Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

96

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 8 พ.ค.68 ปิด -13.68 จุด อยู่ที่ 1,206.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,698 ลบ. สถาบันซื้อ 2,090 ลบ. รายย่อยซื้อ 981 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 62 ลบ. และต่างชาติขาย 3,009 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 2,593 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,SCB,CPF,KBANK,TISCO และยอดขายหุ้น DELTA,CPALL,AOT,GULF,SCC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,454 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ KTC,JAPAN10001,HMPRO โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 14,733 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 46,738 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 7,956 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.62%, S&P500 +0.58%, Nasdaq +1.07% รับข่าวสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับอังกฤษ และยังรอการเจรจาการค้ากับจีนในวันเสาร์นี้ ขณะทีข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐรายสัปดาห์ลดลง 13,000 อยู่ที่ 228,000 น้อยกว่าคาดที่ 231,000 ราย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.40% หลังสหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้าแรกกับอังกฤษ ขณะที่ ธ.กลางอังกฤษมีมติ 7 – 2 ลดดอกเบี้ยลง 25% อยู่ที่ 4.25%  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น หลังสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับแรกกับอังกฤษ โดยอังกฤษจะจะปรับลดภาษีศุลกากรจากเดิม 1% ลงอยู่ที่ 1.8% และเปิดตลาดให้กับสินค้าสหรัฐเพิ่มมากขึ้น ขณะที่สหรัฐยังเก็บภาษีศุลกากรพื้นฐานที่ 10% แต่ยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็ก & อะลูมิเนียมที่ 25% และลดภาษีรถยนต์บางรุ่นที่ผลิตในอังกฤษจากเดิมที่ 27.5% ลงอยู่ที่ 10% จากปัจจัยดังกล่าวถือว่าเป็นสัญญาณบวก กับการเจรจาการค้ากับประเทศคู่ค้าอื่น ๆ โดยวันเสาร์นี้ รมว.คลังสหรัฐจะหารือกับรองนายก ฯ จีน ที่สวิตเซอร์แลนด์   
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับขึ้น รับข่าวสหรัฐ & อังกฤษสามารถบรรลุข้อตกการค้า ขณะที่ ธ.กลางอังกฤษมีมติ 7 – 2 เสียง ลดดอกเบี้ย 25% อยู่ที่ 4.25% เพื่อลดผลกระทบจากภาวะสงครามการค้า กอปรกับเงินเฟ้ออังกฤษ มี.ค. ชะลอตัวอยู่ที่ 2.6% ส่วน ธ.กลางนอร์เวย์, สวีเดนมีมติคงดอกเบี้ยตามผลประชุมเฟด โดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ +3% นำโดยหุ้นไรน์เมทัล +4.1% จากคาดการณ์งบประมาณด้านการทหารปีนี้สูงขึ้น จากสถานการณ์สงครามรัสเซีย - ยูเครน
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.28%, ฮั่งเส็ง +0.37% ได้ปัจจัยหนุนจาก ธ.กลางจีนปรับลดอัตรา RRR ของสถาบันการเงินลง 5% และลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.10% โดยนักลงทุนยังรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – จีนในวันเสาร์นี้ ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ +0.41% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังสหรัฐเตรียมผ่อนคลายกฏควบคุมการส่งออกชิป Ai ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจติดตาม ตัวเลขส่งออกจีน เม.ย. คาด 1.9% & มี.ค. 12.4% YoY , นำเข้าจีน เม.ย. คาด -5.9% & มี.ค. -4.3% YoY         
  • SET วานนี้ -1.12% ปริมาณการซื้อขาย 2 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 3,009 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 62 ลบ. รายย่อยซื้อ 981 ลบ. และสถาบันซื้อ 2,090 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงชายทำกำไรหุ้นกลุ่ม China Play ที่วันก่อนปรับขึ้นแรง ตอบรับข่าวสหรัฐ & จีนเตรียมเปิดการเจรจาข้อตกลง ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูง หลัง ปธน.ทรัมป์เผยจะไม่มีการปรับลดภาษีศุลกากรที่อัตรา 145% ก่อนจะเจรจากับจีน ขณะที่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว -4.5%, ขนส่ง -1.9% หลัง ม.เที่ยวคนละครึ่งไม่ค่อยจูงใจ เนื่องจากใช้สิทธืได้เฉพาะวันธรรมดา และมีโควตาจำนวนใช้สิทธิ์ได้ไม่ถึง 1 ล้านสิทธิ์ ซึ่งคาดจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วง Low Season ได้น้อย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ ม.หอการค้าไทยคาด GDP ไทยปีนี้อยู่ที่ +/- 2% และคาด กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้อีก 2 ครั้ง ขณะที่ Fetco เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนใน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ภาวะซบเซา สาเหตุมาจากภาวะสงครามการค้า, ข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ และการเมืองในประเทศ โดยกลุ่มที่น่าสนใจลงทุน คือ ธนาคาร ส่วนมติของแพทย์สภาวานนี้ต่อแพทย์ 3 ท่าน ในความผิดกรณีวินัยฉัยอาการป่วยของคุณทักษิณไม่ได้มาตรฐานตามวิชาชีพนั้น ส่งผลให้ปัจจัยเสี่ยงการเมืองในประเทศสูง หลังศาลฎีกามีนัดไต่ส่วนคดีดังกล่าวในวันที่ 13 มิ.ย. นี้     

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,200 แนวต้าน 1,210 – 1,220 คาดดัชนีทรงรอผลการเจรจาสหรัฐ – จีนในวันเสาร์นี้ และรอการรายงานกำไร บจ. เช่น TRUE,WHA,IVL,TU,TOP ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศอาจส่งผลให้ Upside ของดัชนถูกจำกัด แนะนำทยอยซื้อ GULF,GSPC ที่รายงานกำไร Q1/68 ดีกว่าคาด และ Q2/68 คาดยังได้ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง   
  • GPSC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 37.50 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 1 พันล้านบาท +14%QoQ, +32%YoY ดีกว่าคาด โดยกำไรที่ +QoQ เพราะผ่านช่วง low season ของการขายไฟฟ้า ขณะที่ SG&A ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Solar อินเดีย (Avaada) ทยอยดีขึ้น สำหรับกำไรที่ +YoY จากส่วนแบ่งกำไรโครงการ Hydro ไซยะบุรีที่ดีขึ้นตามปริมาณน้ำ ส่วนโครงการ Solar อินเดียมีโครงการทยอย COD เพิ่มขึ้น นอกจากนี้กำไรจากโรงไฟฟ้า SPP ในไทยยังเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงทั้งก๊าซฯ ถ่านหินลดลงจากปีก่อน แต่ IPP ยังมีตัวฉุดจากเก็คโค่-วัน ที่รับผลกระทบเรื่องต้นทุนถ่านหิน // แนวโน้ม 2Q68 คาด norm profit น่าจะดีขึ้น QoQ เพราะเป็น high season demand ของการใช้ไฟฟ้า แต่อาจถูกฉุดจากการปรับปรับลดค่าไฟฟ้าในงวดล่าสุดลง ด้านต้นทุนเชื้อเพลิงทรงตัว ส่วนแบ่งกำไรยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากอินเดีย ลาว แต่ที่ไต้หวันยังต้องเผชิญค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและเข้า low season ของโครงการ Wind นอกจากนี้คาดว่าจะเจอ FX loss เพราะเงินบาทแข็งค่า / ส่วน YoY ลดลงเพราะค่าไฟฟ้าที่ปรับลดลงจากปีก่อน
  • MOSHI* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 94 บาท) แนวโน้มการดำเนินงานปกติในช่วง 1Q68 ยังมีแรงหนุน YoY คาดจาก SSSG เป็นบวก high single digit% ขณะที่สินค้าใหม่ๆยังมีต่อเนื่อง(เช่น Moshi Moshi x Moodeng, Moshi Moshi x Monsty Planet, We Bare Bears)และจำนวนสาขาสูงขึ้น(1Q68 เปิดแล้ว 8 สาขา) โดยทาง MOSHI* เองวางเป้ารายได้ปี68 เติบโต 15-20%/ เป้า SSSG บวก 3-5%/ ออกสินค้าใหม่กว่า 1,000 รายการต่อเดือน/ และ วางแผนเปิดสาขาใหม่ 40 สาขา ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิของ MOSHI* ปี68 และ69 จะอยู่ที่ 614 ลบ. (+18%YoY) และ 722 ลบ.(+18%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update (+) WTI มิ.ย. +$1.84 อยู่ที่ $59.91 / บาร์เรล, Brent ก.ค. +$1.72 อยู่ที่ $62.84/บาร์เรล หลังสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับอังกฤษ และรอผลการเจรจากับจีนในวันเสาร์นี้ ซึ่งถือว่าเป็นผลบวกต่ออุปสงค์การใช้น้ำมัน

 

Gold Update(-) Comex Gold มิ.ย.-$85.90 อยู่ที่ $3,306 /ออนซ์ หลังสหรัฐ – อังกฤษสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ซึ่งบ่งชี้ภาวะสงครามการค้ามีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่า +1.03% อยู่ที่ 100.639

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -143.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -91.66 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด ฯ -51.02 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.33 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.369 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -58 จุด อยู่ที่ 1,316

(+) BitCoin เช้านี้ +5.1% อยู่ที่ 102,850 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

14 พ.ค.     รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

19 พ.ค.     สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 

สัปดาห์ที3  ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

                ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

               

 

ต่างประเทศ

13 พ.ค.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)(เม.ย.)

14 พ.ค.     USสินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

15 พ.ค.     US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เม.ย.)

US ดัชนียอดขายปลีก (เม.ย.)

US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย ( พ.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: KLINIQ, TASCO*, TFG*, OKJ*, NSL*

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้