000 ล้านบาท รอใช้อยู่แล้ว ขณะที่ระบบแอปเป๋าตังและฐานข้อมูลร้านค้ากว่า 1 ล้านร้านพร้อมทำงานคาดเริ่มให้บริการได้ภายใน 30-45 วัน หรือเร็วที่สุดเดือน ต.ค.นี้
+ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอัญเชิญพระบรมราชโองการมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทยแต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 220.43 จุด หรือ -0.48% หลังนักลงทุนประเมินระหว่างความกังวลด้านเศรษฐกิจกับความหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
สหรัฐฯ หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่าการจ้างงานของสหรัฐฯ อ่อนแอลงอย่างมากในเดือนส.ค.
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดล ง 1.61 ดอลล าร์ หรือ -2.54% ปิดที่61.87 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอท าให้แนวโน้มความต้องการพลังงานลดลง ขณะที่อุปทานอาจเพิ่มขึ้นอีกหลังการประชุมของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรในช่วงสุดสัปดาห์นี้
-โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 137,000 บาร์เรล/วันในเดือนต.ค.โดยมีเป้าหมายเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมา
- สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานใหม่เพียง 22,000 ต าแหน่งในเดือนที่ผ่านมา ต่ ากว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ที่ 75,000 ตำแหน่ง เป็นสัญญาณอ่อนแอในตลาดแรงงานสหรัฐฯ
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมใช้มาตรการกำแพงภาษีกับ บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทุกรายที่ไม่ยอมย้ายฐานการผลิตเข้ามาตั้งในสหรัฐฯ พร้อมส่งสัญญาณว่าอัตราภาษีจะอยู่ในระดับที่ "สูงพอสมควร" เพื่อบีบให้บริษัทยักษ์ใหญ่ต้องตัดสินใจ
- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศว่าหากชาติตะวันตกส่งกองกำลังทหารเข้าไปประจำการในยูเครน รัสเซียจะถือว่ากองกำลังเหล่านั้นเป็นเป้าหมายที่สามารถโจมตีได้อย่างชอบธรรม
- ตลท. สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม-5 กันยายน 2568แยกเป็นสถาบันในประเทศขายสุทธิ 4,564.50 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ16,704.21 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 83,593.30 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 104,867.00 ล้านบาท
-ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ข้อมูลเครดิตบูโรพบว่า NPL และหนี้ค้างช าระ 31-90 วัน(SM) รวมกันอยู่ที่ 5.03% ของสินเชื่อธุรกิจรวม แม้จะอยู่ระดับทรงตัวแต่สถานการณ์แย่กว่าช่วง 1 ปีหลังเปิดประเทศจากเหตุโควิดโดยเฉพาะใน 2Q66 ที่มีสัดส่วนหนี้NPL + SM ที่ 4.39%

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ส่งผลให้นักลงทุนมีความคาดหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลชุดใหม่ คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,260-1,270 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : SAWAD TIDLOR THANI NCAP SAK
- รัฐบาลเปิด Sandbox ให้ชาวต่างชาตินำคริปโตแลกเงินบาทผ่านโครงการ TouristDigiPay : ธนาคาร KBANK SCB BAY โรงแรม MINT CENTEL ERW AWC สาการบินAAV BA บันเทิง MAJOR
- ผู้ให้บริการระบบเสนอขาย G-Token : SCB KBANK XPG
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดตัว iPhone 17 : ADVICE COM7 SYNEX SPVI JMART CPW
- กระทรวงการคลังพร้อมเดินหน้าโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP