---ยังคงเป้าแม้จะท้าทาย---
Key Point :
ถึงแม้ว่าอาจจะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี แต่ทาง KTB ยังตั้งเป้าสินเชื่อทรงตัวจากปี 67 และยังคงเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยถึงแม้ว่าอาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ทางด้าน NPL ไม่น่ากังวล และอาจจะมีการปรับลดระดับการตั้งสำรองลงในช่วงที่เหลือของปี มีการศึกษาการจัดการเงินกองทุนแต่น่าจะยังคงการจ่ายปันผลปีละ 1 ครั้งไว้เหมือนเดิม ยังคงประมาณการกำไร และราคาพื้นฐาน เหลือส่วนต่างลดลงจึงปรับลดคำแนะนำมาเป็น “ทยอยซื้อ”
ใน 1Q68 ถึงแม้สินเชื่อของ KTB จะหดตัว 1.3% q-q จากสินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อ SME เป็นหลัก แต่ทาง KTB ยังตั้งจะรักษาระดับสินเชื่อไว้ให้อยู่ในระดับเดียวกับปี 67 โดยคาดว่าในช่วง 2H68 สินเชื่อภาครัฐจะเติบโตขึ้นได้ นอกจากนี้ทาง KTB ยังได้เน้นปล่อยสินเชื่อรายย่อย อย่างสินเชื่อบ้านแลกเงิน และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยเน้นกลุ่มบุคคลที่ไม่ใช่ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้สินเชื่อเติบโตได้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มผลตอบแทนสินเชื่อได้อีกทางหนึ่งด้วย
KTB คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะมีการปรับลดลงอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งจะกระทบกับผลตอบแทนสินเชื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามทาง KTB มองว่ากรอบเป้าหมายส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ 2.9 – 3.2% น่าจะยังไว้ได้ จาก 1Q68 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ KTB อยู่ที่ 3.08% เนื่องจากการเน้นปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อบ้านแลกเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าผลตอบแทนสินเชื่อรวมในขณะนี้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการปรับลดต้นทุนดอกเบี้ยให้ลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ในกรอบที่ตั้งเป้าไว้ แต่อาจจะปรับลดลงมาใกล้เคียงกับกรอบล่างมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม
ใน 1Q68 KTB มี NPL ลดลงเหลือ 297% จาก 2.99% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยทาง KTB มองว่า ถึงแม้ประเทศไทยอาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีจากสหรัฐ และอาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้ แต่ NPL ยังไม่น่ากังวลเพราะลูกค้ายังมีความแข็งแกร่งอยู่ และทาง KTB ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด และมีความเป็นไปได้ที่ในช่วงที่เหลือของปี KTB อาจจะมีการลดระดับการตั้งสำรองลงได้อีก และจะทำให้การตั้งสำรองอยู่ในกรอบ 105 – 125 bps จาก 1Q68 ที่มีการตั้ง 124 bps
ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำไรปี 68 ของ KTB ไว้ที่ 47 พันลบ. เพิ่มขึ้น 7.8% y-y ทาง KTB ได้มีการศึกษาการจัดการเงินกองทุน อย่างไรก็ตามอาจจะยังคงการจ่ายปันผลปีละครั้งไว้เหมือนเดิม โดยปี 68 คาดว่าจะจ่าย 1.67 บาท/หุ้น ยังคงราคาพื้นฐาน 22.50 บาท มีส่วนต่างลดลงปรับลดคำแนะนำลงมาเป็น “ทยอยซื้อ” จากเดิมที่แนะนำ “ซื้อ”
อดิสรณ์ มุ่งพาลชล
นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ # 18577
โทร: 66 2 635 1700 # 49717