Equality for All
TU : บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป
2Q25 คาดกำไรสุทธิ 1,097 ลบ. หด -10% y-y แต่ ฟื้น +8% q-q จากยอดขายฟื้น q-q และค่าใช้จ่ายที่ลดลง : โดยยอดขายรวมคาดที่ 33,724 ลบ. หด -4% y-y แต่ ฟื้น +13% q-q โดยแยกตามกลุ่มธุรกิจดังนี้
กลุ่ม Ambient (50% ของยอดขาย) ยอดขายโต 3-4% y-y แต่แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากปริมาณขายเพิ่ม และมีสต็อกราคาถูกอยู่ โดยตลาดหลักอย่างสหรัฐ ยุโรป และไทยยังเติบโตได้ดี
กลุ่ม Frozen (29%) ยอดขายลดลง 5-8% y-y โดยยอดขายในสหรัฐยังเติบโตได้ดี แต่ได้รับผลจากเงินบาทแข็ง รวมถึงยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์น้ำที่ดีขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากอาหารสัตว์น้ำที่ดีขึ้น
กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง (12%) ยอดขายหดตัว 2-3% y-y แต่ฟื้น q-q โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างสหรัฐ และยุโรปที่ยังเติบโตได้ดี แต่หากอัตรากำไรขั้นต้นหดตัว y-y ตามสัดส่วนการขายกลุ่ม Premium ที่ลดลง y-y
อัตรากำไรขั้นต้น เราคาดว่าจากยอดขายที่เร่งตัวขึ้น q-q และธุรกิจหลักของ TU มีแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นทำให้แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.9% ใกล้เคียงกับ 1Q25 ที่ 18.8% แต่ดีกว่าปีก่อน
ค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขาย คาดลดลงมาอยู่ที่ 14.0% จาก 1Q25 ที่ 15.8% แม้ว่าจะรวม transformation cost และค่าใช้จ่ายการตลาดแต่หากค่าขนส่งลดลง
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม คาดดีขึ้น y-y จากการดำเนินงานของ Avanti และ Lucky Union ดีขึ้น แต่ลดลง q-q จากผลของปัจจัยฤดูกาลของ Avanti
ต้นทุนการเงิน คาดดอกเบี้ยจ่ายลดลง y-y จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ลดลง แต่จะเพิ่ม q-q ขณะที่อัตราภาษีจ่ายคาดไตรมาสนี้จะเริ่มได้รับผลจากมีผลบังคับใช้มาตรการภาษี GMT ทำให้ภาษีจ่ายเพิ่มขึ้น คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1,097 ลบ. -10% y-y แต่ +8% q-q
ยังคงประมาณการไว้ดังเดิมก่อน : แม้คาดแนวโน้มอัตราภาษีจ่ายจะลดลงจากเดิมที่เคยให้ไว้ (อ่าน ITC ฉบับ 1 ก.ค. 2025) แต่เราคงประมาณการปี 2025 ไว้ดังเดิมก่อน เนื่องจากประมาณการก่อนหน้าที่มีการปรับไปสะท้อนความคาดหวังต่อการดำเนินงานที่ไม่ดีไปแล้ว คงยอดขายเป็น 131,774 ลบ. -5% y-y อัตรากำไรขั้นต้นคงเดิมที่ 18.8% แต่ปรับค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มเป็น 14.2%
ขณะที่การเริ่มใช้ภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำ 15% (ตามเกณฑ์ของ OECD – Global minimum Tax) ซึ่งคาดว่า TU จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบัน อัตราภาษีจ่ายสุทธิของ TU อยู่ที่เพียง 8% ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ตามกฎหมายกำหนดที่ 15% คงประมาณการกำไรกำไรสุทธิ 4,157 ลบ. -17% y-y ราคาเหมาะสม 11.20 บาท/ หุ้น และคงแนะนำ “ถือ” ไว้ตามเดิม
รอก่อน ไม่ต้องรีบ
“แม้คาดการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของการดำเนินงานตั้งแต่นี้เป็นต้นไป แต่แนะขอรอดูผลเจรจาเรื่องภาษีก่อนว่าจะออกมาในรูปแบบใด
ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน P/E25E 10.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และคาดผลตอบแทนเงินปันผลราว 5.3% แต่ปัจจัยเงินบาทแข็งค่าและโครงการหุ้นซื้อคืนสิ้นสุดลงแล้ว ปัจจัยประคองราคาหุ้นอาจน้อยลง กลยุทธ์การลงทุน รอความชัดเจนจากมาตรการภาษีซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนต่อกลุ่มนี้อีกครั้ง ”
ESG Snapshot : TU ยังคงเป็นผู้นำในด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลกผ่านกลยุทธ์ SeaChange® 2030 ที่มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 พร้อมการสนับสนุนการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยบริษัทได้จัดสรรเงินทุน 7,200 ล้านบาท ให้กับโครงการ SeaChange® ภายในปี 2030
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th