News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

27 มิ.ย. 2568 09:18:26 106

Market Wrap-Up

SET วันที่ 26 มิ.ย.68 ปิด -0.96 จุด อยู่ที่ 1,106.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,119 ลบ. สถาบันซื้อ 351 ลบ. ต่างชาติซื้อ 765 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 58 ลบ. และรายย่อยขาย 1,174 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 931 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น PTTEP,PTT,ADVANC,BBL,KTC และยอดขายหุ้น DELTA,AOT,TRUE,GULF,CPN มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,928 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ BTG,OR,HMPRO โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3,902 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 110,962 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,141 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.94%, S&P500 +0.80%, Nasdaq +0.97% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสื่อสาร +1.77%, พลังงาน +1.5% หลัง ก.พาณิชย์สหรัฐเผย US GPD Q1/68 -0.50% หดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.09% ได้แรงหนุนจากลุ่มป้องกันประเทศ, เหมืองแร่
Market View
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Growth หลังข้อมูล US GDP Q1/68 -0.5% & Q4/67 +2.4% QoQ สาเหตุมาจากการนำเข้าและการใช้จ่ายภาครัฐที่ชะลอตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีของ ปธ.ทรัมป์ ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 37,000 ราย อยู่ที่ 1.974 ล.ราย สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ย. 64 ส่งผลให้นักลงทุนคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 75% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม ก.ย. นี้ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม US PCE พ.ค.คาด 2.3% & เม.ย. 2.1% YoY และ US Core PCE พ.ค. คาด 2.6% & เม.ย. 2.5% YoY
ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทรงตัว ระหว่างรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – อียู ก่อนจะถึงเส้นตายในวันที่ 8 ก.ค. โดยหุ้นกลุ่มป้องกันประเทศ +3.1% หลังที่ประขุม NATO มีมติเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมเป็น 5% ต่อ GDP ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ส่วนกลุ่มเหมืองแร่ +4% ปรับขึ้นตามราคาทองแดงที่ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน ด้านข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม CPI ฝรั่งเศส, สเปน มิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน มิ.ย.
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.22% รอความชัดเจนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ที่เน้นด้านการอุปโภคบริโภคด้วยวงเงิน 1.38 แสน ล.หยวนให้กับประชาชนเพื่อใช้ซื้อสินค้า ส่วนดัชนีนิเกอิวานนี้ +1.65% สูงสุดในรอบ 5 เดือน ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ปรับขึ้นตาม Nasdaq ขณะที่กลุ่มยานยนต์ปรับลดลง จากความกังวลอาจถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจเช้านี้ Tokyo Core CPI มิ.ย. ลดลงอยู่ที่ 3.1% & พ.ค. 3.6% & คาด 3.3% YoY ช่วยลดแรงกดดันที่ BOJ จะปรับขึ้นดอกเบี้ย
SET วานนี้ -0.09% ปริมาณการซื้อขาย 2 หมื่น ลบ สถาบันซื้อ 351 ลบ. ต่างชาติซื้อ 765 ลบ. พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อ 58 ลบ. และรายย่อยขาย 1,174 ลบ. โดยดัชนี SET เริ่มทรงตัว หลังตลาดได้ปรับขึ้นรับข่าวการหยุดยิงของอิหร่าน – อิสราเอลไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่วันพรุ่งนี้จะมีการชุมนุมของกลุ่มที่ต้องการให้นายก ฯ ลาออกจากประเด็นคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน กอปรกับวันที่ 1 ก.ค. ศาล รธน.อาจจะมีการพิจารณาคำร้องของ สว.ต่อประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ของนายก ฯ อาจเข้าไม่ข่ายไม่เหมาะสม ส่งผลให้ปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองในประเทศกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง โดยวานนี้ดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์ หลังราคาน้ำมันดิบที่เป็นต้นทุนการผลิตปรับลดลง และยังได้ผลบวกต่อจาก ม.กระตุ้นการบริโภคของจีนวงเงิน 1.38 แสน ล.หยวน ส่วนกลุ่มธนาคารก็มีแรงซื้อเก็งกำไร หลัง กนง.ยังไม่ปรับลดดอกเบี้ย กอปรกับคาดการณ์กำไร Q2/68 ของกลุ่มธนาคารยังขยายตัวได้ระดับ YoY จากค่าใช้จ่ายดำเนินงาน & สำรองหนี้เสียมีแนวโน้มลดลง โดยแนวโน้มดัชนี SET วันนี้คาดทรงตัว หลังวานนี้ ฮุน เซน เผยจะเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกทักษิณ ซึ่งอาจจะมีผลต่อเสถียรภาพการบริหารของรัฐบาล

