Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

93

 

ลง ลง ลง ลง ลง ซาฮูร่า!!!
TOP PICK WHA / TASCO / CRC

 


EXTERNAL FACTOR

• นับถอยหลัง 8 วัน ก่อนสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ภาษีตอบโต้ในวันที่ 9 ก.ค. 68 ขณะที่ท่าทีล่าสุดของ ปธน.ทรัมป์ ส่งสัญญาณไม่ขยายเวลาผ่อนผันใช้มาตรภาษี หลังผ่อน
ผัน 90 วัน โดยจะทยอยส่งหนังสือแจ้งอัตราภาษีต่อประเทศต่าง ๆ ภายใน 1-2 สัปดาห์หากไม่มีข้อตกลงใหม่ ทำให้บรรยากาศการเจรจาการค้ายังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
• ส่วนบ้านเรา มีกำหนดประชุมหารือกับนายเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ(USTR) ในวันที่ 3 ก.ค. เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่เก็บกับไทยจาก 36% ให้เหลือต่ำที่สุด


INTERNAL FACTOR
• เปิด 5 แนวทางที่อาจเกิดขึ้นของคำตัดสินศาลรธน. ต่อนายกฯแพทองธาร วันนี้ เริ่ม9.30 น. ได้แก่1. ยังไม่พิจารณาคำ2. รับคำร้อง และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ 3.รับคำร้อง และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะกรณีบัญชาการเรื่องพิพาทชายแดน 4.รับคำร้อง แต่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ 5. ไม่รับคำร้อง ทำให้วันนี้คาด SET จะผันผวนในกรอบแคบ
• บวกกับระยะถัดไปยังมี OVERHANG จากหลายประเด็น จึงคาดว่า SET INDEX ในเดือนนี้ยังไม่น่าจะปรับตัวขึ้นได้แรงมากนัก โดยมองแนวต้านหลักอยู่ที่ระดับ 1200 จุด


INVESTMENT STRATEGY
• ช่วง 1H68 ต่างชาติขายสุทธิหุ้นทุกแห่งในภูมิภาค แต่บางประเทศถูกขายในสัดส่วนเท่าๆ หรือหนักกว่าไทย แต่ยังบวกได้ดี อาทิ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ +22%YTD, เวียดนาม +8%YTD ส่วนไทยถูกขายในสัดส่วนใกล้เคียงกับที่อื่นแต่หุ้นตกหนัก -22%YTD แสดงให้เห็นว่าสภาพคล่อง หรือเม็ดเงินในประเทศ ไม่เพียงพอที่จะช่วยพยุงดัชนี โดยนักลงทุนรายย่อยมีสัดส่วนมูลค่าซื้อขายไม่ถึง 30% แสดงให้เห็นถึงการขาดความเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก
• ประเด็นดังกล่าวกดดันจนหุ้นมี VALUATION ถูกกว่าปกติมาก หากประเด็นการเมืองเริ่มผ่อนคลายขึ่นน่าจะเป็นจังหวะในการเติมเงินเข้าพอร์ต ช่วงนี้แนะนำหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวTARIFF PLAY : CCET, ITC, TU, WHAหุ้นท่องที่ยว CENTEL, ERW และหุ้นรับกระแส CAPPED WEIGHT PTT, ADVANC, GULF, CCET, KCE

 

