ภาวะตลาด : SET Index วานนี้ ปิดที่ 1277.43 ปรับขึ้น +18.36 จุด (+1.46%) มูลค่าซื้อขาย 7.0 หมื่นลบ. การปรับขึ้นหนุนโดยหุ้นใหญ่ ได้แก่ DELTA, THAI, PTT, BDMS, ADVANC (เฉพาะ 5 หลักทรัพย์นี้ทาให้ดัชนี +16.13 จุด) นอกจากนั้นการที่กนง.มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ช่วยให้กระตุ้นการลงทุนในช่วงบ่ายด้วย วานนี้มี Big lot หุ้น TIDLOR 8.16 พันลบ. (BAY ซื้อจาก SACA) ส่งผลให้สถาบันในปท.ซื้อสุทธิ 7.8 พันลบ. ต่างชาติขายสุทธิ -6.6 พันลบ. ถ้าไม่รวมรายการนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิราว +1.5 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• จีน: รมช.คลังระบุว่า รัฐบาลจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการ “อุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้” ให้กับภาคประชาชนและภาคธุรกิจเพื่อลดต้นทุนทางการเงินและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย
• สหรัฐ-รัสเซีย: ทำเนียบขาวและผู้เชี่ยวชาญระบุการประชุมสุดยอดทรัมป์ -ปูติน 15 ส.ค.นี้ จะยังเห็นการยุติสงครามอย่างเป็นรูปธรรม แต่จะเป็นการรับฟังข้อเสนอของรัสเซีย เพื่อนำไปสู่การยุติสงครามกับยูเครนในที่สุด
• ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นต่อ จากความหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ WTI & Brent อ่อนต่อเป็ น 62-65 US$/bbl หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐออกมาสูงเกินคาด และ EIA ระบุว่าอุปทานน้ำมันโลกในปี 26 จะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาด
• ดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนสู่ 97.6 เงินบาทแข็งขึ้นเป็น 32.23 Bt/US$ สัญญาทองคาส่งมอบธ.ค.เพิ่มขึ้น +9.3 US$ เป็ น 3,408.30 US$/ออนซ์ ส่วน US bond yield 10 ปีถอยมาที่ 4.22% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 111.8 ดัชนี Baltic Dry Index ขยับขึ้นเป็น 2,025 (high อยู่ที่ 2258)

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ไทย: กนง.มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็ น 1.50% มีผลทันที...ธปท.ยังคงคาดการณ์ศก.ไทยปีนี้โต 2.3% โดยส่งออกที่เติบโตสูงใน 1H25 (+15% YoY) เป็น upside risk ต่อประมาณการ สำหรับดอกเบี้ยเราคาดว่าจะลดอีก 1 ครั้ง ในช่วงที่เหลือปีนี้ และลดอีก 1 ครั้งใน 1H26
• ติดตามการเมืองไทย: สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา, การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 69 (สส.พิจารณาวาระ 2-3 วันที่ 13-15 ส.ค.นี้), ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาทักษิณคดีม.112 วันที่ 22 ส.ค.นี้, ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาและลงมติวินิจฉัยคดีคลิปเสียงแพทองธาร-ฮุนเซนในวันที่ 29 ส.ค.นี้

กลยุทธ์ : สัญญาณทางเทคนิคและ Sentiment ตลาดยังอยู่ในโมเมนตัมบวก แต่ควรระวังการแกว่งตัวที่ 1290-1300 ปัจจัยหนุนหลักของตลาด คือ การลดดอกเบี้ยของไทยและคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ ระยะสั้นให้แนวรับไว้ที่ 1270, 1255-1250 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1285-1290, 1300 ซึ่งในโซนนี้ควรระวังการแกว่งตัว/อ่อนตัว จาก sell on fact หลังจบรายงานผลประกอบการ และความกังวลปัจจัยการเมืองในประเทศ แต่ถ้าอ่อนไม่มาก (คือไม่หลุดเส้น SMA10 ที่ 1250) ก็ยังมีลุ้นการแกว่งขึ้นต่อ

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : OSP – บริษัทมีกำไรหลักใน 2Q25 เท่ากับ 1.01 พันล้านบาท เติบโต +11% y/y, +4% q/q ดีกว่าตลาดคาด 3% กำไรสุทธิ 1H25 คิดเป็น 61% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2025F ของเรา การเติบโตมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 41.9% ซึ่งมาชดเชยกับยอดขายที่อ่อนลง -7% y/y ได้ แนวโน้ม 2H25F ยังไปได้ดี โดย key growth ของปีนี้มาจากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นทำให้ GPM สูงขึ้น รวมถึงควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดี คงคำแนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 19 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829