AT THE OPEN (#ATO)
รอประเมินความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐฯ
วันนี้เลือก CENTEL และ WHA

Market Strategy
SET คาดแกว่งออกข้าง1100-1125 จุด เพื่อประเมินความคืบหน้าเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ด้านแรงกดดันการเมืองน้ำหนักลดลง เลือก WHA CENTEL
ประเด็นภาษีสหรัฐฯ กลับมาเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญ โดยล่าสุดมีความคืบหน้าข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-เวียดนาม คุณทรัมป์เผยว่าเวียดนามจะจ่ายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 20% สำหรับสินค้าทุกชนิดและหากมีการส่งผ่าน (Transshipping) จะจ่ายภาษีเป็น 40% ขณะที่สินค้าที่สหรัฐฯที่ส่งออกเวียดนามไม่เสียภาษี การเก็บภาษีนำเข้าเวียดนาม 20% ถือเป็นการลดจากระดับภาษีตอบโต้ที่สหรัฐฯ เคยประกาศเดือน เม.ย. ที่ 46% กว่าครึ่งหนึ่ง

ส่วนบ้านเราที่วันนี้ติดตาม คณะเจรจาไทยหารือข้อเสนอภาษีกับสหรัฐฯช่วง 21.00 น. ประเมินว่าหากไทยสามารถลดภาษีลงมาในระดับ 10-20% (เดิมสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีตอบโต้เรา 36%) ถือเป็นระดับที่ไม่เสียเปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างเวียดนามและจีน (จีนถูกเก็บ 55%) นอกจากนี้ หากมีการใช้ภาษีส่งผ่าน (Transshipping) คาดช่วยลดปัญหา เรื่องการสวมสิทธิ์จากจีนได้อีกทางหนึ่ง สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีความคืบหน้าเจรจาการค้า คือ กลุ่มนิคม WHA กลุ่มส่งออก CCET GFPT ขณะที่ประโยชน์ทางอ้อม หากสหรํฐฯ สามารถเจรจาการค้ากับประเทศอื่นๆ ได้คาดบวกต่อกลุ่มพลังงาน PTTEP SPRC กลุ่มโรงไฟฟ้า (ประโยชน์ทางอ้อมจาก FED ลดดอกเบี้ยง่ายขึ้น) CKP BCPG
ประเด็นการเมืองในประเทศน่าจะมีแรงกดดัน เริ่มเบาลง หลังจากรักษาการนายกฯ เข้าถวายสัตย์วันนี้ทำให้ ครม. ชุดใหม่เริ่มปฏิบัติงานได้ รวมถึงพรรคภูมิใจล่าสุด เผยว่าจะไม่ยื่นญัติไม่ไว้วางใจนายกฯ ลดความร้อนแรงเกมส์การเมืองในสภาได้บ้าง ด้านปัจจัยอื่นๆ วันนี้ติดตามการรายงานตัวเลข NFP สหรัฐฯ เดือน มิ.ย. Consensus คาดเพิ่มขึ้น 1.06 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานคาด 4.3%

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น +0.5% กลุ่มที่ปรับขึ้นเด่นกลุ่มที่คาดหวังต่อการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ WHA +1.2% KCE +8% ITC +4.9% กลุ่มท่องเที่ยว ERW +0.9% CENTEL +3% จากคาดว่ากำไรผ่าน Bottom ช่วง 2Q68 และแรงซื้อกลุ่ม Domestic ที่ราคาอยู่โซนล่างหลังประเด็นการเมืองชัดเจนหนุน DOHOME +3% CPAXT +3% CPN +2.7% และ KTC +4.5% โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2.4 พันล้านบาท

DAILY Stock Pick
CENTEL
มาตราการรัฐหนุน 3Q68 ผสาน Forward booking โต 2H68
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 33.00 บาท
CENTEL ได้อานิสงค์จากมาตรการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” (CENTEL มีสัดส่วนรายได้ภายในประเทศ คิดเป็นประมาณ 70% ของรายได้ปี 67) ของรัฐบาลกระตุ้นยอดการเข้าพักที่เริ่มใช้ใน 3Q68 พร้อมกับการกลับมาฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว Short-haul ที่ฟื้นตัวอีกครั้งตาม forward booking ของเส้นทางการบินเอเชียที่เพิ่มขึ้น +7%YoY ใน 3Q68 และ +22% ใน 4Q68
เราคาดผลประกอบการใน 2Q68 เป็นจุดต่ำสุดของปี เนื่องจากอ่อนตัวลงตามปัจจัยฤดูกาล และการขาดทุนจากการเปิดโรงแรมใหม่ใน maldives หักล้างกับ RevPAR ในไทยและญี่ปุ่น เติบโต 11%YoY และ 21%YoY ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ณ ราคาปัจจุบัน ถูกซื้อขายที่ PE ปี 68 ที่ 18 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 20 เท่า

KEY FACTOR
ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ADP ของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. หดตัว -3.3 หมื่นตำแหน่ง พลิกแย่กว่าคาดและหดตัวเป็นครั้งแรกตั้งแต่ มี.ค. 2566 ต่ำกว่าที่ Consensus คาดการณ์ +9.8 หมื่นตำแหน่ง และเดือนก่อนหน้าที่ +3.7 หมื่นตำแหน่ง อย่างมีนัยสำคัญ เป็นสัญญาณเชิงลบต่อภาพเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคบริการและสุขภาพ-การศึกษา แม้ภาคก่อสร้างและการผลิตยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็ตาม
มุมมองตลาดให้น้ำหนักโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ย อีก 3 ครั้ง ในปีนี้ ซึ่งเป็นมุมมองที่ผ่อนคลายที่สุดตั้งแต่เดือน เม.ย. หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสะท้อนความเปราะบางของภาคแรงงาน ผสานกับเป็นช่วงที่ตลาดยังอยู่บนความไม่แน่นอนจากเจรจา ภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่างๆ

EYES ON
3 ก.ค. Caixin PMI ภาคบริการของจีน, การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงานสหรัฐฯ, ครม. ถวายสัตย์ฯ, เปิดสมัยประชุมสภาฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