สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(14 พฤษภาคม 2568)----------NAT เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2568 รายได้รวม 145.85 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1.11 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวอนุมัติประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 32 ล้านบาท จำนวนหุ้นไม่เกิน 8 ล้านหุ้น เริ่ม 1 มิถุนายน นี้ ทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/2568 เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพิ่มบุคลากรและบริการด้านซอฟต์แวร์ ซึ่งมีผลงาน, ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้าน AI โดยเฉพาะ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำด้าน Cloud สอดรับกับความต้องการขยายระบบขององค์กรและบริการต่างๆ บน Cloud พร้อมมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าเอกชนเพิ่มเติม

นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการให้บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1/2568 บริษัทมีรายได้รวม 145.85 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 1.11 ล้านบาท และยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นมากกว่า 12%
“บริษัทเชื่อมั่นว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 จะสะท้อนศักยภาพของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มเติมและอยู่ระหว่างการรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยมั่นใจว่าทิศทางธุรกิจของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่ง และ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายสุธี กล่าว

นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน ด้วยวิธีจีบคู่อัตโนมัติผ่านช่องทางซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวงเงินไม่เกิน 32,000,000 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 8,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 2.44 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยกำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้มีประโยชน์สูงสุด และ เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และ อัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) รวมทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และผู้ถือหุ้นในศักยภาพการสร้างรายได้ และ กำไรในอนาคตของบริษัท


สำหรับทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 2/2568 บริษัทเดินหน้าการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทั้งการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมถึงการให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยปัจจุบันมีโครงการในมือที่รอรับรู้รายได้ทั้งหมด (Backlog) จำนวน 249.19 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2568) และ ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงระหว่างการส่งมอบงานเพื่อสร้างการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมพัฒนาบุคลากรและบริการด้านซอฟท์แวร์ เพื่อสอดรับกับเทรนด์การเติบโตในปัจจุบันทั้งด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI), ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) และ กลุ่มเทคโนโลยีด้านคลาวด์ (Cloud) ขององค์กรในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม พร้อมมองหาโอกาสในการเข้าประมูลและรับงานโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของภาคเอกชน