Today’s NEWS FEED

News Feed

โบรกฯชี้ รัฐ โยกงบ “ดิจิทัลวอลเล็ต” 157,000 ล้านบาท สู่โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ด้าน มองจิตวิทยาบวกต่อ SET Index ปรับขึ้น มีโอกาสทดสอบ 1200 จุดในช่วง 1 สัปดาห์

147

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(20 พฤษภาคม 2568)--------บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี KSS เปิดเผยว่า Stimulus Packages Update รัฐบาล โยกงบ “ดิจิทัลวอลเล็ต” 157,000 ล้านบาท สู่โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ด้าน มองจิตวิทยาบวกต่อ SET Index ปรับขึ้น มีโอกาสทดสอบ 1200 จุดในช่วง 1 สัปดาห์ บวกต่อหุ้นวัสดุก่อสร้าง, รับเหมา, ท่องเที่ยว, Tech และการเงิน


Facts : ครม.มีมติโอนงบ “ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” มูลค่า 157,000 ล้านบาท ไปสู่การลงทุนภาครัฐ 4 ด้าน
1. โครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ-คมนาคม
2. การท่องเที่ยว
3. การลดผลกร ะทบภาคส่งออก/เพิ่มผลิตภาพ
4. เศรษฐกิจชุมชนและการศึกษา


กระทรวงการคลังจะกำกับผ่านกลไกอนุกรรมการ โดยต้องส่งข้อเสนอโครงการภายใน พ.ค. 2568 และอนุมัติในระดับ ครม. ภายใน ก.ค. 2568 เพื่อเริ่มเบิกจ่ายจริงในครึ่งปีหลัง


KSS Strategist Macro View :


1) นโยบายนี้สะท้อน การปรับนโยบายการคลัง เชิงโครงสร้าง
• จาก “นโยบายแจกเงิน” เพื่อบริโภค สู่การปรับใช้ “นโยบายลงทุนจริง” เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเบื้องต้น
• เป็น “Reallocation of Stimulus Capital” ที่ช่วยลดแรงกดดันการขาดดุลเชิงโครงสร้าง (เช่น การบริโภคเทียมจากเงินแจก) สู่การลงทุนที่สร้าง Productive Asset และ Multiplier Effect

 

2) Impact ต่อ GDP ปี 2025 คาดจะเป็นแรงส่งเพื่อปิด Downside GDP ปี 2025 ไทยของ Consensus ที่วางกรอบหลัง Reciprocal Tariff 36% ที่กรอบ 1.3%-1.8% KSS คาดว่า GDP มีโอกาสสูงราว 65% ที่จะมากกว่ากรอบนี้
• เม็ดเงิน 157,000 ล้านบาท (~0.8% ของ GDP) น่าจะส่งผลบวกมากกว่าการแจงเงินที่ Impacts +0.3-0.5% ต่อ GDP เป็น +0.5-0.7% ต่อ GDP
• การขยับมาใช้เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว, ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต สร้าง Multiplier Effect (1.3-1.6 เท่า)
• การกระจายตัวของโครงสร้าง เข้าถึงเมืองรอง-ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ, หนุน GDP จากภายในประเทศกระจายตัวดีขึ้น
• เริ่มเบิกจ่ายจริง 3Q25-4Q25 จะหนุน GDP 4Q25 จะรับผลเต็มไตรมาส ลดผลกระทบความเสี่ยงเศรษฐกิจปลายปีจาก External Factors ได้บางส่วน


คาดว่า GDP ไทยปี 2025 มีโอกาสโตสูงขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 1.3-1.8% สู่ > 2%-2.5% หากบริหารจัดการการเบิกจ่ายได้ดี และมุ่งตรง

บทวิเคราะห์ระบุว่า KSS Strategist Equity View : ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย (SET Index) Sentiment ระยะสั้น เป็นบวก ลุ้น SET Index ปรับขึ้นทดสอบ 1200 จุดในช่วง 1 สัปดาห์ ประเมินจาก

• ตลาดอาจตอบรับเชิงบวกแบบ “Relief Rally” หลังคลายความไม่แน่นอนเรื่อง Digital Wallet

• ทุนต่างชาติอาจยังรอดูความเร็วในการเบิกจ่าย แนะจับตา “รายละเอียดโครงการ” ที่จะประกาศภายใน มิ.ย. 2025เน้นธีม “ลงทุนผ่านรัฐ + เมืองรอง + Digital Infra + Soft Power Tourism” หุ้นเด่นแนะนำ

• Cement/Asphalt รับความต้องการเร่งขึ้น 2H25 SCC, TASCO

• รับเหมาโครงสร้างพื้นฐาน CK, STECON

• ท่องเที่ยวเมืองรอง ERW, CENTEL, AOT

• เทคโนโลยี Digital Infra ADVANC, GULF, INSET

• สินเชื่อชุมชน/SME MTC และจำนำทะเบียน


-SCC แนวรับ 158.0/165.25 แนวต้าน 175.0 Cut loss <151.5
-TASCO แนวรับ 14.6/14.9 แนวต้าน 15.2/15.9 Cut loss <14.4
-CK แนวรับ 14.2/14.6 แนวต้าน 16.0/16.3 Cut loss <13.9
-ERW แนวรับ 2.04 แนวต้าน 2.24/2.4 Cut loss <1.98
-CENTEL แนวรับ 20.7 แนวต้าน 22.0 Cut loss <20.2
-AOT แนวรับ 34.6 แนวต้าน 37.0 /39.7 Cut loss < 33.75
-ADVANC แนวรับ 285.0/ 295.0 แนวต้าน 310.0 Cut loss <280.0
-GULF แนวรับ 48.0 แนวต้าน 51.0 Cut loss <47.25
-INSET แนวรับ 1.7 แนวต้าน 1.94 Cut loss <1.65
-MTC แนวรับ 41.0 แนวต้าน 45.0 Cut loss <39.5


ปัจจัยเสี่ยงและเงื่อนไขสำคัญ

1. Delay Risk: หากเบิกจ่ายล่าช้า ผลต่อบวกต่อ GDP จะเบาบาง

2. Execution Risk: หากโครงการไม่ตอบโจทย์หรือขาดความโปร่งใส อาจเป็น ทำให้ Productivity ต่ำกว่าคาด

3. การเมืองภายใน: หากเกิดความขัดแย้ง งบอาจล่าช้า

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ซื้อกลุ่มแบงก์ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้าวันนี้ นักลงทุน แห่เก็งกำไร รุมซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ ส่งผลให้ราคาหุ้นแบงก์หลายตัวปรับ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้