Thailand Tech Services
ธนาคารและภาครัฐหนุนการเติบโต
หุ้นเด่น คือ BBIK ในแง่การเติบโต และ NETBAY ในแง่ผลตอบแทน
ในงาน Maybank Virtual Tech Services Day เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา BBIK, SAMTEL และ DITTO ได้พูดถึงแนวโน้มปี 68 โดย BBIK ยังคงตั้งเป้าเติบโตแบบเลขสองหลักต่อเนื่อง อิงจากความต้องการของกลุ่ม BFSI (รวมถึงธนาคารไร้สาขา) และภาครัฐ เราคาดว่าการเพิ่มขึ้นของงบลงทุนภาครัฐจะหนุนกำไรสุทธิปี 68 ของ SAMTEL โต 69% YoY และของ DITTO โต 33% YoY อย่างไรก็ตาม เรามองว่าทิศทางเชิงบวกของ SAMTEL ได้สะท้อนในราคาหุ้นไปแล้ว เพราะอัตราส่วน P/E ปี 68 อยู่ที่ 18 เท่า สูงกว่า DITTO ที่ 11 เท่า และ SKY ที่ 12 เท่า ขณะที่ BBIK ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเรา ด้วยการเติบโตของกำไรหลักที่คาดไว้ 16% ในปี 68 และความได้เปรียบด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการระดับโลก ขณะที่ NETBAY เป็นหุ้นเด่นอันดับสอง ด้วยอัตราผลตอบแทนเงินปันผลในปี 68-69 ที่ 6-7% และมีอัพไซด์จากธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ส่งออก
BBIK ยังคงเป้าหมายการเติบโต
BBIK บริษัทที่ปรึกษาทางเทคโนโลยี ยังคงเป้าหมายการเติบโตที่ 20-30% (เทียบกับประมาณการของเราที่กำไรหลักจะโต 16% ในปี 68) จากปัจจัยบวก เช่น การมีส่วนร่วมกับลูกค้าหลักเพิ่มขึ้น (เช่น ธนาคารที่ต้องการอัปเกรดระบบ core banking และธนาคารไร้สาขา) รายได้จากโครงการภาครัฐที่มากขึ้น และการเริ่มรับงานจากต่างประเทศร่วมกับที่ปรึกษาระดับโลก นอกจากนี้ BBIK ยังเพิ่มสัดส่วนรายได้จากลูกค้าบางรายที่ต้องการลดต้นทุน เพราะค่าบริการของบริษัทต่ำกว่าคู่แข่งระดับโลกถึง 20-30%
SAMTEL ตั้งเป้ารายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 68
SAMTEL ตั้งเป้ารายได้ปี 68 ที่ 6.5 พันล้านบาท (+53% YoY) จากการชนะประมูลโครงการของกระทรวงคมนาคม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ธนาคารของรัฐ และหน่วยงานราชการอื่นๆ โดยขณะนี้มีงานในมือที่ครอบคลุมเป้าหมายรายได้ปี 68 ไปแล้วถึง 70% หากทำรายได้ได้ตามเป้า 6.5 พันล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 3% เราคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 195 ล้านบาท (+69% YoY) คิดเป็น P/E ปี 68 ที่ 18 เท่า ปัจจัยที่อาจทำให้ราคาขึ้น คือ การชนะโครงการมูลค่า 2 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/68
DITTO พิจารณาซื้อหุ้นคืนและจ่ายเงินปันผลเพิ่ม
DITTO บริษัทเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญด้านโซลูชันการจัดการข้อมูลและโครงการวิศวกรรมสำหรับหน่วยงานรัฐ ตั้งเป้ารายได้ปี 68 ที่ 3.0 พันล้านบาท (+25% YoY) จากการให้บริการเสริมเพิ่มเติมกับลูกค้าเดิม และการชนะโครงการใหม่ โดยมีงานในมือที่ครอบคลุมเป้ารายได้ปี 68 ไปแล้วถึง 90% แม้แนวโน้มธุรกิจจะแข็งแกร่ง แต่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากกว่า 60% ตั้งแต่เดือนมกราคม 67 ส่งผลให้มี P/E ปี 68 เพียง 11 เท่า ทำให้บริษัทพิจารณาการซื้อหุ้นคืนและเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล นอกจากนี้ DITTO ยังมั่นใจว่า NETBAY ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 24.9% จะทำกำไรเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปี 68 โดยเราเชื่อว่าแรงหนุนจะมาจากโครงการที่เป็นความร่วมมือกับ DITTO และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Ai-Box ของ NETBAY