Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

120

 


ภาพตลาดและแนวโน้ม

อัปเดตกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค


Key Findings
กระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติยังคงไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง ด้วยแรงขาย 1,529 ล้านดอลลาร์ ต่อเนื่องจากแรงขาย 4,882 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยแรงขายส่วนใหญ่มาจากตลาดหุ้นเอเชียเหนือ ได้แก่ เกาหลีใต้ (-697 ล้านดอลลาร์) และ ไต้หวัน (-474 ล้านดอลลาร์) ขณะที่ตลาด TIP นั้นมีแรงขายทั้งในตลาดหุ้นไทย (-383 ล้านดอลลาร์) และฟิลิปปินส์ (-67 ล้านดอลลาร์) ส่วนอินโดนีเซียเป็นเพียงตลาดเดียวที่มีแรงซื้อเข้ามาที่ระดับ 168 ล้านดอลลาร์
ในเชิงหมวดอุตสาหกรรม สัญญาณจากดัชนี Volume Index ของแต่ละตลาดสะท้อนแรงซื้อที่โดดเด่นในกลุ่ม Energy ในตลาดหุ้นฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย


Implications
Fund Flow ที่ไหลออกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ส่งสัญญาณชัดเจนว่าการขายทำกำไรยัง ไม่ใช่จุดจบ โดยเฉพาะในตลาดหุ้นไต้หวันและเกาหลีใต้ที่ระดับดัชนียังคงเคลื่อนไหวในโซนบนของกรอบราคาปีนี้ ซึ่งมักเป็นจุดที่นักลงทุนเลือกทยอยลดความเสี่ยง นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบเชิงปริมาณระหว่างแรงขายสุทธิใน 2 สัปดาห์ล่าสุด (6.4 พันล้านดอลลาร์) กับแรงซื้อสะสมใน 8 สัปดาห์ก่อนหน้า (18.7 พันล้านดอลลาร์) สะท้อนว่า แรงกดดันในการปรับฐานคงยังไม่จบลงในระยะสั้น
ในส่วนของตลาดหุ้นไทย สัญญาณของ Volume Index ก็สะท้อนความระมัดระวังของนักลงทุนเช่นกัน เนื่องจากอ่อนแรงลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม ทั้งนี้ความไม่แน่นอนทางการเมืองน่าจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะอันใกล้ อย่างไรก็ตามเราคาดว่าเซคเตอร์ Commerce และ ICT น่าจะปรับตัวได้ดีกว่าตลาดในสัปดาห์นี้


อัปเดต Market-Timing Indicator ของตลาดหุ้นไทย:


Key Findings:
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ -0.2% ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ไร้ปัจจัยหนุนใหม่ โดยสัญญาณจากชุดดัชนี Market-Timing Indicator ยังคงชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงพักฐาน และมีแนวโน้มที่สถานการณ์นี้จะดำเนินต่อเนื่องในระยะ 1–2 สัปดาห์ ข้างหน้า
การอ่อนตัวของดัชนี Composite Short-term สะท้อนถึงแรงส่งของตลาดในระยะสั้นที่เริ่มหมดลง โดยการปรับตัวลงจากกรอบบนของดัชนี ถูกกดดันจากการลดลงพร้อมกันของ Short-term Momentum Strength และ Short-term Bull-to-Bear โดยทั้งสองดัชนีดังกล่าวไม่เพียงแต่อ่อนแรงเท่านั้น แต่ยังปรับลงจากโซนบนในลักษณะที่คล้ายคลึงกับรูปแบบที่ตลาดเคยเข้าสู่การพักฐานหลังจากแตะจุดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2024 ซึ่งเป็นจังหวะที่ภาวะตลาดขาดแรงส่งเชิงบวก และนักลงทุนเริ่มทยอยลดน้ำหนักการลงทุน

นอกจากนี้ ดัชนี Composite Medium-term ก็อ่อนแอลงเช่นกัน โดยองค์ประกอบหลักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Medium-term Bull-to-Bear และ Volume Flow Index ได้ปรับตัวลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่า SET จะยังคงอยู่ในช่วงพักฐาน


Implication:
ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเผชิญการพักฐานระยะสั้น จากการอ่อนแอลงของทั้งดัชนี Composite Short-term และ Composite Medium-term โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสถานการณ์การเมืองในประเทศยังขาดความชัดเจน ก็จะยิ่งเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดในระยะอันใกล้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้าไว้ที่ 1,180-1,250 จุด

สรุปภาพตลาดวานนี้
หุ้นไทย ไม่ยอมลง โดยหุ้นกลุ่มดันมาบวกหลักๆ ค้าปลีก (โดยเฉพาะกลุ่มอยู่ล่าง-ลงไปเยอะ อย่าง Home-Improvement) ขณะที่แรงขายไปอยู่ที่กลุ่มการเงิน โรงไฟฟ้า เป็นหลัก

แนวโน้มตลาดวันนี้
1230 รับอยู่ (อีกครั้ง!)
หุ้นไทยเมื่อวานลงมาโซนแนวรับ 1230 จุด และรีบาวด์ตามคาด โดยเราคงมุมมองกลยุทธ์ประจำสัปดาห์ว่าตลาดหุ้นไทยจะมี Downsides จำกัด ทั้งนี้แนวโน้มการรีบาวด์จะเกิดขึ้นได้ต่อเนื่อง เมื่อการเมืองในประเทศชัด จนได้ รบ.ใหม่มาดำเนินการใช้งบประมาณตามแผนงาน, แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น งบช่วยน้ำท่วมภาคเหนือ และงบบริหารจัดการน้ำก่อนฤดูน้ำหลาก, เหตุปะทะชายแดนกัมพูชา และภาคใต้ ปลายทางคือเดินหน้า จัดการเลือกตั้ง
ดังนั้นความเสี่ยงขาลงของตลาดหุ้นไทยระยะสั้น จึงมีโอกาสเกิดขึ้นก่อนเพื่อรับความกังวลเรื่องเศรษฐกิจในประเทศขาด งบประมาณในการกระตุ้น แต่เชื่อว่าไม่นาน จะได้เห็นโฉมรัฐบาลใหม่ (เราเห็นว่า รัฐบาลรักษาการณ์ ไม่น่าจะยุบสภาฯ)
กลยุทธ์แนะนำแบ่งกลุ่มหุ้นออกเป็น 2 ช่วงจังหวะในการเลือกซื้อตอนตลาดหุ้น ปรับฐาน
ระยะสูญญากาศการเมือง (ระหว่างรอ ครม.ใหม่) เน้นเล่นหุ้น Global play: อิงรายได้จากต่างประเทศ, หุ้นปันผลสูง
ระยะ 2 ช่วงจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล เริ่มโหลดหุ้น Big Cap ใหญ่ในกลุ่มธนาคาร สินเชื่อ เมื่อราคาหุ้นปรับฐาน (โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร หลังขึ้น XD ไปแล้วในช่วงต้นเดือน กย.โดยจังหวะช้อนจะเป็นช่วงครึ่งหลังเดือน กย.เป็นต้นไป)

และเมื่อได้โฉมหน้า ครม.ใหม่ เราคาดว่าหุ้นไทยจะแรลรี่ได้ และตลาดจะเริ่มมองไปถึง Upside แนวโน้มกำไร บจ.ไทยปีหน้า, การใส่ความคาดหวังเชิงบวกจัดเลือกตั้งเร็วขึ้นกว่าเดิม กลุ่มเด่น หุ้นเชื่อมโยง การบริโภคในประเทศ อาหาร ท่องเที่ยว และ หุ้นส่งออก (บาทอ่อน)

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ถือหุ้นปันผล สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลงมาตามแนรับ เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลระหว่างกาลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET รีบาวด์แต่! ยังคงเคลื่อนที่อยู่ในโครงสร้างคลื่นขาลง corrective wave “c“ สู้เมื่อลงทดสอบเส้น EMA 25 วันที่ 1,235 อย่างไรก็ตาม MACD alert! เตือนความเสี่ยงของการปรับฐานระยะสั้น หากหลุดเส้น EMA มีโอกาสลงมาที่โซนรับถัดไป 1,200 จุด (Fibo 38.2%) คาดจบคลื่นขาลงแบบสมบูรณ์ สำหรับนักลงทุนที่เล่นรอบ ขายหุ้นลดพอร์ตไปแล้ว แนะรอจังหวะช้อนซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวลงมาที่โซนรับ เนื่องจากโครงสร้างระยะยาว ดัชนียังสามารถขึ้นได้อีก (Impulse wave 3) โดยมีเป้าหมายของรายเดือนอยู่ที่ 1,280 จุด

ไฮไลท์หุ้นแนะนำ: เมื่อตลาดเทใจมาที่กลุ่มค้าปลีก “CPALL”/ DELTA สุ่มเสี่ยงหลุดเส้น EMA…./ BH สู้บนเส้น EMA 200 วัน / GLOBAL รูปแบบกลับตัว “Inverse Head & Shoulder” / TOP ขาขึ้นยังไม่จบ…

 

What to watch
FTSE จะปรับหุ้นใหม่ มีผล 19 ก.ย. ลด CPAXT ไปกลุ่ม MID Cap, BGRIM SAWAD ลดไปกลุ่ม Small Cap และ มีหุ้นถอดออกจาก Small Cap ได้แก่ BEC BSRC FORTH PSH SINGER SUPER THANI TKN TQM
ศาลฏีกาได้นัดฟังคำสั่ง คดี “ทักษิณรักษาตัวชั้น 14” วันที่ 9 ก.ย. เวลา 10 น.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 91.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย.นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือน ธ.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้
SCGP BLS Research ออกรายงาน Idea call แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายใหม่ 21 บาท
แนวรับ 17.4 ต้าน 18/18.5 Stop loss 16.6.

Tactical port ถอด AMATA WHA เพิ่ม WHAUP SCGP

 

 

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Commodities Tracker
ค่าระวางเรือเทกองกลับมาเด่น
ภาพรวม: ค่าระวางเรือเทกอง (BDI) ปรับขึ้นแรงสุด WoW ตามด้วยราคาน้ำมันดิบ ขณะที่สเปรดเคมีส่วนใหญ่และค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ปรับลดลงแรงสุด โดยความคาดหวังว่าสงครามการค้าจะคลี่คลายหลังสหรัฐฯ เจรจากับคู่ค้าสำคัญสำเร็จยังเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นโภคภัณฑ์หลังจากนี้
น้ำมันดิบ: Dubai เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.15 เหรียญ WoW สู่ 69.96 เหรียญ/บาร์เรล จากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนที่รุนแรงขึ้น และสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง
ค่าการกลั่น (GRM): Singapore GRM เฉลี่ยอ่อนตัวลงอีก 0.22 เหรียญ WoW สู่ 3.87 เหรียญ/บาร์เรล น้ำมันเบนซิน -1.29 เหรียญ สู่ 10.76 เหรียญ/บาร์เรล จากดีมานด์อินเดียอ่อนตัวและ ซัพพลายมากขึ้น ส่วนน้ำมันเครื่องบิน +0.19 เหรียญ สู่ 14.74 เหรียญ/บาร์เรล และดีเซล +0.05 เหรียญ สู่ 15.85 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ น้ำมันเตา -1.02 เหรียญ สู่ -5.61 เหรียญ/บาร์เรล
เคมีภัณฑ์: ส่วนใหญ่ปรับตัวลงจากต้นทุนนาฟทาที่สูงขึ้น Ethylene -6 เหรียญ WoW สู่ 211 เหรียญ/ตัน, HDPE -26 เหรียญ สู่ 336 เหรียญ/ตัน, PP -26 เหรียญ สู่ 346 เหรียญ/ตัน ส่วน Propylene +9 เหรียญ สู่ 186 เหรียญ/ตัน
ถ่านหิน: NEX ลดลง 1.26 เหรียญ WoW (-1%) สู่ 109.85 เหรียญ/ตัน จากแรงซื้อในภูมิภาคที่ชะลอ
ค่าระวางเรือ: BDI เพิ่มขึ้น 82 จุด WoW (+4%) สู่ 2,032 จาก Panamax +10% และ Supramax +5% ส่วน Capesize +1% ขณะที่ WCI (Container) ลดลงอีก 131 จุด (-6% WoW) สู่ 2,119
Fundamental view: หุ้นเด่นยังเป็น TOP (ได้ประโยชน์จาก GRM ที่สูง และ valuation ถูก), IVL (คาดกำไร 2H25 ฟื้น HoH), และ PTTGC (คาด 3Q25 กำไรดีขึ้น QoQ)

 

Tactical Play
นักวิเคราะห์ไม่รับลูกคิวบู๊บริษัท
สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในช่วง 2Q25 ยังเห็นภาพ Guidance ที่ไม่ค่อยแม่นยำโดยเฉพาะกลุ่มเชื่อมโยงการท่องเที่ยว-ต่างชาติ ซึ่งก็เป็น Fact ที่รับรู้กันไปแล้ว โดย MGRI ในภาพรวม อยู่ที่ 41 คะแนน ความแม่นยังน้อย มอง Realistic แค่ 27% แต่สิ่งที่สังเกตุเห็น คือ หุ้นกลุ่มใหญ่หลายกลุ่มที่กลับมาแม่นยำอย่างธนาคาร พลังงาน เกษตร-อาหาร
สำหรับการสำรวจรอบ 3Q25 พบว่า Guidance ปี 2025 ที่นักวิเคราะห์มองอนุรักษ์นิยม (Conservative) กว่าบริษัทถึง 38% (มากสุดตั้งแต่สำรวจมา) จาก 1) บริษัทที่ทำได้ต่ำเป้าหมาย ยังไม่ยอมปรับแผน-เป้าหมาย และ 2) กลุ่มที่ทำได้ดีกว่าเป้าหมาย ปรับเพิ่มเป้าขึ้นไปสูงเกินไป อย่างไรก็ตาม ภาพรวมมุมมองต่อปี 2025 เทียบสำรวจครั้งก่อนพบมีเพียง 9% มองด้านลบมากขึ้น จึงพอที่จะสรุปในอีกมุมมองได้ว่า โอกาสเห็น Downside น้อยลง แต่ก็ยังมีบางประเด็นที่นักวิเคราะห์เห็นว่ามีความเสี่ยงต้องระวัง ได้แก่ 1) ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว และ 2) การแข่งขันด้านราคา

