สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(14 สิงหาคม 2568)----------INET โชว์ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 ฟอร์มดี รายได้จากการขายและให้บริการ 1,504.86 ล้านบาท เติบโต 25.01% กำไรก่อนหักภาษี (EBT) มีมูลค่า 98.29 ล้านบาท เติบโต 19.79% จากปีก่อน ปลื้มรายได้จาก Cloud Service และ Digital Platform Service เติบโตต่อเนื่อง เดินแผนครึ่งปีหลังร่วมปลดล็อกศักยภาพเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่เศรษฐกิจคลาวด์อย่างมั่นคง ภายใต้การสนับสนุนจากการเติบโตของเทคโนโลยี AI ที่เร่งขับเคลื่อนการเติบโตของบริการ Cloud Computing และ Cybersecurity รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคนี้
คุณมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INETผู้ให้บริการ Cloud Service และ Digital Platform Service เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 (เม.ย.-มิ.ย. 2568) มีรายได้จากการขายและให้บริการ 775.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.37% และมีกำไรสุทธิ 69.51 ล้านบาท เติบโต 74.65% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2568 (ม.ค.-มิ.ย. 2568) มีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,504.86 ล้านบาท เติบโต 25.01% ขณะที่กำไรสุทธิ 109.30 ล้านบาท ลดลง 12.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งการปรับตัวลดลงเกิดจากปัจจัยด้านภาษีเงินได้ หากเปรียบเทียบกำไรจากการดำเนินงาน โดยเป็นกำไรก่อนหักภาษี (EBT) มีมูลค่า 98.29 ล้านบาท เติบโต 19.79% จากปีก่อน ซึ่งเป็นกำไรที่แท้จริงจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เติบโตได้ดี โดยบริษัทฯ ยังรักษาการเติบโตที่น่าพอใจ แม้ต้องเผชิญกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและแรงกดดันจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการใช้จ่ายภาครัฐที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการสำคัญในหลายภาคส่วน รวมถึงแรงกดดันจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในอุตสาหกรรมไอที
ทั้งนี้การเติบโตครึ่งปีแรกตอกย้ำความสำเร็จธุรกิจ Cloud Service ของบริษัทฯ ที่สามารถเข้าถึงและขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึง 6,188 ราย และมีจำนวน VMI สะสมสูงถึง 88,842 VMI การเติบโตนี้สะท้อนถึงความต้องการของตลาดต่อการใช้บริการ Cloud และ Digital Platform Service อย่างต่อเนื่อง จากการพัฒนาแพลตฟอร์มให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตรงจุด ใช้งานง่ายและแก้ปัญหา Pain Points ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพของแต่ละอุตสาหกรรม ทั้งยังปรับแต่งให้เข้ากับธุรกิจแต่ละขนาด ในขณะที่ภัยคุกคามที่ซับซ้อนและรุนแรงขึ้น ทำให้ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) มีความต้องการในด้านนี้เพิ่มสูงขึ้น
คุณมรกต กล่าวว่า ในครึ่งปีหลัง 2568 บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นกลไกสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจดิจิทัล โดยการพัฒนาโซลูชันคลาวด์และแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ออกแบบมาเฉพาะตามความต้องการของอุตสาหกรรม พร้อมการให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการทุกขนาดโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและยืดหยุ่น ทั้งนี้แนวโน้มอุตสาหกรรมคลาวด์ในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง พร้อมให้ความสำคัญด้านศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมาตรการความยั่งยืน เพื่อรองรับอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป