Today’s NEWS FEED

News Feed

InnovestX คาดSET วันนี้ ยังลุ้นงาน Thailand Focus หนุน

236

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(28 สิงหาคม 2568)-------- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 28 สิงหาคม 2568 คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/ลุ้นรีบาวด์สั้นตามแนวรับ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อ แต่มี Big Lot ของ ADVANC ทำให้ยอดสุทธิอาจจะยังไม่ชัดเจน ส่วนการจัดงาน Thailand Focus เป็นวันที่สองยังมีโอกาสหนุนจากสถิติในอดีตที่ SET จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกในช่วงการจัดงาน ตลาดติดตามตัวเลข PCE สหรัฐฯ และคดีการเมืองในวันศุกร์ ด้านเทคนิคหากยังพักฐานสั้นเพื่อขึ้นไม่ควรหลุดแนวรับ 1245-1240 อีกแล้ว การขึ้นมีแนวต้าน 1256/1260

 

 

ประเด็นสำคัญ
• รมช. คลังกล่าวในงาน Thailand Focus เผยว่าคลังมีแนวโน้มจะปรับประมาณการ GDP ปี 2568 ในรอบถัดไปให้สูงกว่าเดิมที่ 2.2% หลังพบสัญญาณทาง ศก. ดีขึ้น และมีปัจจัยหลายด้านหนุนการเติบโต เช่น อัตราภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่ยังแข่งขันได้ และมีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มในประเทศ (RVC) ในระดับสูง ทำให้สินค้าส่งออกสู่สหรัฐฯส่วนใหญ่ได้อัตราภาษีต่ำ
• สหรัฐฯ ขึ้นอัตราภาษีศุลกากรต่ออินเดียสูงสุดถึง 50% หลายรายการ เช่น อัญมณี, สิ่งทอ, อาหารทะเล, ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. นี้ ส่วนกลุ่มสมาร์ทโฟนซึ่งอินเดียเป็นฐานการผลิต iPhone (Foxconn, Pegatron และ Wistron), เวชภัณฑ์, อุปกรณ์พลังงานหมุนเวียน ไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นอัตราภาษี
• รายงานการประชุม กนง. เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2568 มองนโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนคลาย แม้ Policy Space เหลืออยู่ไม่มาก เพื่อสนับสนุน ศก. ไทยที่มีแนวโน้มชะลอใน 2H68 และขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพในปี 2569 และมองเงินเฟ้อในระดับต่ำเกิดจากปัจจัยด้านอุปทาน แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโต และช่วยบรรเทาค่าครองชีพ
• สภาผู้แทนฯ เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ตั๋วร่วมและ รฟม. ในวาระที่สาม และจะถูกส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณา ส่วนร่าง พ.ร.บ. การขนส่งทางราง ได้ผ่านวาระที่สามในสัปดาห์ก่อน
• ก.ล.ต. ร่วมกับ FETCO, ASCO และ AIMC เตรียมแถลงข่าว “มาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย” ในวันที่ 15 ก.ย. 2568 เพื่อสร้างความน่าสนใจให้ นลท. ผ่านมาตรการภาษี, ดึงดูด บ. ต่างประเทศเข้าจดทะเบียน เป็นต้น
• Morgan Stanley เผย Hedge Fund ทั่วโลกเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นจีนต่อเนื่อง ส่วนใหญ่มุ่งไปที่หุ้น A-shares ในตลาดจีน ต่างจากใน ก.พ. ที่เม็ดเงินไหลไปยังหุ้นเทคฯ ในตลาดฮ่องกง หนุนจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน

 


กลยุทธ์การลงทุน
แม้ดัชนี SET มีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดโลกหลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเดือนหน้า แต่ Upside ยังจำกัดเพราะนักลงทุนรอความชัดเจนทางการเมือง โดยวันที่ 29 ส.ค. เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกฯ ซึ่งอาจกำหนดทิศทางตลาดใน 3 กรณีหลัก 1) หากศาลตัดสิน “พ้นจากตำแหน่ง” หรือหากนายกฯ ลาออกก่อน อาจกดดัน SET ลงแรงช่วงสั้นจากความกังวลสุญญากาศทางการเมือง และต้องติดตามการเสนอชื่อนายกฯ คนใหม่หรือการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล 2) หากศาลตัดสินว่า “ไม่มีความผิด” ตลาดมีโอกาสฟื้นช่วงสั้นจากแรงซื้อคลายกังวลต่อเสถียรภาพการเมือง แต่ Upside ยังจำกัดเพราะยังมีคดีอื่นที่รอพิจารณา 3) หาก “ยุบสภา” อาจเป็นผลบวกต่อตลาด เพราะทำให้การเมืองชัดเจนขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

กลยุทธ์ลงทุนจึงยังคงแนะนำ “Selective Buy”

 

แนวรับ – แนวต้าน : 1245/1240– 1256/1260


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
แม้ช่วงสั้นมอง SET จะมีโอกาสปรับขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นโลกหลังประธานเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย แต่คาดตลาดหุ้นไทยมี Upside จำกัด รอติดตามความชัดเจนการเมือง กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC TIDLOR
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT SIRI HMPRO TTB
3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Laggard Play ซึ่งคาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้น SET50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น QTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โดยมี PBV และ PER 2568F < -1SD อีกทั้งมีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมี ESG Ratings A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL MTC PTT WHA 2) หุ้น Global Play เพื่อหลบช่วงที่เสถียรภาพทางการเมืองไทยยังมีความไม่ชัดเจน แนะนำ SCC HANA และ 3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลง และ/หรือ ดอลลาร์อ่อนค่า (บาทแข็งค่า) แนะนำ กลุ่ม REITs (FTREIT LHSC) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF GPSC)

Daily Top Picks
HMPRO: มองราคาหุ้นมีแรงหนุนจากปันผลระหว่างกาล ที่ประกาศจ่าย 0.16 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield 2.2% สำหรับงวด 1H68 ขณะที่แนวโน้ม 3Q68 คาดว่ายอดขายสาขาเดิม (SSS) จะหดตัวช้าลงเมื่อเทียบกับ 2Q68 อีกทั้งยังได้อานิสงส์จากความต้องการซ่อมแซมที่เพิ่มขึ้นหลังน้ำท่วมในบางพื้นที่

GULF: ได้ประโยชน์จากแนวโน้ม Yield ที่ปรับตัวลง ใน 2H68 จะมีการ COD โรงไฟฟ้าใหม่ 7 โรงรวม 597MW, โรงไฟฟ้า Jackson (1,200MW, ถือ 49%) รับ Capacity Payment ใหม่ตั้งแต่ มิ.ย. จาก US$30 เป็น US$270/MW-day ส่วน Data Center 25MW เริ่มรับรู้รายได้ ส.ค.นี้ และการ COD โครงการ Solar และ Solar+BESS

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ทิดจอร์จ-หมอบี/อุ๊งอิ๊ง By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เกาะติดข่าว ทิดจอร์จ-หมอบี เสพแล้ว การละคร บทแตก สร้างแรงสั่นสะเทือนวงการสังฆ์ แรงไม่แผ่ว....

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้