ตั้งแต่การสำรวจเดือน มิ.ย. ที่เรามองเกิดโอกาสจะเห็น นลท. สะสมหุ้นกลับ ปัจจุบัน SET ก็รีบาวด์ขึ้นมากว่า 17% จาก Bottom ขณะที่สั้นๆ ยังมีความไม่แน่นอนของการเมือง ทำให้กลับมาอยู่ในโหมด Selective มากขึ้น เราเห็นนักวิเคราะห์พื้นฐานให้น้ำหนักต่อ Guidance ใหม่ๆ ที่ดูสร้าง Momentum ได้ดีกว่าแค่เกิดชั่วคราว เช่น WHAUP (เล่นกับธีม Data Center ได้ยาวและต่อเนื่อง) SCGP (เล่นกับการฟื้นตัวและ Upside ของธุรกิจในอินโดฯ-เวียดนาม) TFG (ธุรกิจ Retail ดูดีกว่าที่คาด ราคาที่ลงมาตามกลุ่มฯ เป็นโอกาสหาจังหวะสะสม) เป็นต้น


Quantitative Strategy
SET พักฐานเนื่องจากดัชนี Composite Short-term อ่อนแอลง
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง 0.2% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ สำหรับแนวโน้มช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังคงอยู่ในช่วงการพักฐาน ดัชนี Composite Short-term ได้ปรับลงจากกรอบบน ฉุดจากการปรับตัวลงของดัชนี Momentum Strength และดัชนี Bull-to-Bear จากโซนบน ทั้งนี้ สองดัชนีดังกล่าวส่งสัญญาณอ่อนแอลงอีก ส่งผลให้ SET มีแนวโน้มปรับตัวลงในระยะอันใกล้ ขณะที่ดัชนี Composite Medium-term อ่อนแอลงเช่นกันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยองค์ประกอบหลักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Medium-term Bull-to-Bear และ Volume Flow Index ปรับตัวลดลง ซึ่งหนุนมุมมองของเราว่า SET จะยังคงอยู่ในช่วงพักฐาน เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งตัวในช่วง 1180-1250 จุด ในช่วงวันที่ 2-15 ก.ย.

 


สรุปประเด็นจาก Quick take

CPAXT
ซีพี แอ็กซ์ตร้า
เข้าซื้อธุรกิจ food service ที่ประเทศมาเลเซีย มูลค่า 8.1 พันลบ.
แจ้งเข้าซื้อหุ้นกลุ่มบริษัท Renewed Hope ที่ราคา 1,051 ล้านริงกิตมาเลเซีย ผู้บริหารคาดหวังการขยายตลาด food service ในตลาดมาเลเซียและ Lucky frozen มีจุดเด่นเป็นผู้นำตลาดทำกิจการมาแล้ว 60 ปี
View from fundamental: เรามองเป็นกลางต่อข้อมูลที่ได้เพิ่มเติมจากประชุม เพราะธุรกรรมนี้จะไม่มีนัยยะต่อประมาณการกำไรหลักปี 2025-26 ของเรา (+/- ไม่เกิน 2%) แนะนำ ซื้อลงทุน


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

"แมกซ์มาร์ท" มินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน PT ฉลองวันเกิดตลอดเดือนก.ย.-ต.ค.68 "9.9 Birthday MaxMart" ลดมันส์ฉลองเดือนเกิด"

"แมกซ์มาร์ท" มินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน PT ฉลองวันเกิดตลอดเดือนก.ย.-ต.ค.68 "9.9 Birthday MaxMart" ลดมันส์ฉลองเดือนเกิด"

การเมืองแบบไทย ไทย By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ละครการเมืองไทย ก็เป็นการเมืองแบบไทย ไทย ฝั่งกระดานหุ้นไทย นักลงทุน ก็เล่นตาม....

TPCH คว้าคะแนน AGM Checklist "ดีเยี่ยม"

TPCH คว้าคะแนน AGM Checklist "ดีเยี่ยม"

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้