Today’s NEWS FEED

News Feed

AOT แจงผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก รายได้รวม 36,235.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.98

97


     สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(15 พฤษภาคม 2568)----------นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) กล่าวถึง ปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ใน 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (เดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนมีนาคม 2568) มีจำนวนเที่ยวบินรวม 414,377 เที่ยวบิน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.90 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 237,511 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 176,866 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวม 68.42 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.76 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 42.34 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 26.08 ล้านคน การเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินและผู้โดยสาร ทำให้ใน 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (เดือนตุลาคม 2567 -มีนาคม 2568) มีรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน 18,188.15 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 2,751.25 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.82 รายได้รวม 36,235.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.98 และมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 10,397.57 ล้านบาท

 

    นางสาวปวีณา กล่าวถึงความคืบหน้าในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และการบริการเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ โดย AOT ได้ดำเนินโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบิน (Incentive Scheme) และโครงการสนับสนุนการตลาด (Marketing Fund) เพื่อให้สายการบินประกอบกิจการได้อย่างยั่งยืน และผู้โดยสารสามารถเดินทางเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อนำมาซึ่งจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่มาใช้บริการมากขึ้น ขณะเดียวกัน AOT ได้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในท่าอากาศยานหลักของประเทศทั้ง 6 แห่ง เพื่อรองรับจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในอนาคต อาทิ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 15 ล้านคนต่อปีภายในปี 2573 โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคนเป็น 50 ล้านคนต่อปีภายในปี 2576 นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ ท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมศึกษาแนวทางการก่อสร้างท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ตแห่งที่ 2 ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเติบโตของการดำเนินธุรกิจและความมั่นคงของอุตสาหกรรมการบินโดยรวม


    พร้อมกันนี้ AOT ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีในระดับสากลมาใช้ทุกขั้นตอนของการให้บริการในสนามบิน เช่น ระบบให้บริการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบิน (Airport Collaborative Decision Making (A-CDM) เพื่อยกระดับการบริหารจัดการเที่ยวบินให้สอดคล้องกับแผนการเดินทางอากาศสากล ลดความล่าช้าในการเดินทาง โดยได้เริ่มเปิดให้บริการระบบเช็กอินอัตโนมัติ ระบบโหลดกระเป๋าอัตโนมัติ ระบบสแกนใบหน้าขึ้นเครื่อง (Biometric) ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเช็กอินและขึ้นเครื่องได้โดยไม่ต้องแสดงเอกสารซ้ำซ้อน เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และลดระยะเวลารอคอย รวมทั้งนำระบบตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automated Border Control: ABC) มาใช้สำหรับผู้ถือ e-passport และใช้ Thailand Digital Arrival Card (TDAC) แทน ตม.6 แบบกระดาษ
เต็มรูปแบบ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เพื่ออำนวยความสะดวก ลดเวลา รอคิว เพิ่มประสิทธิภาพการบริการของท่าอากาศยานไทยสู่การเดินทางแบบ “Smart Airport – Smart Immigration”

 

นอกจากนี้ AOT ยังเดินหน้าพัฒนาโครงการเพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ AOT และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยรอบท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ผ่านโครงการ AOT Property Showcase โครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐ-เอกชน (Public Private Partnership: PPP) โครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นโครงการให้บริการคลังสินค้า ซึ่งอยู่ระหว่างการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุน โครงการก่อสร้างอาคาร Junction Building อาคารจอดรถ และศูนย์เชื่อมต่อการขนส่งระบบราง ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง


ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน AOT ได้รับการจัดอันดับเป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) World และ Emerging Market ต่อเนื่อง 6 และ 10 ปี ตามลำดับ และติดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ A พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions ภายในปี 2587 โดยเดินหน้าการใช้พลังงานสะอาด การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ การเปลี่ยนยานพาหนะในท่าอากาศยานเป็นระบบไฟฟ้า และในปี 2025 นี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังได้รับการจัดอันดับ ให้ติดอันดับที่ 39 ของท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลกจาก Skytrax (ขยับขึ้น 19 อันดับ) พร้อมคว้าอันดับ 3 ของท่าอากาศยานที่พัฒนาดีที่สุดของโลก อีกทั้ง อาคาร SAT-1 ยังคว้ารางวัล Prix Versailles 2024 ในฐานะท่าอากาศยานที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานของ AOT ที่สมดุลในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม


AOT เชื่อมั่นว่าด้วยนโยบายในการพัฒนาเชิงรุก ศักยภาพด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การยกระดับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตลอดจนการยึดมั่นในหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน จะส่งผลให้ AOT ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการท่าอากาศยานชั้นนำระดับสากล เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NER สานต่อโครงการ “NER ยิ้มสวย สุขภาพฟันดีกับทันตกรรมเคลื่อนที่” ปี 2 ร่วมดูแลสุขภาพช่องปากพนักงานกว่า 1,000 คน

ในยุคที่การดูแลสุขภาพกลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน ทั้งการออกกำลังกายหรือการทานอาหารที่ดี แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ

หมดแรง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหลายตลาด หมดแรง อ่อนตัวลง แต่หุ้นไทย วูบไป 1.44% ในเช้าวันนี้ ด้วยใช้ข่าวดี .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้