สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 21 กรกฎาคม 2568 )----- นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2568 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท ไพร์ม โรด กรุ๊ป จำกัด (“PRG”) ซึ่งเป็นบริษัท ย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ จำหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ไพร์ม เอสโค่ จำกัด (“ESCO”) ในมูลค่า 290.95 ล้านบาท ให้แก่ BECIS Thailand Holding Pte Ltd (“BECIS” หรือ “ผู้ซื้อ”) ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ (“ธุรกรรมการจำหน่ายหุ้นบริษัทย่อยฯ”) โดย ESCO ดำเนินธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) โดยจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าเอกชนตามรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (“สัญญา Private PPA”) ภายหลังธุรกรรม การจำหน่ายหุ้นบริษัทย่อยฯ จะส่งผลให้ ESCO สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยรายละเอียดโครงการภายใต้ ESCO แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มที่ 1 โครงการที่พร้อมจำหน่าย (“โครงการพร้อมจำหน่าย”) จำนวน 14 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 11.476 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว รวม 14.476 เมกะวัตต์)

กลุ่มที่ 2 โครงการที่รอจำหน่าย (“โครงการรอจำหน่าย”) จำนวน 8 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 1.651 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว รวม 0.661 เมกะวัตต์)

โดยโครงการกลุ่มที่ 2 หรือ โครงการรอจำหน่าย ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในการประเมินมูลค่าโครงการที่จะซื้อขายในช่วงต้นของ การเจรจา เนื่องจากสถานะความพร้อมของโครงการนั้นแตกต่างกัน ดังนั้น โครงการที่รอจำหน่ายจึงไม่ได้รวมอยู่ในขอบเขตของ โครงการที่จะจำหน่าย อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อมีความตั้งใจที่จะซื้อโครงการรอจำหน่ายดังกล่าวด้วย ซึ่งสัญญาซื้อขายหุ้นได้ระบุเงื่อนไข ข้อตกลงว่า โครงการรอจำหน่ายดังกล่าวจะมีการประเมินมูลค่าและตกลงราคาซื้อขายภายใน 90 วัน หลังจากการโอนหุ้น ESCO ให้ผู้ซื้อ และผู้ซื้อจะชำระเงินโครงการรอจำหน่ายตามมูลค่าที่ตกลงกันภายใน 15 วันนับจากที่มีการตกลงมูลค่าร่วมกันและเข้าทำ สัญญาซื้อขายโครงการเพิ่มเติม ทั้งนี้ หากผู้ขายและผู้ซื้อไม่สามารถตกลงมูลค่าโครงการรอจำหน่ายร่วมกันได้ภายใน 90 วันนับจาก การโอนหุ้น ผู้ซื้อจะต้องดำเนินการโอนโครงการรอจ าหน่ายดังกล่าว กลับคืนให้กับผู้ขาย หรือบริษัทในเครือที่ผู้ขายกำหนด รวมถึง รายได้จากการขายไฟฟ้าของโครงการรอจำหน่ายหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้เกิดขึ้นตลอดช่วงระยะเวลาที่ได้มีการโอนหุ้นไป

อนึ่ง การที่บริษัทฯ ไม่สามารถเปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้โดนทันทีหลังจากที่คณะกรรมการบริษัทมีมติ อนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าว เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวอาจมีการ เปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น การไม่เปิดเผยข้อมูลโดยทันที จึงมีความเหมาะสมกว่าและเห็นควรให้ชะลอการเปิดเผยไว้จนกว่าจะถึงเวลา ที่ธุรกรรมมีข้อสรุปที่ชัดเจนและแน่นอน