ไร้แรงหนุนใหม่ขับเคลื่อน
นับถอยหลัง 8 วัน ก่อนสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ภาษีตอบโต้ในวันที่ 9 ก.ค. 68 ขณะที่ท่าทีล่าสุดของ ปธน.ทรัมป์ ส่งสัญญาณไม่ขยายเวลาผ่อนผันใช้มาตรภาษี หลังผ่อนผัน 90 วัน โดยจะทยอยส่งหนังสือแจ้งอัตราภาษีต่อประเทศต่าง ๆ ภายใน 1-2 สัปดาห์หากไม่มีข้อตกลงใหม่ ทำให้บรรยากาศการเจรจาการค้ายังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนการเจรจาการค้าที่มีความคืบหน้าส่วนใหญ่ อยู่ในกลุ่มประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูง ล่าสุดมีดังนี้
• อินเดีย ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ข้อตกลงการค้ากำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย ใกล้เสร็จสมบูรณ์
• EU ยอมรับภาษี 10% ของทรัมป์ แต่ขอผ่อนปรนในบางกลุ่มสินค้า เช่น รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์: ขอให้ลดภาษีจาก 25%, เหล็กและอลูมิเนียม: ขอให้ลดภาษีจาก 50%
• ญี่ปุ่น เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษี 25% สำหรับรถยนต์ขณะที่สหรัฐฯ ปฏิเสธ โดยอ้างว่าญี่ปุ่นไม่ได้
นำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯ มากพอ นอกจากนี้ ปธน. ทรัมป์ขู่เพิ่มบทลงโทษญี่ปุ่น กรณีไม่รับข้าวสหรัฐฯส่วนบ้านเรา มีกำหนดประชุมหารือกับนายเจมิสัน กรีเออร์ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ในวันที่ 3 ก.ค. เวลา 21.00น. ตามเวลาไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่เก็บกับไทยจาก 36% ให้เหลือต่ำที่สุด โดยที่ผ่านมา ไทยได้ยื่นข้อเสนอหลายครั้ง และได้รับสัญญาณที่ดีจากฝั่งสหรัฐฯ


อีกประเด็นหนึ่ง วานนี้จีนเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมิ.ย. 68 อยู่ที่ 49.7 (ยังอยู่ในภาวะหดตัว แต่ดีกว่าคาด)หลังภาคก่อสร้างและบริการมีการขยายตัวและยอดคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหาฯ จีนยังน่าเป็นห่วง สะท้อนจากยอดขายบ้านใหม่ 100 บริษัทอสังหาฯ ใหญ่ในจีน เดือน มิ.ย. 68 ลดลง -23%YOY ซบเซาต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 กระตุ้นเสียงเรียกร้องให้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม กรณีมีประเด็นบวกเข้ามาคาดว่าน่าจะเป็นแรงหนุนให้กับหุ้นกลุ่ม CHINA PLAY

 

 

วันนี้ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องนายกฯผิดดจริยธรรมหรือไม่เดือน ก.ค.68 ปกคลุมไปด้วยประเด็นการเมืองที่ร้อนแรง อาทิ
• 1 ก.ค. 68 ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารับ-ไม่รับ คำร้องถอดถอนนายกฯ พร้อมสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
• 3 ก.ค. 68 เปิดสภา อภิปรายไม่ไว้วางใจนายก
• 4-30 ก.ค. 68 ศาลฯ นัดไต่สวนเรียกพยาน 20 ปากเข้าสู่การไต่สวน คดี "ทักษิณ" ชั้น 14
• ตลอดเดือน ก.ค. 68 เห็นโฉมหน้า ครม. ใหม่
ซึ่งวันนี้สิ่งที่ต้อง HIGHLIGHT คือ ศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนด ประชุมเวลา 09.30 น. เป็นต้นไป เพื่อพิจารณาคำร้องแพทองธาร ชินวัตรผิดจริยธรรมหรือไม่ โดยมี 4 แนวทางที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
1. ยังไม่พิจารณาคำร้อง : ศาลอาจเลื่อนการพิจารณาออกไป เนื่องจากมีคดีอื่นอยู่ในสาระบบ หรือข้อมูลที่ใช้
วิเคราะห์ยังไม่เพียงพอ
2. รับคำร้อง และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ : หากศาลเห็นว่าคำร้องมีมูล อาจสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เช่นเดียวกับกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ในอดีต
3. รับคำร้อง และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะกรณีบัญชาการเรื่องพิพาทชายแดน : หากศาลเห็นว่าคำร้องมีมูล อาจสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะกรณีบัญชาการเรื่องพิพาทชายแดน
4. รับคำร้อง แต่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ : ศาลรับคำร้องไว้พิจารณา แต่ให้นายกฯ ทำหน้าที่ต่อไปได้ระหว่างรอผลวินิจฉัย
5. ไม่รับคำร้อง : หากศาลเห็นว่าคำร้องไม่มีมูลหรือไม่เข้าเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 และ 170 ก็อาจไม่รับไว้พิจารณาซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาที่รุนแรงขึ้นได้ซึ่งต้องติดตามว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินในแนวทางไหน และการเมืองไทยจะเดินหน้าต่ออย่างไร ซึ่งระยะถัดไปยังมี OVERHANG จากหลายประเด็นข้างต้น บวกกับกรณีสอบสวนภรรยา “คุณพีระพันธุ์” ถือหุ้นโรงแรมดังเกิน 5%


เข้าข่ายทำเจ้าตัวขาดคุณสมบัตินั่งรมต. ทำให้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลหากไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ ล่าสุดจะไม่เกินกึ่งหนึ่งของ สส. ทั้งหมด(248 เสียง) ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป จึงคาดว่า SET INDEX ในเดือนนี้ยังไม่น่าจะปรับตัวขึ้นได้แรงมากนัก โดยมองแนวต้านหลักอยู่ที่ระดับ 1200 จุด


ซึ่งหากพิจารณาตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.68 – ปัจจุบัน SET INDEX ปรับตัวลงมา 12% หรือ 149 จุดจากประเด็นนิติสงคราม ซึ่งฝ่ายวิจัยฯจึงเปรียบเทียบนิติสงครามสมัยอดีตทั้งนายกฯประยุทธ์และเศรษฐา SET INDEX ปรับตัวลง39 จุด และ 86 จุด แต่หลังจากนั้น SET INDEX มักปรับตัวขึ้นเสมอ หากมีสัญญาณที่ดีทางการเมือง อาทิ นายกฯสามารถกลับมาทำหน้าที่ได้ หรือ นายกฯพ้นตำแหน่งและเตรียมเลือกนายกฯคนใหม่ ซึ่งฝ่ายวิจัยฯมองว่า SETINDEX ในช่วงนี้อาจผันผวน แต่หากผ่านช่วงมรสุมเดือน ก.ค.68 ไปได้ คาดเป็นจุดกลับตัวของดัชนีให้เป็นขาขึ้นเฉกเช่นในอดีต

FUND FLOW 1H68 ตลาดหุ้นไทยถูกขายเหมือนประเทศอื่นๆ แต่หุ้นตกหนักสุดๆ
ช่วง 1H68 ต่างชาติขายสุทธิหุ้นทุกแห่งในภูมิภาค แต่บางประเทศถูกขายในสัดส่วนเท่าๆ หรือหนักกว่าไทย แต่ยังบวกได้ดี อาทิ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ถูกขาย 9.3 พันล้านเหรียญ (0.52% ของ MARKET CAP ใกล้เคียงกับไทย) แต่หุ้นขึ้น28%YTD, ตลาดหุ้นเวียดนามถูกขายสุทธิ 1.5 พันล้านเหรียญ (0.68% ของ MARKET CAP มากกว่าไทย) แต่หุ้นขึ้น 8.6%YTD ส่วนไทยถูกขายในสัดส่วนใกล้เคียงกับที่อื่น แต่หุ้นตกหนัก -22%YTD แสดงให้เห็นว่าสภาพคล่องหรือเม็ดเงินในประเทศ ไม่เพียงพอที่จะช่วยพยุงดัชนี โดยนักลงทุนรายย่อยมีสัดส่วนมูลค่าซื้อขายไม่ถึง 30% แสดงให้เห็นถึงการขาดความเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก

ประเด็นดังกล่าวกดดันจนหุ้นมี VALUATION ถูกกว่าปกติมาก หากประเด็นการเมืองเริ่มผ่อนคลายขึ่นน่าจะเป็นจังหวะในการเติมเงินเข้าพอร์ต ช่วงนี้แนะนำหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว TARIFF PLAY : CCET, ITC, TU, WHA หุ้นท่องที่ยว CENTEL, ERW และหุ้นรับกระแส CAPPED WEIGHT PTT, ADVANC, GULF, PTTEP, AOT, CCET,
KCE, HANA

 



Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้น รอศาล By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ อาการหุ้นไทย ตอนนี้ รอ ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ พิจารณากรณีคลิปเสียงว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณา....

NAM เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

NAM เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้