Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

464



SET อาจติดไฟแดง...รอไฟเขียว
TOP PICK BCH / GUNKUL / ERW

 

EXTERNAL FACTOR
• วานนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผย GDP GROWTH 2Q68 ขยายตัว +5.2%YOY สูงกว่าที่ตลาดคาด +5.1% แต่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ +5.4% แรงหนุนหลักๆ มาจากฝั่งอุตสาหกรรมและการส่งออกที่เร่งตัวก่อนขึ้นภาษี
• อย่างไรก็ตาม ประเด็นการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกในช่วง 2H68 ยังมีความเสี่ยงจากผลกระทบของ TARIFFS ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน ส.ค. นี้
• เงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ เดือนมิ.ย. 68 ขยายตัว +2.7%YOY สูงกว่าตลาดคาดเล็กน้อยขณะภาษีเริ่มกระทบบางส่วน แต่ตลาดคาด FED ยังตรึงดอกเบี้ยต่อในเดือน ก.ค. นี้


INTERNAL FACTOR
• สหรัฐฯ ลดภาษี RECIPROCAL เหลือ 19% (จาก 32%) ตามที่อินโดฯ ตกลงยกเลิกภาษีทั้งหมดสำหรับสินค้าสหรัฐฯ (0%) และตกลงซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ อาทิ พลังงาน,
สินค้าเกษตรและ เครื่องบิน BOEING
• ซึ่งต้องติดตามว่าประเทศไทยจะมีข้อเสนออะไรเพิ่มเติมจากสินค้า"ปลานิล ลำไยรถยนต์" หรือไม่ และจะกระทบกับผู้ประกอบการในบ้านเรามากเพียงใด โดยBLOOMBERG คาด GDP GROWTH(YOY) จะโตเพียงไตรมาสละ 1.4%YOYเท่านั้น

 


INVESTMENT STRATEGY
• ไตรมาสที่ 3 มาครึ่งเดือน หุ้นเอเชียกลับมาได้รับความสนใจและขึ้นโดดเด่น รวมถึงตลาดหุ้นไทย +6.6%QTD ขึ้นแรงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองตลาดหุ้นปากีสถาน 8.3% แซงเวียดนาม 6.2% และศรีลังกา 6.0%
• ระยะสั้น: ประเมิน SET มีโอกาสพักตัวก่อน หลังวานนี้ FUND FLOW ต่างชาติสลับมาขายสุทธิ -592 ล้านบาทหลังจากที่ซื้อสุทธิมา 5 วันติด ทำให้การขึ้นมาแรงของ SET มีโอกาสติดแนวต้านสำคัญที่เส้น EMA89 วัน ที่1170 จุด ก่อน ทำให้มีโอกาสเห็นการพักตัวในช่วงสั้นๆ ได้ยังคงแนะนำหุ้นกำไรกลุ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดช่วง 2Q –3Q อย่าง กลุ่ม ETRON : KCE, HANA, กลุ่ม HELTH : BH, BCH กลุ่ม PROP: SPALI, SIRI กลุ่ม FIN: MTC, TIDLOR, SAWAD, KTC

 

 

ครึ่งปีแรกผ่านไปดูเบาใจเรื่อง TARIFFS...แต่ครึ่งปีหลังไม่ค่อยสบายใจ
วานนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผย GDP GROWTH 2Q68 ขยายตัว +5.2% YOY สูงกว่าที่ตลาดคาด+5.1% แต่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ +5.4% แรงหนุนหลักๆ มาจากฝั่งอุตสาหกรรมและการส่งออกที่เร่งตัวก่อนขึ้นภาษี แม้ยอดส่งออกไปสหรัฐฯ จะร่วง -24% ทั้งนี้ กรณีเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้จริง หรือได้รับผลกระทบจาก TARIFFต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ อาจเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่ม CHINA PLAY คาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว อาทิ
• กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม และ LOGISTIC อาจได้รับ SENTIMENT เชิงบวกในช่วงที่จีนปิดเทอม : AOT,SJWD, ERW, CENTEL, MINT, III
• กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์: HANA, KCE, DELTA
• กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย : AP, LH, SIRI ORI
• กลุ่มวัสดุก่อสร้าง : SCC, SCGP
• กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี: PTT, TOP, PTTGC, PTTEP, IVL
• กลุ่มค้าปลีก : CRC, BJC, CPALL
• กลุ่มยางพารา : NER, STA

อย่างไรก็ตาม ประเด็นการเติบโตของเศรษฐกิจจีนยังมีความเสี่ยง โดย BLOOMBERG เตือนว่า องค์ประกอบ GDPของจีน ชี้ถึงความไม่สมดุลระหว่างภาคการผลิตที่เติบโตกับอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ ขณะที่ภาวะเงินฝืดยังยืดเยื้อ และแรงขับจากการส่งออกอาจหมดลงก่อนมาตรการTARIFF ของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้นอกจากนี้ BLOOMBERG ยังได้ประเมิน GDP GROWTH ของประเทศต่างๆ เห็นสัญญาณการชะลอตัว โดยในช่วง2H67 เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวได้ราว 4.0-4.4% ส่วนบ้านเราคาดขยายตัวแค่ 1.4%


อีกประเด็นหนึ่ง เงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ เดือนมิ.ย. 68 ขยายตัว +2.7%YOY สูงกว่าตลาดคาดเล็กน้อยที่ +2.6%YOYและปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อน +2.4%YOY ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ ล่าสุด +2.9%YOY ต่ำกว่าตลาดกว่าคาดเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบาย TARIFFในแง่มุมทิศทางดอกเบี้ย FEDWATCH TOOL คาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าถึงแม้ ปธน. ทรัมป์จะเรียกร้องให้ FED ลดดอกเบี้ยทันที โดยโพสต์ผ่านช่องทาง SOCIAL MEDIA ว่า “CONSUMERPRICES LOW. BRING DOWN THE FED RATE, NOW!!”

 

ความคืบหน้า TRADE TARIFF เป็นอย่างไรบ้าง
ผลการเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ กับประเทศต่าง ๆ เดินหน้าเข้าใกล้ 1 ส.ค.68 มาเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดสหรัฐฯ ลดภาษีRECIPROCAL เหลือ 19% (จาก 32%) ตามที่อินโดฯ ตกลงยกเลิกภาษีทั้งหมดสำหรับสินค้าสหรัฐฯ (0%) และตกลงซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ อาทิพลังงานมูลค่า 15 พันล้านดอลลาร์, สินค้าเกษตรมูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์,เครื่องบิน BOEING จำนวน 50 ลำ (หลายลำเป็นรุ่น 777) เป็นต้น ซึ่งต้องติดตามว่าประเทศไทยจะมีข้อเสนออะไรเพิ่มเติมจากสินค้า"ปลานิล ลำไย รถยนต์" หรือไม่


ซึ่งฝ่ายวิจัยฯนำกลุ่มสินค้าที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากนโยบาย TARIFFS โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
US TARIFFS : กรณีสหรัฐฯ เรียกเก็บ TARIFFS ไทย 36% เสี่ยงกระทบต่อผู้ส่งออกสินค้าจากไทยไปสหรัฐฯ อาทิสินค้าเกษตร เนื้อสัตว์ นม ผัก-ผลไม้ น้ำตาล และยาสูบ
THAILAND TARIFFS : หากไทยไม่เก็บ TARIFFS จากสหรัฐฯ (0%) มีความเสี่ยงที่สินค้าจากสหรัฐฯ เข้าไทย เกิดการแย่งตลาดในไทย อาทิ สารเคมี ปิโตรเลียม ไม้ สิ่งทอ/เสื้อผ้า เครื่องหนัง ชิ้นส่วนอิเล็คฯซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจทำให้เศรษบกิจไทยชะลอตัวลงในช่วง 2H68 โดย BLOOMBERG คาด GDP GROWTH(YOY) จะโตเพียงไตรมาสละ 1.4%YOY เท่านั้น


ไตรมาสนี้ SET ขึ้นเร็วขึ้นแรง อาจพักแปป ก่อนไปต่อ
ไตรมาสที่ 3 มาครึ่งเดือน หุ้นเอเชียกลับมาได้รับความสนใจและขึ้นโดดเด่น รวมถึงตลาดหุ้นไทย +6.6%QTD ขึ้นแรงสุดเป็นอันดับ 2ของโลก เป็นรองตลาดหุ้นปากีสถาน 8.3% แซงเวียดนาม 6.2% และศรีลังกา 6.0%


ระยะสั้น: ประเมิน SET มีโอกาสพักตัวก่อน หลังวานนี้FUND FLOW ต่างชาติสลับมาขายสุทธิ -592 ล้านบาท
หลังจากที่ซื้อสุทธิมา5 วันติด ทำให้การขึ้นมาแรงของ SET มีโอกาสติดแนวต้านสำคัญที่เส้น EMA89 วัน ที่ 1170 จุดก่อน (เช่นเดียวกับคราวก่อนที่ไม่ผ่านเส้นนี้บริเวณ 1230 จุด แล้วย่อลงมาอยู่ที่ 1053 จุด) ทำให้มีโอกาสเห็นการพักตัวในช่วงสั้นๆ ได้


ระยะกลาง : หาก SET เกิดการย่อตัวในช่วงถัดไป ถือเป็นโอกาสทยอยสะสม หวังการดีกลับไปสูงกว่า 1200 จุด จากแรงกดดันต่างๆ เริ่มผ่อนคลายลง และเห็นแนวโน้มกำไรมีโอกาสไม่ได้แย่อย่างที่คิด ในบริเวณนี้ SET มี P/E 65F 12 –13 เท่า, PBV 1.1 เท่า, DIVIDEND YIELD 4.1%

ยังคงแนะนำหุ้นดัก FUND FLOW ที่มีแนวโน้มกำไรกลุ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดช่วง 2Q – 3Q อย่าง กลุ่ม ETRON : KCE,HANA, กลุ่ม HELTH : BH, BCH กลุ่ม PROP: SPALI, SIRI กลุ่ม FIN: MTC, TIDLOR, SAWAD, KTC

 



Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

SSP คว้าเกียรติบัตรโครงการ “ESG DNA” ตอกย้ำพันธกิจสพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน

SSP คว้าเกียรติบัตรโครงการ “ESG DNA” ตอกย้ำพันธกิจสพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน

LEO มั่นใจครึ่งหลังปี 68 โตต่อ! ลุย Green Logistics สร้างรายได้ยั่งยืน

LEO มั่นใจครึ่งหลังปี 68 โตต่อ! ลุย Green Logistics สร้างรายได้ยั่งยืน

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้