Equality for All
HANA : บมจ.ฮานาไมโครอิเล็คโทรนิคส์
1Q25 กำไรดีกว่าคาดจากรายการพิเศษ : กำไรสุทธิ 478 ลบ. ดีขึ้นทั้ง y-y และ q-q แต่ส่วนใหญ่มาจากรายการพิเศษทั้งการโอนกลับสินค้าคงเหลือ และโอนกลับตัดจำหน่ายสินค้าที่เสียหายจำนวน 380 ลบ. อีกทั้งมีรายได้อื่น 340 ลบ. เข้ามา ซึ่งในส่วนนี้มาจากการโอนเทคโนโลยี่จาก FT1 จำนวน 238 ลบ.
ยอดขาย 1Q25 ที่ 155 ล้านเหรียญ หด -13% y-y จาก 179 ล้านเหรียญ PCBA -13% (LP -10% JXG -23%) IC -17% y-y (AYT -23% JXG +61%) PMS -5% HTI -11% ส่วน q-q ยอดขาย -6% จาก 164 ล้านเหรียญ PCBA -6% q-q (LP -1% JXG -21%) IC -7% (AYT -5%, JXG -7%) PMS -25% HTI -1%
อัตรากำไรขั้นต้น 10.1% หดจาก 10.8% 1Q24 แต่ดีขึ้นจาก 5.3% ใน 4Q24 ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร +1% y-y -3% q-q
แนวโน้ม 2Q25 คาดทรงถึงลดลงเล็กน้อย : สรุปรายผลิตภัณฑ์ได้ดังนี้
กลุ่ม PCBA ยอดขายที่โรงงาน จ.ลำพูน ยังทรงตัวหรือลดลง q-q ส่วนหนึ่งจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และยังต้องติดตามประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐและจีนต่อไป ซึ่งอาจทำให้ลูกค้ามีการย้ายฐานการผลิตมาไทยหรือกัมพูชา
กลุ่ม IC ยอดขายที่โรงงาน จ.อยุธยา แม้คาดดีขึ้น q-q แต่ยังไม่ได้ผ่านช่วงต่ำสุดเนื่องจากปัจจัยเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐแค่เลื่อนเวลาออกไป 90 วัน ขณะที่ในส่วนของเซมิคอนดัคเตอร์จะได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าก็ตาม แต่คิดเป็นเพียง 3% ที่ส่งไปสหรัฐเท่านั้น

โรงงานจีน กลุ่ม OSAT ยังคงอ่อนแอต่อ แม้คาดจะเห็นการฟื้นตัวใน 2Q25 จากชิ้นส่วน EV แต่ในส่วน STD IC นั้นจะลดลงจากการสูญเสียลูกค้าสหรัฐ อย่างไรก็ตาม โรงงานในจีนยังได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าทำให้ลูกค้าอาจพิจารณาย้ายฐานการผลิตออกจากจีนซึ่ง HANA อาจต้องพิจารณาปรับโครงสร้างที่จีนเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น
HTI แม้จะไม่ได้รับผลจากปัญหาภาษี แต่ได้รับผลจากการชะลอตัวของลูกค้าในสหรัฐ
หน่วยผลิตกัมพูชา โรงงานกัมพูชาได้ผลบวกจากการย้ายฐานการผลิตของลูกค้าในจีนทำให้ยอดขายโตขึ้น และคาดว่าจะเห็นการย้ายฐานมามากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วน HANA ยังเน้นปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนเพื่อลดผลขาดทุน แต่คาดว่าการดำเนินงานปี 2025 จะฟื้นขึ้นหลังการได้คำสั่งซื้อจากลูกค้าหลักในกลุ่ม RF ในปลายปีนี้
PMS ยังมีความเสี่ยง : ผบห. แจ้งว่ากลุ่ม Si และ SIC อุปสงค์ยังอ่อนแอจะย้ายสายการผลิต SI ไปจีนใน 3Q25 และจะเหลือเพียงการผลิต SIC เท่านั้น และจะหาลูกค้าตลาดใหม่ ๆ เพิ่มเติมเช่น เกาหลี อินเดีย และลูกค้ากลุ่ม Turnkey (ทำตั้งแต่ต้นจนเสร็จ) เพื่อให้มีการดำเนินงานดีขึ้น และคาดว่าจะเห็นการขาดทุนลดลงและยังคงเป้าหมายว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในระดับ EBITDA ปลายปี 2025
ปัญหาภาษียังต้องรอต่อไป : HANA มีการส่งออกโดยตรงไปสหรัฐเพียง 12% เท่านั้น แต่ะจะมีบางส่วนที่ส่งให้ลูกค้าและไปต่อที่สหรัฐซึ่งคาดว่ารวมทั้งสิ้นจะอยู่ที่ 35% ของยอดขาย ปัญหาภาษีสหรัฐและจีนเป็นเพียงเลื่อนไป 90 วันจึงยังมีความเสี่ยงหากหลังจากนี้มีการกลับมาขึ้นภาษีอีกครั้ง
ปรับประมาณการปี 2025 ขึ้นจากเดิมจากรายการพิเศษ : เรามีปรับประมาณการขึ้นจากเดิมจากรายการพิเศษที่เกิดขึ้น แต่ในส่วนยอดขายมีปรับลงจากเดิมจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น โดยปรับยอดขายลงเหลือ 661 ล้านเหรียญ -6% y-y และปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นจากเดิมเป็น 9.9% จากอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าคาดและเปลี่ยนการขายเป็นแบบ consignment แทนจาก Turnkey เพื่อช่วยอัตรากำไรคงที่มากขึ้น รวมถึงรองรับ GMT ในอนาคตเนื่องจากการขายแบบ consignment คิดเฉพาะค่าผลิตเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันสินค้ากลุ่ม OSAT จะใช้วิธีนี้ แต่ส่วนที่เหลือคงต้องเจรจาเพิ่ม ปรับกำไรปกติก่อนรายการพิเศษเป็น 1,258 ลบ. ขยายตัวเพียง +5% y-y

ยังเหนื่อยต่อ
“แม้กำไรดีกว่าคาดแต่มาจากรายการพิเศษ ขณะที่ธุรกิจหลักอุปสงค์ยังอ่อนแอและยังมีความไม่แน่นอนจากนโยบายทรัมป์ที่แม้จะมีการเจรจาพักรบชั่วคราว ส่วน PMS ยังฟื้นตัวช้า
แม้จะมีปรับประมาณการขึ้น แต่ยังคงแนะนำเพียง “ถือ” รอสัญญาณการฟื้นตัวรอบใหม่อาจปลอดภัยกว่า ”

ESG Snapshot : HANA ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาด้าน ESG และยังไม่มีรายงานความยั่งยืนที่ชัดเจนแม้ว่าบริษัทจะมีแนวทางด้าน ธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่ง และได้รับ Corporate Governance Rating ระดับ 5 ดาว ติดต่อกัน 10 ปี แต่ในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมยังขาดเป้าหมายที่ชัดเจน

นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th