Daily Strategy

ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,090 – 1,100 แนวต้าน 1,115 – 1,120 รอประเมินสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แนะนำทยอยซื้อ SCC,SCGP,IVL คาดกำไรปีนี้มีโอกาสฟื้นตัวจากฐานต่ำปีก่อน/ กลุ่มธนาคาร BBL,KBANK,SCB,KTB คาดกำไร Q2/68 ยังได้เติบโตได้ระดับ YoY และมี Dividend Yield > 5%
BCPG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.30 บาท) คาดกำไรปกติในช่วงที่เหลือของปีจะกลับมาเติบโตจาก Hydro power plant ที่ปริมาณน้ำมากขึ้น ประกอบกับการทยอย COD โครงการพลังงานลม Monsoon (290Mwe ถือหุ้น 48%) ในลาวที่จะเริ่มช่วง 2H68 ปัจจัยบวกที่เหลือมาจาก BCPG มีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าในไทยน้อย ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างจำกัดจากการแทรกแซงโดยภาครัฐ ขณะที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ Data center ส่งให้ราคาขายไฟฟ้า (ค่าความพร้อมจ่าย) ในตลาดเสรีของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 42 พันล้านบาท และปี 69 ที่ 1.8 พันล้านบาท +27%YoY

SYNEX* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 14.23 บาท) Nintendo Switch2 เข้าไทยแล้ว เป็นบวกต่อ SYNEX* ที่เป็น Nintendo Authorized Store และจะช่วยหนุนสินค้า Gaming ที่มีมาร์จิ้นดี ส่วนภาพรวมการดำเนินงานในช่วงปี68 คาดว่ากลุ่มสินค้าไอทียังมีปัจจัยบวกจากDemand การเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(4g>5g>AI) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น นอกจากนี้ การสนับสนุนสําหรับ Windows 10 ก็จะถูกยกเลิก หลังวันที่ 14 ต.ค.68 ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ SYNEX* จะอยู่ที่ระดับ 704 ลบ.(+12%YoY) และ 795 ลบ.(+13%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ส.ค.+$0.32 อยู่ที่ $65.24 / บาร์เรล, Brent ส.ค. +$0.05 อยู่ที่ $67.73/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 5.8 ล.บาร์เรล สูงกว่าคาดจะลดลง 1.2 ล.บาร์เรล กอปรได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า หลัง ปธน.ทรัมป์เผยกำลังวางแผนที่จะคัดเลือกผู้ที่มารับตำแหน่ง ปธ.เฟดคนใหม่ ก่อนที่พาวเวลจะหมดวาระใน พ.ค. 69

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+4.90 อยู่ที่ $3,348.00 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.54% อยู่ที่ 97.147 และยังรอข้อมูล US PCE พ.ค. ที่จะรายงานในช่วงค่ำวันนี้

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +137.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +23.53 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +124.61 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -10.57 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 32.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.256 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -112 จุด อยู่ที่ 1,553

(-) BitCoin เช้านี้ -0.18% อยู่ที่ 107,140 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

30 มิ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

(ก.ค.)

ต่างประเทศ

27 มิ.ย. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( พ.ค.)

30 มิ.ย. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (มิ.ย.)

01 ก.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มิ.ย.)

US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ

US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS ( พ.ค.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มิ.ย.)

02 ก.ค. US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(มิ.ย.)

03 ก.ค. US วันชาติ - ปิดทำการก่อนกำหนด ณ เวลา 13:00

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US อัตราการว่างงาน (มิ.ย.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.)

US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (มิ.ย.)

US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)

04 ก.ค. US วันหยุด-วันชาติ

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง, และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC,GULF

Analysts

Apichai Raomanachai

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939

Tel 02-829-6999 Ext 2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun