Today’s NEWS FEED

News Feed

FPT เผยงบรวมQ2 (สิ้นสุด 31 มี.ค.68) กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 40.2% รักษาอัตราการเช่าในระดับสูงถึง 91% - รับรู้กำไรจากการขายโรงงานและที่ดิน

77

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 6 พฤษภาคม 2568)-------- นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) FPT เปิดเผยว่า สำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 บริษัทฯ รายงานรายได้จากการประกอบธุรกิจ จำนวน 2,866.0 ล้านบาทลดลงร้อยละ 16.2 หรือ 552.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน และรายงานรายได้รวม จ านวน 3,030.2 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 14.0 หรือ494.1 ล้านบาท โดยบันทึกกำไรสำหรับงวด จำนวน 220.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.5 หรือ 55.4 ล้านบาท และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ จำนวน 222.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.2 หรือ 63.7 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


• รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง 616.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.0 มาอยู่ที่ 1,753.9 ล้านบาท จาก 2,370.5ล้านบาทในปีก่อน ด้วยสภาวะตลาดที่ยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสิ้นสุดของมาตรการการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจ านองเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2567 อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ยังคงรักษาอัตราก าไรขั้นต้นจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยไว้ได้ที่ร้อยละ 21.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ร้อยละ 21.0 ด้วยกลยุทธ์ในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าเปิดตัว 2 โครงการใหม่ตามแผน เพื่อจับกลุ่มความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ที่ยังคงมีศักยภาพ ได้แก่ Gramourสาทร ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับ Luxury แบรนด์ใหม่บนท าเลใกล้เมือง และ Klos รามอินทรา-แฟชั่น ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 4 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง ครอบคลุมท าเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งประกอบไปด้วยโครงการบ้านเดี่ยวระดับบนและทาวน์โฮมแบรนด์ใหม่ Goldina โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการน าเสนอสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่ดีรวมไปถึงการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวเป็น Top-of-mind ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยต่อไป

• รายได้จากการให้เช่าและบริการที่เกี่ยวข้อง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 64.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 มาอยู่ที่ 835.8 ล้านบาท จาก771.6 ล้านบาทในปีก่อน โดยหลักจากความต้องการพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนต่อเนื่องจากการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดย ณ สิ้นไตรมาส2 ปี 2568 มีอัตราการเช่าเฉลี่ยทั้งในและต่างประเทศสูงถึงร้อยละ 90 ซึ่งนับเป็นอัตราการเช่าสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งนี้ ภายหลังจากทีสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มกำแพงภาษีส่งผลให้เกิดภาวะชะลอการลงทุนในระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนจากผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า

นอกจากนี้ ในส่วนของรายได้จากธุรกิจอาคารสำนักงานและรีเทลมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราค่าเช่าจากการต่อสัญญาใหม่ ในภาพรวมบริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาอัตราการเช่าอาคารสำนักงานและศูนย์การค้าภายใต้การบริหารของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล ในระดับสูงถึงร้อยละ 91

• รายได้จากธุรกิจโรงแรม ปรับตัวลดลง 3.0 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 3.3 มาอยู่ที่ 89.6 ล้านบาท จาก 92.6 ล้านบาทในปีที่ผ่านมาโดยมีปัจจัยหลักจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยลดลง จากเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยที่เกิดกับนักแสดงจีนเมื่อต้นเดือนมกราคม อย่างไรก็ดี อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ที่ยังคงเติบโต

• รายได้ค่าบริหารจัดการ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.5 มาอยู่ที่ 186.7 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการบริหารสินทรัพย์ให้กับ FTREIT

• ในไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทฯ รับรู้กำไรจากการขายโรงงานและที่ดินที่ไม่ได้อยู่ในแผนการดำเนินงานธุรกิจหลักจำนวน 107.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 36.4 ล้านบาท จาก 71.0 ล้านบาทในจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามกลยุทธ์ในการบริหารจัดการสินทรัพย์ในพอร์ตโฟลิโอให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

• ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าสุทธิจากกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการขายอสังหาริมทรัพย์ให้บริษัทร่วมและการร่วมค้า ปรับตัวเพิ่มขึ้น 36.6 ล้านบาทมาอยู่ที่ 153.8 ล้านบาทจาก 117.2 ล้านบาทในปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานของโครงการสามย่านมิตรทาวน์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

• บริษัทฯ มีต้นทุนจากการประกอบธุรกิจลดลงร้อยละ 20.2 หรือลดลง 482.7 ล้านบาท มาอยู่ที่ 1,908.1 ล้านบาท จากกลยุทธ์ในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30.1 ในปีก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 33.4 จากอัตราก าไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชยกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น ในขณะเดียวกัน ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัทฯ ลดลงร้อยละ 3.4 หรือ 24.9 ล้านบาท มาอยู่ที่ 717.2 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการโอนที่ลดลง ส่งผลให้บริษัทฯ มีต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 2,625.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.2 หรือ 507.5 ล้านบาทจากปีก่อน


• อย่างไรก็ดี ต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 หรือ 18.9 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการออกหุ้นกู้ใหม่ทดแทนของเดิมที่ครบกำหนดชำระ และการหยุดบันทึกดอกเบี้ยเข้าต้นทุนโครงการของโครงการในเวียดนามเนื่องจากการก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จ

จากรายได้และต้นทุนที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสำหรับงวด จำนวน 220.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.5 และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ จำนวน 222.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.2% กำไรต่อหุ้นส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่อยู่ที่ 0.10 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปี 2568 เพิ่มขึ้นจากกำไรต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่0.06 บาทต่อหุ้น

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

รอ เฟด By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ ออกมาเปิดเผย CPI เดือน เม.ย. -0.22%YoY จากตลาดคาด -0.1%....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้