News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

28 ส.ค. 2568 08:59:59 112

Market Wrap-Up

SET วันที่ 27 ส.ค.68 ปิด -3.23 จุด อยู่ที่ 1,248.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,883 ลบ. ต่างชาติขาย 1,872 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 513 ลบ. สถาบันซื้อ 520 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,865 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,403 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,KBANK,BH,TISCO,COM7 และยอดขายหุ้น TRUE,PTT,KTB,CPALL,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,399 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TDEX,LVMH01,HK01 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 1,293 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 96,586 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 958 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ +0.32%, S&P500 +0.24%, Nasdaq +0.21% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +1.15%, เทคโนโลยี +0.5% ขณะที่กลุ่มบริการสื่อสาร, เฮลธ์แคร์ -0.10% โดยนักลงทุนรอรายงานงบ Q2/68 ของ Nvidia ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.10% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล +1.5% นำโดย Swatch +6.3% ขณะที่กลุ่มธนาคาร -1.3% นำโดย Deutsche Bank -3.4%, Commerzbank -4.9% หลัง Goldman Sachs ปรับลดคำแนะนำการลงทุน
Market View
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500 +0.24% ทำจุดสูงสุดใหม่ ระหว่างรอรายงานงบ Q2/68 ของ Nvidia หลังปิดตลาด โดย Nvidia -3.1% แม้ว่าจะรายงานรายได้อยู่ที่ $67 หมื่น ล., EPS ที่ $1.04 สูงกว่าตลาดคาดรายได้ที่ $4.61 หมื่น ล., EPS ที่ $1.01 แต่รายได้จากฝั่ง Data Center ต่ำกว่าคาด สาเหตุมาจากการแบนการส่งออกชิป H20 ไปยังตลาดจีน ขณะที่บริษัทคาดการณ์รายได้ Q3/68 จะอยู่ที่ $5.4 หมื่น ล.+/- 2% สูงกว่าตลาดไว้คาดที่ $5.27 หมื่น ล. ซึ่งยังไม่รวมประมาณการณ์ยอดขายชิป H20 ไปยังตลาดจีน เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนของนโยบายของรัฐบาลจีนที่จะเน้นการใช้ชิปที่ผลิตในประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตามรายงาน US GDP Q2/68 ครั้งที่ 2 คาด 3.0% QoQ, วันศุกร์ US Core PCE ก.ค. คาด 2.9% & มิ.ย. 2.8% YoY เป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อสหรัฐก่อนการประชุม ก.ย.
ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล +1.5% ขณะที่ CAC-40 ฝรั่งเศสฟื้นตัว +0.40% หลังวันก่อนดัชนีปรับลดลง จากความกังวลต่อพรรคฝ่ายค้าน 3 พรรคจะโหวตไม่ไว้วางใจนายก ฯ ฟรองซัวร์ บาอียู ในวันที่ 8 ก.ย. หลังรัฐบาลเตรียมเสนอปรับลดรายจ่ายและขึ้นภาษีมูลค่ารวม 4.4 หมื่น ล.ยูโร เพื่อชำระหนี้ปีนี้มูลค่าราว 6.6 หมื่น ล.ยูโร ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันศุกร์นี้ติดตาม CPI ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สเปน, อิตาลี ส.ค.
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -1.76% ถูกแรงขายทำกำไร หลังข้อมูลกำไรภาคอุต ฯ จีน ก.ค.-1.7% YTD แม้ว่ารัฐบาลจีนจะออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ดัชนีนิเกอิ +0.30%, Kospi เกาหลีใต้ +0.25% อยู่ระหว่างรอรายงานงบ Q2/68 ของ Nvidia และรอประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันศุกร์นี้ติดตาม Tokyo Core CPI ส.ค.
SET วานนี้ -0.26% ปริมาณการซื้อขาย 68 หมื่น ลบ.ต่างชาติขาย 1,872 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 513 ลบ. สถาบันซื้อ 520 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,865 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่ม Global Play เช่น ปิโตรเคมี, วัสดุก่อสร้าง, บรรจุภัณฑ์ และพลังงาน หลังจีนรายงานตัวเลขกำไรภาคอุตฯ ก.ค. -1.7% ชะลอตัวต่อเนื่องจาก มิ.ย. -1.8% YTD แม้ว่ารัฐบาลจะออก ม.กระตุ้นกำลังซื้อและลดกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุต ฯ จีน ขณะที่กลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ อิเล็กทรอนิกส์ +2.39% และกลุ่มไฟแนนท์ +0.36% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ส่งผลให้ต้นทุนด้านการเงินมีแนวโน้มลดลง ซึ่งเป็นผลบวกต่อ Valuation ของหุ้นกลุ่มเหล่านี้ โดยภาพรวมดัชนียังทรงตัว รอวันศุกร์นี้ศาล รธน.จะวินิจฉัยคดีคลิปเสียงของนายก ฯ กับฮุนเซน ว่าจะเข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ รวมร่างงบประมาณรายจ่ายปี 69 ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภา

Daily Strategy

ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,240 แนวต้าน 1,260 คาดดัชนีทรงตัวระหว่างรอศาล รธน.วินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายก ฯ ในวันศุกร์นี้ แนะนำทยอยซื้อ GULF,GPSC,ADVANC ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง และการลงทุนในธุรกิจ Data Center / เก็งกำไรหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น AEONTS,MOSHI,STECON
GFPT* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 12.50 บาท) กำไร 2Q68 เติบโต QoQ, YoY หนุนจาก GPM ที่ดีขึ้น เป็นผลมาจากต้นทุนวัตถุดิบในการเลี้ยงไก่ที่ปรับลดลงตามราคากากถั่วเหลืองและการค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลง แนวโน้ม 3Q68 คาดกำไรยังงทรงตัวได้ QoQ แต่ YoY เห็นการเติบโต แม้ต้นทุนแรงงานอาจเพิ่มขึ้นจากการหาแรงงานทดแทนชาวกัมพูชาบางส่วนที่กลับประเทศไป แต่อาจชดเชยได้ด้วยต้นทุนการเลี้ยงที่ยังปรับลงต่อ ส่วน Volume ส่งออกใน 2H68 อาจจะชะลอลงจากฐานสูงในครึ่งแรกแต่ตัวเลขส่งออกในเดือน ก.ค.68 ยังดูดี ส่วนภาพรวมปี 68 เบื้องต้นตลาดคาดกำไรสุทธิ 22 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อน +12%YoY
CPN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมายBloomberg Consensus 67.33 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 4,305 ลบ.(-6%YoY, +2%QoQ) โดยธุรกิจให้เช่าศูนย์การค้ายังดูโตได้ แต่กดดันจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอสังหาฯที่พักอาศัยอย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวจากครึ่งแรก หนุนด้วย 1.โมเมนตัมธุรกิจให้เช่าฯ ตามกลยุทธ Retail-Led Mixed-Use Development/เปิด Central Park, Central กระบี่ปัจจัยหนุนจาก”เที่ยวไทยคนละครึ่ง”/ปัจจัยตามฤดูกาลในQ4 และ 3.ยอดโอนคอนโดกลับมา/เปิดโครงการแนวราบใหม่ๆ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของCPN* จะอยู่ที่ 17,241 ลบ.(+3%YoY) และ 18,817 ลบ.(+9%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ต.ค.+$0.90 อยู่ที่ $64.15 / บาร์เรล, Brent ต.ค. +$0.83 อยู่ที่ $68.05/บาร์เรล ได้แรงหนุนหลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 2.39 ล.บาร์เรล ขณะที่ตลาดคาดจะลดเพียง 1.7 ล.บาร์เรล

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$15.60 อยู่ที่ $3,448.60 /ออนซ์ นักลงทุนเลือกถือสินทรัพย์ปลอดภัย หลัง ปธน.ทรัมป์สั่งปลดคณะกรรมการเฟด Lisa Cook ซึ่งอาจส่งผลต่อความเป็นอิสระของเฟด และรอข้อมูล US PCE ก.ค. ในช่วงวันศุกร์นี้

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -71.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -57.55 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -13.0 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.72 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 4.239 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +5 อยู่ที่ 2,046

(+) BitCoin เช้านี้ +0.14% อยู่ที่ 111,450 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

27 ส.ค. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

29 ส.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

ต่างประเทศ

25 ส.ค. US อดขายบ้านใหม่ ( ก.ค.)

26 ส.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ( ส.ค.)

28 ส.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)

29 ส.ค. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( ก.ค.)

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง, Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio August 2025: KLINIQ, CPN*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

Analysts

Apichai Raomanachai

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939

Tel 02-829-6999 Ext 2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662