Today’s NEWS FEED

News Feed

"TFM" พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำ นำร่องโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในฟาร์มกุ้ง จับมือเกษตรกร ลดปล่อยก๊าซฯ เสริมความยั่งยืนตลอด Value Chain

141

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (26 พฤษภาคม 2568 )-------บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของไทย ผสานความร่วมมือกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำสู่ความยั่งยืน ผ่านโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกระบวนการเลี้ยงกุ้ง (Shrimp Decarbonization Project) ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในฟาร์มกุ้ง 25-35 เปอร์เซ็นต์ พร้อมส่งเสริมให้เข้าถึงตลาดพรีเมียม หนุนสร้างความยั่งยืนตลอด Value Chain ในทุกมิติ


นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เป้าหมายเดียวกันกับไทยยูเนี่ยน โดยตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ขอบเขตที่ 1, 2 และ 3 ลง 42 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero) ภายในปี 2593 ดังนั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ การใช้พลังงานหมุนเวียนและการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต โดยปัจจุบันโรงงานมหาชัยและระโนดได้ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ กำลังการผลิตรวม 3.1 เมกะวัตต์ (มหาชัย 2.3 เมกะวัตต์ และระโนด 0.8 เมกะวัตต์) สำหรับการผลิตอาหารสัตว์ นอกจากนี้ โรงงานมหาชัยยังเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass) แทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในปีที่ผ่านมา TFM สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยการผลิตได้มากถึง 40 เปอร์เซ็นต์


นอกจากนี้ TFM ยังมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน โดยปรับปรุงระบบ Boiler และนำพลังงานจากโซลาร์เซลล์มาใช้ในโรงงานมหาชัยและระโนด รวมถึงการใช้เครื่องจักรที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รถยกระบบไฟฟ้า (Electric Forklift) การใช้รถยนต์บรรทุกไฟฟ้า (EV Truck) และการปรับระบบไอน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตลอดจนการนำน้ำควบแน่นกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรอย่างเป็นระบบ ส่วนในด้านสิ่งแวดล้อม TFM สามารถลดการใช้น้ำได้ 10 เปอร์เซ็นต์ ต่อหน่วยการผลิต และสามารถลดปริมาณขยะได้มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ผ่านการนำของเสียมาใช้ประโยชน์และ         รีไซเคิล โดยโรงงานทั้งที่มหาชัยและระโนดยังเป็นโรงงานที่ดำเนินการแบบ Zero Discharge ไม่มีการปล่อยน้ำเสียหลังบำบัดสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง


พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับไทยยูเนี่ยน ผลักดันโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดจากกระบวนการเลี้ยงกุ้ง (Shrimp Decarbonization Project) เพื่อเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของการผลิตกุ้งให้ได้ 25-35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ได้จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ได้แก่ 1.) ใช้อาหารกุ้งที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองที่ไม่มีแหล่งที่มาที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าและต้องได้รับมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ โดยองค์กร FEFAC หรือ European Feed Manufacturers' Federation 2.) ปูบ่อกุ้งหรือขอบบ่อด้วย PE หรือ Polyethylene ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเลี้ยง พร้อมใช้เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ หรือ Autofeed เพื่อลดปริมาณอาหารส่วนเกิน 3.) ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่สามารถจ่ายไฟฟ้าเฉลี่ยในฟาร์มได้อย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ ในเวลากลางวัน นอกจากนี้ มีข้อกำหนดเพิ่มเติมตามความสมัครใจ คือ การติดตั้งอุปกรณ์ HydroNeo ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Smart Farming ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าในฟาร์ม โดยสามารถวัดคุณภาพน้ำได้แบบเรียลไทม์


ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM กล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์ คือ 1) ลดต้นทุนอาหารโดยตรง โดยเกษตรกรจะได้รับส่วนลดค่าอาหารกุ้งจาก TFM เมื่อจำหน่ายกุ้งที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพตามโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในฟาร์มกุ้ง (Shrimp Decarbonization Project) ให้กับกลุ่มไทยยูเนี่ยน 2) ประหยัดค่าไฟฟ้าในฟาร์มจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ โดยหากเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ Solar Farm ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับพันธมิตรของกลุ่มไทยยูเนี่ยน เกษตรกรจะไม่ต้องลงทุนเริ่มต้นเองและสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ตั้งแต่เริ่มโครงการ และ          3) เกษตรกรจะได้รับการส่งเสริมให้เข้าสู่ตลาดพรีเมียมที่ต้องการกุ้งจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืนและได้การรับรองมาตรฐานสากล โดยปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้ว 19 ราย ตั้งเป้ายอดขายในช่วงระยะเริ่มต้นของโครงการ 1,500 - 2,000 ตัน


ทั้งนี้ โครงการ Shrimp Decarbonization Project จะก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายในห่วงโซ่อุตสาหกรรมกุ้ง  ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่ TFM ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารกุ้งสามารถออกผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืนสอดคล้องกับเจตนารมณ์ขององค์กร และตอบสนองกับเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้ง ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ ในส่วนของฟาร์มกุ้งนั้นได้รับประโยชน์หลากหลายด้านโดยเฉพาะในส่วนของต้นทุนที่ลดลงทั้งจากส่วนลดค่าอาหารกุ้งและต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ รวมถึงเปิดโอกาสให้ฟาร์มได้พัฒนาตัวเองไปสู่ระดับสากล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคปลายทางให้ความสำคัญ และสำหรับไทยยูเนี่ยน ได้ประโยชน์เมื่อมีฟาร์มที่เข้าร่วมโครงการมากขึ้น และจะมีแหล่งกุ้งที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานความยั่งยืนเพิ่มขึ้น นับเป็นการสอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กร ทั้งในมิติของการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และยกระดับซัพพลายเชนให้ยั่งยืน ตลอดจนสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มคู่ค้าที่เป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกระดับโลกเพื่อให้มีแหล่งสินค้าที่สอดคล้องกับนโยบายความยั่งยืนของแต่ละบริษัทฯ และสุดท้ายคือนำไปสู่ผู้บริโภคปลายทางที่จะมีตัวเลือกในการจับจ่ายสินค้ามากขึ้นเพื่อสะท้อนถึงความตระหนักรู้และความรับผิดชอบต่อโลกอีกด้วย


นอกจากนี้ TFM ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำ ด้วยการเป็นโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำแห่งแรกในเอเชียที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ASC Feed ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลจาก Aquaculture Stewardship Council (ASC) ที่ครอบคลุมทั้งด้านสิทธิแรงงาน การจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมระบบตรวจสอบย้อนกลับที่โปร่งใสและเชื่อถือได้ โดยตามข้อกำหนดล่าสุดของ ASC ฟาร์มที่ต้องการการรับรอง ASC จะต้องเริ่มใช้อาหารสัตว์น้ำจากโรงงานที่ได้รับการรับรอง ASC Feed ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2025 เป็นต้นไป ทำให้ TFM อยู่ในตำแหน่งที่พร้อมสนับสนุนลูกค้าในการเข้าสู่มาตรฐานสากล เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดส่งออกและตลาดพรีเมียมทั่วโลก พร้อมสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ของลูกค้าในระยะยาว

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ขอให้เขียว By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ จุดธูป เทียน ดอกดาวเรือง กราบไหว้เทพหุ้น ทั้ง 4 ทิศ ขอให้ตลาดหุ้นไทย บ่ายวันนี้ ยืนเขียว ....

PTG ชู Non-Oil โตเด่นผ่านฐานสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus

PTG ชู Non-Oil โตเด่นผ่านฐานสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้