Market Wrap-Up
- SET วันที่ 24 มิ.ย.68 ปิด +37.23 จุด อยู่ที่ 1,100.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,840 ลบ. สถาบันซื้อ 1,289 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 1,662 ลบ. ต่างชาติซื้อ 240 ลบ.และรายย่อยขาย 3,191 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 195 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,PTTEP,WHA,SCC,PTTGC และยอดขายหุ้น GULF,KBANK,CPALL,KTB,CPF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 3,625 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TDEX,QH,SNNP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 27,037 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 118,385 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 41 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +1.19%, S&P500 +1.11%, Nasdaq +1.43% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.61%,การเงิน +1.5%, สายการบิน +2.4% ขณะที่กลุ่มพลังงาน -1.51% หลัง ปธน.ทรัมป์เผยอิหร่าน – อิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.11% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสายการบิน & ท่องเที่ยว +4.3% รับข่าวอิหร่าน – อิสราเอลหยุดยิง ขณะที่กลุ่มพลังงานปรับลงตามราคาน้ำมันดิบวานนี้ -6%
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, การเงิน หลัง ปธน.ทรัมป์ประกาศว่าอิสราเอล – อิหร่านบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งถือว่าเป็นการยุติสงคราม 12 วัน โดยท่าทีของ ปธน.อิหร่านจะยึดมั่นในข้อตกลง หากไม่ถูกยั่วยุจากทางอิสราเอล ขณะที่ปธ.เฟดแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนฯ ชี้เศรษฐกิจสหรัฐและตลาดแรงงานสหรัฐยังแข็งแกร่ง ดังนั้นเฟดจีงยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย โดยจะรอประเมินผลกระทบจาก ม.ภาษีศุลกากรของสหรัฐก่อน ส่วนค่ำวันนี้ ปธ.เฟดจะแถลงนโยบายต่อวุฒิสภาสหรัฐ และวันพรุ่งนี้ติดตามข้อมูล US GDP Q1/68 และวันศุกร์ US PCE พ.ค.คาด 2.5% & เม.ย. 2.6% YoY
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ Stoxx600 +1.11% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสายการบินและท่องเทียว ตอบรับข่าวการหยุดยิงของอิหร่าน – อิสราเอล ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ IFO รายงานดัชนีภาวะเศรษฐกิจของเยอรมัน มิ.ย.ปรับขึ้นอยู่ที่ 88.4 & พ.ค.87.5 เป็นผลจากการเพิ่มงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเยอรมันที่ชะลอตัวในช่วง 2 ปีที่ผ่าน โดยนักลงทุนยังรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – อียู ก่อนจะถึงเส้นตายในวันที่ 8 ก.ค.
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.15%, ฮั่งเส็ง +2.06% หลัง ปธน.ทรัมป์ประกาศอิสราเอล & อิหร่านได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยนักลงทุนรอการประชุมโปลิตบูโรของจีนใน ก.ค. เพื่อพิจารณาออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน ส่วนดัชนีนิเกอิ +1.14% รับข่าวอิสราเอล – อิหร่านหยุดยิง เช่นเดียวกับ Kospi เกาหลีใต้ +2.96% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Sumsung Electronics หลังตัวเลขส่งออกเซมิคอนฯ ของเกาหลีใต้ในช่วง 20 วันของ มิ.ย. ขยายได้ดี +21.8% YoY
- SET +3.50% ปริมาณการซื้อขาย 28 หมื่น ลบ สถาบันซื้อ 1,289 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 1,662 ลบ. ต่างชาติซื้อ 240 ลบ. และรายย่อยขาย 3,191 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็กฯ, ท่องเที่ยว, ขนส่ง, ค้าปลีก และปิโตรเคมี ตอบรับข่าวอิหร่าน – อิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ส่งผลให้ปัจจัยเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ลดลง ขณะที่ผลการประชุม ครม.วานนี้ได้ รมว.คลังได้แถลงรายละเอียดงบกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.15 แสน ลบ. ซึ่งจะช่วยเพิ่ม GDP ไทยปีนี้ได้ราว +0.4% โดยแบ่งเป็นงบด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 8.5 หมื่น ลบ., งบกระตุ้นท่องเที่ยว 1.0 หมื่น ลบ. เช่นโครงเที่ยวไทยคนละครึ่งวงเงิน 1.7 พัน ลบ.จะเริ่มในวันที่ 1 ก.ค.นี้ และงบช่วยเหลือด้านการเกษตร, แรงงาน, SME วงเงิน 1.11 หมื่น ลบ. ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศเริ่มนิ่งขึ้น โดยอยู่ระหว่างการปรับ ครม. จากปัจจัยบวกดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ตลาดกลับเข้าสู่เข้าภาวะ Risk-On อีกครั้ง หลัง Forward P/E ของ SET ลดลงอยู่ในกรอบล่างของค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ – 1 SD. ที่ระดับ 11.4 เท่า ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ผลการประชุม กนง. ซึ่งคาดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% รวมถึงมุมมองของเศรษฐกิจไทยในช่วง 2H/68
Daily Strategy
