Today’s NEWS FEED

News Feed

PwC คาดการนำ AI มาใช้อาจเพิ่ม GDP โลกอีก 15% ภายในปี 2578 หลังเศรษฐกิจโลกกำลังปรับโครงสร้าง

92


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(15 พฤษภาคม 2568)--------• ศักยภาพของ AI ในการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับการใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบและการได้รับความไว้วางใจจากสังคม


• อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางกายภาพจากสภาพภูมิอากาศ อาจทำให้เศรษฐกิจโลกลดลงเกือบ 7% ในปี 2578 เมื่อเทียบกับระดับที่คาดการณ์ไว้หากไม่มีความเสี่ยงเหล่านี้
• วิธีการทำงานข้ามอุตสาหกรรมแบบใหม่จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ คว้าโอกาสในการเติบโตได้
• เพื่อสนับสนุนลูกค้าภายใต้สภาพแวดล้อมใหม่นี้ PwC กำลังเปิดตัวการดำเนินการในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยให้องค์กรปลดล็อกคุณค่าของ AI ของตนในระดับที่ใหญ่ขึ้นและใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม ตลอดจนการปรับโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่

 

งานวิจัยใหม่ของ PwC เผยให้เห็นว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence: AI) มีศักยภาพในการเพิ่มผลผลิตทางเศรษฐกิจโลกได้มากถึง 15% ในทศวรรษหน้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตต่อปีประมาณ 1% เทียบเท่ากับการเติบโตที่โลกเคยประสบในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19


รายงาน Value in Motion ของ PwC ซึ่งอิงจากการวิเคราะห์สถานการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ชี้ให้เห็นว่า ศักยภาพของ AI ในการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกนั้น ไม่สามารถรับประกันได้และไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสำเร็จทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับการใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ การกำกับดูแลที่่ชัดเจน และความไว้วางใจจากทั้งสาธารณชนและองค์กร ในสถานการณ์อื่น ๆ ที่ PwC วิเคราะห์ เช่น ในกรณีที่ความไว้วางใจและความร่วมมืออยู่ในระดับต่ำ การกระตุ้นเศรษฐกิจโลกที่ขับเคลื่อนด้่วย AI จะอยู่ที่ 8% หรือในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอาจอยู่ที่เพียง 1% เท่านั้น


ผลการวิจัยยังพบว่า การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วได้เกิดขึ้นแล้ว โดยการวิเคราะห์ของ PwC ระบุว่า แรงกดดันให้ธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนตัวเองนั้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมาใน 17 จาก 22 ภาคส่วนทั่วโลก โดยมีรายได้มากถึง 7.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะถูกเปลี่ยนแปลงไประหว่างบริษัทต่าง ๆ ในปี 2568 เพียงปีเดียว แม้กระทั่งก่อนการปรับขึ้นภาษีศุลกากรทั่วโลกที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้


การวิจัยของ PwC แสดงให้เห็นว่า ในทศวรรษหน้าอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะปรับโครงสร้างใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในรูปแบบใหม่ นำไปสู่การเกิดขึ้นของ ‘โดเมน’ ใหม่ ๆ ที่ข้ามอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่น การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า กำลังนำผู้ให้บริการไฟฟ้า ผู้ผลิตแบตเตอรี่ บริษัทเทคโนโลยี และอื่น ๆ เข้าสู่โดเมนการขับเคลื่อน (mobility domain) ทำให้พวกเขาสามารถสร้างมูลค่าใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับผู้ผลิตยานยนต์ได้


นาย โมฮัมเหม็ด คานเด ประธานระดับโลกของ PwC กล่าวว่า: “เมื่อโครงสร้างเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป คุณค่าใหม่จะมาจากองค์กรที่สามารถเชื่อมโยงจุดต่าง ๆ ข้ามขอบเขตอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมได้เพิ่มขึ้น ผู้นำธุรกิจสามารถปลดล็อกการเติบโตโดยมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และใช้เทคโนโลยีในการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ”

ผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ


การวิเคราะห์ของ PwC แสดงให้เห็นว่าแม้ AI จะมีแนวโน้มที่ช่วยเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ต้นทุนที่เกิดจากภัยคุกคามทางกายภาพจากสภาพภูมิอากาศอาจสร้างข้อจำกัดการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ แบบจำลองทางเศรษฐกิจของ PwC ชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงทางกายภาพจากสภาพภูมิอากาศอาจทำให้เศรษฐกิจโลกหดตัวเกือบ 7% ภายในปี 2578 เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่ไม่มีภัยคุกคามดังกล่าว

ทั้งนี้ การใช้ AI ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ศูนย์ข้อมูล (deta centres) ใช้พลังงานมากขึ้น แต่หากมีการใช้งาน AI อย่างมีประสิทธิภาพ ก็อาจสามารถชดเชยการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นนี้ได้ โดย PwC ประมาณการว่า การใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก AI จะสมดุล หากการใช้ AI เพิ่มขึ้นทุก ๆ หนึ่งเปอร์เซ็นต์ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมที่ลดความเข้มข้นของพลังงานลง 0.1%

PwC ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ลูกค้าปลดล็อกและปกป้องคุณค่า


ในขณะที่เทคโนโลยีและเมกะเทรนด์อื่น ๆ ยังคงเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง PwC ได้เปิดเผยแนวทางการดำเนินงานในหลายด้านเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถปลดล็อกคุณค่าของ AI ในระดับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึง:
• ระบบปฏิบัติการตัวแทน (agent OS) ของ PwC: ระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการ AI ในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเชื่อมต่อและปรับขนาดตัวแทนอัจฉริยะ ให้เข้ากับเวิร์กโฟลว์ สำหรับธุรกิจได้อย่างราบรื่น และรวดเร็วกว่าแนวทางเดิมถึง 10 เท่า นอกจากการนำเสนอระบบปฏิบัติการตัวแทนนี้ ให้กับลูกค้าแล้ว เครือข่ายของ PwC ยังนำมาใช้ในกระบวนการภายในองค์กรเองด้วย โดยมีการปรับใช้ตัวแทน AI หลายร้อยตัวสำหรับงานเฉพาะด้าน ซึ่งรวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในด้านภาษี การตรวจสอบบัญชี และการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า
• ความเชี่ยวชาญด้าน AI: ในแต่ละเดือน พนักงาน PwC หลายหมื่นคนเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมที่อัปเดตเป็นประจำผ่าน Network AI Academy โดยในปัจจุบัน หุ้นส่วนและพนักงานของ PwC เข้าร่วมการฝึกอบรมด้าน AI ที่มีโครงสร้างแล้วกว่า 291,000 คน
• พันธมิตรทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ: ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา PwC ได้เปิดตัวความร่วมมือใหม่กับพันธมิตรที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ AWS, Google Cloud, Microsoft และ Oracle โดยเป็นการเพิ่มความร่วมมือที่มีอยู่แล้วของ PwC ซึ่งยังรวมถึง Adobe, Anthropic, Guidewire, OpenAI, SAP, Salesforce และ Workday เป็นต้น


เครือข่ายของ PwC ยังขยายขีดความสามารถในการแปลข้อมูลเชิงลึกเฉพาะอุตสาหกรรมให้กลายเป็นผลกระทบต่อรูปแบบ
ธุรกิจที่เป็นรูปธรรมสำหรับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการเปิดตัวเครื่องมือ GenAI ที่ได้รับรางวัล CIO 100 อย่าง ChatPwC ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลเฉพาะ วิธีการ และการวิจัยที่หลากหลายยิ่งขึ้นเพื่อให้ทีมลูกค้าทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่ดีที่สุดของ PwC ได้


นอกจากนี้ Industry Edge ซึ่งเป็นพอร์ตโฟลิโอของ PwC ยังได้เปลี่ยนรายงาน Value in Motion และงานวิจัยที่เป็นกรรมสิทธิ์อื่น ๆ ให้กลายเป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริง โดย Industry Edge สนับสนุนข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม กระบวนการโมเดลเทคโนโลยีและข้อมูล และตัวเร่ง AI เพื่อส่งมอบการเปลี่ยนแปลงเฉพาะอุตสาหกรรมยิ่งไปกว่านั้น PwC ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการเรียนรู้อัจฉริยะใหม่ทั่วทั้งเครือข่าย โดยผสมผสานกรอบทักษะ คำแนะนำการเรียนรู้ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และประสบการณ์การโค้ชแบบสนทนาเข้าเป็นประสบการณ์การเรียนรู้แบบรวมศูนย์และเป็นส่วนตัว


PwC ยังได้ปรับปรุงภาพลักษณ์ของแบรนด์ อัตลักษณ์ทางภาพและทางวาจา เพื่อสะท้อนบทบาทของบริษัทที่มีต่อลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยนำความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีมาช่วยให้ลูกค้าสร้าง รักษา และเร่งการเติบโตได้ การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงภาพลักษณ์และโลโก้ใหม่ที่มาพร้อมกับ ‘เครื่องหมายแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง’ หรือ ‘Momentum Mark’ ซึ่งแสดงถึงการร่วมมือระหว่าง PwC และลูกค้าในการขับเคลื่อนองค์กรของพวกเขาให้ก้าวไปข้างหน้า


นางสาว แคโรล สตับบิงส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพาณิชย์ระดับโลกของ PwC กล่าวว่า:“เป็นเวลา 175 ปีแล้วที่ PwC ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราสามารถมอบความสามารถที่ลูกค้าของเราต้องการได้ ด้วยการพัฒนาความสามารถและอัตลักษณ์ทางธุรกิจ เราสามารถช่วยให้ลูกค้าสร้างแรงขับเคลื่อนที่จำเป็นในการสร้างคุณค่า สร้างความไว้วางใจ และเผชิญอนาคตด้วยความมองโลกในแง่ดีได้”

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NER สานต่อโครงการ “NER ยิ้มสวย สุขภาพฟันดีกับทันตกรรมเคลื่อนที่” ปี 2 ร่วมดูแลสุขภาพช่องปากพนักงานกว่า 1,000 คน

ในยุคที่การดูแลสุขภาพกลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน ทั้งการออกกำลังกายหรือการทานอาหารที่ดี แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ

หมดแรง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหลายตลาด หมดแรง อ่อนตัวลง แต่หุ้นไทย วูบไป 1.44% ในเช้าวันนี้ ด้วยใช้ข่าวดี .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้