สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (4 มิถุนายน 2568 )-----NIA ร่วมมือ iNT มหิดล และ CCC Academy ผนึกกำลังเครือข่ายพันธมิตร เปิดตัวหลักสูตร ACC Program รุ่นที่ 2 สร้าง Tech Talent ยกระดับบุคลากรด้านดิจิทัล และ AI เสริมศักยภาพด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบโจทย์ความต้องการภาคอุตสาหกรรมไทย

 

ในช่วงเวลาที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกมิติของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมทั่วโลก องค์กรต่าง ๆ เร่งปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เริ่มเห็นแนวโน้มการนำ AI มาใช้จริงในระดับองค์กรอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิต การบริการ การขนส่ง ไปจนถึงการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ส่งผลให้ "กำลังคนที่มีทักษะดิจิทัลขั้นสูง" กลายเป็นทรัพยากรที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน การพัฒนาทักษะให้แก่บุคลากรจึงเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างเป็นระบบ

 

ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะ AI และ IoT ได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่เปลี่ยนโฉมการแข่งขันของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมทั่วโลก NIA ภายใต้กระทรวง อว. จึงต้องเร่งเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้วยการยกระดับศักยภาพของบุคลากรผ่านกระบวนการ Upskill และ Reskill อย่างเป็นรูปธรรม

โดย NIA ในบทบาทการเป็น 'Focal Conductor" ทำงานเชิงรุกในการเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ภายใต้กลไก Groom Grant Growth และ Global ให้เกิดความเข้มแข็งของธุรกิจด้วยนวัตกรรม โดย ACC Program ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ตอบสนองต่อกลไกของ NIA  โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง "Tech Talent" ที่พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานในยุคเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ"

 

นางสาวอรวลัญช์ โลหิตหาญ รองผู้อำนวยการ สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติฯ และสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมกันพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมทางด้านดิจิทัล ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยที่ผ่านมาได้พัฒนาโครงการนวัตกรรมให้พร้อมรับทุนสนับสนุนของ สำนักงานนวัตกรรมฯ และแหล่งทุนทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวนมากกว่า 50 กิจการ ซึ่งครอบคลุมธุรกิจดิจิทัลทางด้านการแพทย์สุขภาพ การศึกษา การเกษตรอาหาร และ Ecommerce

ในปีนี้ iNT มหาวิทยาลัยมหิดล รับหน้าที่พัฒนาโครงการนวัตกรรมและบุคลากรด้านดิจิทัลและ AI อย่างครบวงจร สอดคล้องกับแนวทางของกองทุน ววน. และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ โดยมีบทบาทสำคัญในการผลักดันงานวิจัยสู่การใช้จริง เพื่อสร้างธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งหลักสูตร ACC Program รุ่นที่ 2 นี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้ร่วมมือกัน โดยยังคงเป้าหมายเพื่อพัฒนากำลังพลสู่ภาคธุรกิจเทคโนโลยี และนวัตกรรมอย่างแท้จริง

 

ดร. นที เทพโภชน์ ผู้อำนวยการหลักสูตร ACC Program ในฐานะผู้แทนจากเครือข่ายพันธมิตรที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ เปิดเผยว่า ACC Program หรือ AI Robotic IoT Corporate Coaching Program ได้ดำเนินมาเป็นปีที่ 2 ต่อเนื่องจากความสำเร็จของรุ่นแรก โดยในปีที่ผ่านมา โครงการสามารถสร้างผลงานเชิงพาณิชย์ได้มากกว่า 6 ธุรกิจ และช่วยยกระดับรายได้ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเฉลี่ยถึง 3 เท่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม

ในปีนี้ ACC Program ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยขยับจากการมุ่งเน้น Generative AI สู่การต่อยอดเทคโนโลยีในโลกจริง หรือ "Physical AI" เพื่อตอบรับกระแสความต้องการในอนาคตของอุตสาหกรรมโดยมีเครือข่ายที่สำคัญที่มาช่วยผลักดันเพิ่มเติมคือ Int ของมหิดล ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการออกแบบกิจกรรมให้สอดรับกับแนวโน้มเทคโนโลยีระดับโลก

 

หลักสูตร ACC Program รุ่นที่ 2 ใช้ระยะเวลาในการเรียนรู้ทั้งสิ้น 6 สัปดาห์ โดยผสานการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น Bootcamp Training, Workshop เชิงลึก, การพัฒนาโครงการต้นแบบเชิงพาณิชย์ (POC), การนำเสนอผลงานต่อสาธารณะ (Public Demo & Feedback) รวมถึงการให้คำปรึกษาเฉพาะราย (Mentoring Guidance) จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม

โดยโครงการนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำ ที่จะเข้ามาเป็นวิทยากรและที่ปรึกษา (Mentor) ได้แก่ คุณสถาพน พัฒนะคูหา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Guardian AI Lab ตัวแทนสมาคมไทยเทคสตาร์ทอัพ ผู้อำนวยการหลักสูตร,   ดร. สุทัด ครองชนม์ นายกสมาคมไทยไอโอที, ผศ. ดร. ชาญวิทย์ บุญช่วย นายกสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย, SCB 10X , FINT by Finnomena, Amity Group, Next Flow และอีกมากมาย

 

ซึ่งในปีนี้มีผู้สมัครกว่า 100 คน และมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมจำนวน 45 คน โดยผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว "Tech Talent" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมของประเทศให้แข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งขึ้นในระยะยาว