- ประเมินดัชนี SET วันนี้มีโอกาสทรงตัวในกรอบ 1,090 – 1,110 หลังวานนี้ดัชนีฟื้นตัวแรง ตอบรับข่าวการหยุดยิงของอิหร่าน – อิสราเอลไปแล้ว โดยนักลงทุนรอผลการประชุม กนง.วันนี้ต่อทิศทางดอกเบี้ยในช่วง 2H/68 แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มท่องเที่ยว & ขนส่ง เช่น MINT,CENTEL,ERW,AAV,BA ได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นท่องเที่ยว กอปรกับปัจจัยเสี่ยงในตะวันออกกลางเริ่มลดลง
- GULF* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 61.00 บาท) รายงานกำไรสุทธิ 1Q68 (งบก่อนควบรวม) 4 พันล้านบาท +YoY จากการเติบโตของโรงไฟฟ้า IPP ปลวกแดง และหินกอง COD ครบทุก unit เต็มไตรมาส ส่วนโรงไฟฟ้า Renew มี COD ใหม่ในโครงการ Solar+BESS เข้ามาเป็นไตรมาสแรก นอกจากนี้ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Wind GULF GUNKUL เพิ่มขึ้นตามกำลังลมที่แรง รับรู้กำไรจาก INTUCH เพิ่มขึ้นโดยหลักจากผลประกอบการของ ADVANC ที่ดี / สำหรับกำไร +QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่ IPP ผ่าน low season รวมถึงส่วนแบ่งกำไรทั้งจาก IPP wind และสื่อสารที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มกำไร 2Q68 คาดกำไรโตต่อ QoQ, YoY เป็น high season demand กำไรจาก ADVANC ก็ยังดี data center phase แรกเริ่มเปิดเดือน พ.ค.นี้ และรับเงินปันผลจาก KBANK ระยะถัดไปยังคงมีปัจจัยหนุนจากการควบรวมและตั้งบริษัทใหม่ ทำให้งบดุลแข็งแกร่งเพิ่มความสามารถในการลงทุนขยายธุรกิจใหม่ทางด้าน Data center และ AI Cloud Solutions
KLINIQ (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 35.50 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 85 ลบ. (+12.65%YoY , -14.14%QoQ) YoY ยังบวกได้ดีตามรายได้ที่อยู่ที่ 814 ลบ. (+18.32%YoY , -3.54%QoQ) โตได้ต่อเนื่องทั้งจากจำนวนสาขาที่สูงขึ้นพร้อมด้วย Format ใหม่ๆ(สาขา ณ สิ้น 1Q68 สูงกว่า ณ สิ้น 1Q67 ราว 8 สาขา) และ SSSG ลูกค้าเงินสด +21.3%YoY ทั้งนี้ การดำเนินงานช่วงที่เหลือของปี คาดว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีได้หลังจากที่สาขาที่เปิดอย่าง aggressive ราว 17 สาขาในปี67 จะสามารถทยอยสร้างรายได้ให้ offset ต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ ปัจจุบัน เราประมาณการกำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ลงอยู่ที่ระดับ 371 ลบ.( +15.29%YoY) และ 448 ลบ.(+20.49%YoY) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ส.ค.-$4.14 อยู่ที่ $64.37 / บาร์เรล, Brent ส.ค. -$4.34 อยู่ที่ $67.14/บาร์เรล หลังอิหร่าน – อิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ ปธน.ทรัปม์เผยจีนสามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านได้ ซึ่งบ่งชี้ว่าสหรัฐได้ลดแรงกดดันต่ออิหร่าน ส่วน API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.277 ล.บาร์เรล
Gold Update(-) Comex Gold ส.ค.-$61.10 อยู่ที่ $3,333.90 /ออนซ์ ปรับลดลงหลังปัจจัยเสียงในตะวันออกกลางเริ่มลดลง กอปร ปธ.เฟดแถลงนโยบายการเงินต่อสภาผู้แทน ฯ เผยยังไม่รีบลดดอกเบี้ย
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -54.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +7.35 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -56.65 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ -5.01 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.52 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.299 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +7 จุด อยู่ที่ 1,681
(+) BitCoin เช้านี้ +0.62% อยู่ที่ 106,119 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
25 มิ.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/68
30 มิ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
สัปดาห์ที4 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
23 มิ.ย. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มิ.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.)
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( พ.ค.)
24 มิ.ย. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (มิ.ย.)
US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
25 มิ.ย. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1)
27 มิ.ย. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( พ.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง, และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้
(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*
(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG
(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT
(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC
(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*
(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC,GULF
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th