AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ออกข้าง
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1210-1230 จุด ขาดปัจจัยหนุนใหม่ ผลการประชุม FED คงดอกเบี้ยฯ ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณไม่เร่งลดดอกเบี้ยฯ ส่วนภาษีสหรัฐฯกับจีนอยู่ในช่วงติดตามพัฒนาการของการเจรจาคาดช่วงปลายสัปดาห์ ด้านปัจจัยในประเทศอยู่ในช่วงเก็งกำไรงบ 1Q68 แต่แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคและไทยจะเป็นตัวช่วยประคองตลาด สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ แนะนำ KTB และยังชอบ OSP
ผลการประชุม FED วานนี้คงดอกเบี้ยที่ 4.5% โดยมีมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐฯมีความไม่แน่นอนจากเงินเฟ้อและตลาดแรงงานจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งลดดอกเบี้ยฯ เพราะต้องการดูผลกระทบของนโยบายภาษี สัญญาณข้างต้นทำให้ตลาดคาดว่าการประชุมรอบหน้าเดือน มิ.ย. FED จะคงดอกเบี้ยฯ ด้วยโอกาส 80% (จากสัปดาห์อยู่ที่ 30%) และปีนี้จะลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง เริ่มครั้งแรกในเดือน ก.ค.68 ผลการประชุมข้างต้นเรามองเป็นการส่งสัญญาณ Slightly Hawkish แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปิดบวกอ่อนๆ ในช่วง 0.3 -0.7% เพราะน่าจะให้น้ำหนักไปที่การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ - จีนในปลายสัปดาห์นี้
จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายด้านก่อนการเจรจากับสหรัฐฯ ได้แก่ ลดดอกเบี้ย Reverse Repo และ RRR ธนาคาร/บริษัทลีสซิ่ง เพิ่มเงินรีไฟแนนซ์โครงการเทคโนโลยี-เทรดอิน และค้ำประกันสินเชื่อบริษัทเทคโนโลยี รวมถึงพยุงตลาดหุ้นผ่านกองทุนรักษาเสถียรภาพตลาด พร้อมดึงเงินประกัน/บำเหน็จเข้าตลาดหุ้น เป็นต้น ประเมินมาตรการที่ออกมาในจังหวะเหมาะสมเพื่อรองรับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ หลัง PMI ภาคผลิต เม.ย. ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน และเตรียมพร้อมก่อนเจรจากับสหรัฐฯ ผลต่อเศรษฐกิจ เรายังคงคาด GDP จีนปี 68 ขยายตัว 4.2%YoY หุ้นไทยที่ได้ประโยชน์คือกลุ่ม China Play เช่น SCGP, PTTGC, IVL แต่ราคาปรับขึ้นแล้ว 7–10% จึงไม่แนะนำไล่ราคา
Market Summary
SET Index ปรับขึ้นแรง 32 จุด หรือ 2.7% จากประเด็นจีนเตรียมเจรจาสหรัฐฯ และจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนหุ้นกลุ่ม China Play ปรับขึ้นเด่น นำโดย กลุ่มปิโตรฯ PTTGC +10% SCGP +11% กลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดกลับ BCP +6% SPRC +6.6% PTTEP +6% กลุ่มโรงไฟฟ้าจากเงินบาทแข็งค่า GULF +5.8% GPSC +4.8% และกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ CCET +11% ส่วนกลุ่มที่ Underperform กลุ่มท่องเที่ยวแต่ก็มาจาก MINT ที่ขึ้น XD แต่หุ้นอื่นๆ บวกเด่น ERW +5.4% CENTEL 1.7% จาก ททท. เตรียมมาตรการท่องเที่ยวกับรัฐบาล
DAILY Stock Pick
KTB
สะสมหุ้นปันผล sentiment FED หนุน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 25.00 บาท
FED เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งสัญญาณนโยบายเข้มงวด (hawkish) คงดอกเบี้ยที่ 4.5% ตามคาด โดยยังคงมุมมองเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบ 2% แม้ว่ามีความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจมากขึ้น
เราชอบ KTB เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำและแนวโน้มกำไรเติบโตชัดเจนในปี 68 ที่ +5.7%YoY ณ ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE68 ที่ 7.3 เท่า อีกทั้งอัตราเงินปันผลที่ 5.5% ช่วยจำกัด Downside
KEY FACTOR
จีนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดย 1) ปรับ อัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 50 bps ซึ่งคาดว่า จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบ 1 ล้านล้านหยวน 2) ลดอัตราดอกเบี้ย Reverse Repo 7 วันจาก 1.5% เหลือ 1.4%นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น ลด RRR เหลือ0% สำหรับบริษัทสินเชื่อรถยนต์และบริษัทเช่าซื้อ, ลดดอกเบี้ยสำหรับเครื่องมือปล่อยกู้เชิงโครงสร้างและสินเชื่อสนับสนุนที่มีหลักประกัน, ลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อกองทุนสะสมที่อยู่อาศัย, การขยายวงเงินกู้สำหรับภาคการบริโภคและเกษตร เป็นต้น ซึ่งถือเป็นมาตรการที่เร่งด่วนก่อนที่การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน จะเริ่มต้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้
Fed มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25% - 4.5% เป็นไปตามที่ Consensus ประเมินไว้ ในขณะเดียวกันประธาน Fed ส่งสัญญาณระมัดระวังต่อการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย โดยให้น้ำหนักต่ออัตราเงินเฟ้อที่มีโอกาสกลับมาเร่งตัวจากภาวะสงครามการค้า
EYES ON
7 พ.ค. : ค้าปลีก Eurozone เดือน เม.ย.
8 พ.ค. : ผลการประชุม FOMC
9 พ.ค. : ตัวเลขส่งออก-นำเข้าจีน เดือน เม.ย.
10 พ.ค. : เงินเฟ้อจีน เดือน เม.ย.
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