สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(13 สิงหาคม 2568)------------LPH ประกาศงบไตรมาส 2 ปี 68 เติบโตทุกกลุ่มบริการ มีรายได้รวมอยู่ที่ 674.30 ลบ. โต 18.45% มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 56.62 ลบ. โตทะยาน 401.19% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ผลจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มบริการ และการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีรายได้รวม 1,305.96 ลบ. โต 15.33% ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 90.86 ลบ. เติบโตขึ้น 309.42% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ด้านบอร์ดไฟเขียวเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.03 บาท เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ขึ้น XD วันที่ 25 ส.ค. 2568 จ่ายเงินปันผลวันที่ 5 ก.ย. 2568 นี้ "ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช" ซีอีโอ เผยพร้อมเดินหน้าสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ 2 แห่ง คือ รพ.จักษุอินเตอร์ฯ ลาดพร้าว และรพ.ศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร และปรับปรุงอาคารเก่าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพิ่มศักยภาพการให้บริการ เชื่อแผนปี 2568 รายได้รวมโต 15% ตามแผน

ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้รวมอยู่ที่ 674.30 ล้านบาท เติบโตขึ้น 18.45% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการรักษาพยาบาลที่เติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ 501.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา 21.61 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.50% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักประกอบด้วย รายได้รักษาพยาบาลสำหรับผู้มาใช้บริการที่ชำระเงินเอง รายได้จากโครงการประกันสังคม นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการให้บริการของบริษัทย่อย AMARC เพิ่มขึ้น 83.86 ล้านบาท เติบโต 101.52% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีการเติบโตขึ้นอย่างมากในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในกลุ่มบริการตรวจวิเคราะห์ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง

ส่งผลให้มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ที่ 56.62 ล้านบาท เติบโต 401.19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรขั้นต้นสำหรับธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจบริการรวม 201.49 ล้านบาท เติบโตขึ้น 58.89% มีอัตรากำไรขั้นต้น 30.17% และอัตราการทำกำไรสุทธิรวมปรับตัวสูงขึ้น 9.49% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ภายใต้นโยบายควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนเพื่อขยายศักยภาพการให้บริการทั้งในส่วนบริษัทใหญ่และบริษัทย่อย

สนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,305.96 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15.33% ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 90.86 ล้านบาท เติบโตขึ้น 309.42% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด สำหรับผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 25 สิงหาคม 2568 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 26 สิงหาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 5 กันยายน 2568

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่ายังมีการเติบโตที่ดีโดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 เป็นช่วงฤดูฝนและเข้าสู่ฤดูหนาวสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้มีผู้ป่วยเข้ามารักษาเพิ่มขึ้น โดยแผนธุรกิจในปี 2568 บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมเติบโตที่ระดับ 15% จากปีก่อน ซึ่งภาพรวมปัจจุบันคนไข้ทั่วไปกลับมาเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ทั้งคนไข้นอก (OPD) และคนไข้ใน (IPD) โดยสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มผู้ป่วยจากประกันสังคม (สปส.) ราว 45% เเละกลุ่มผู้ป่วยเงินสดราว 55% ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติทยอยกลับมาใช้บริการมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้จากตะวันออกกลาง และพม่า ซึ่งสนใจเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น

พร้อมเดินหน้าลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ 2 แห่ง คือ รพ.จักษุอินเตอร์ฯ ลาดพร้าว และรพ.ศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร ได้มีการออกแบบเป็นอาคารสีเขียว (Green Building) เทรนด์รักษ์โลก และการปรับปรุงอาคารเก่าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ งบลงทุนจะอยู่ที่ราว 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าการก่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางใหม่ 2 แห่ง จะแล้วเสร็จปลายปี 2569 พร้อมเปิดให้บริการต้นปี 2570 หากการก่อสร้างแล้วเสร็จจะรองรับคนไข้ไทยพรีเมี่ยมและคนไข้ต่างชาติ ซึ่งจะเป็นฐานรายได้สำคัญในกลุ่มผู้ป่วยเงินสดในอนาคตด้วย