ภาวะตลาด : วานนี้ SET Index ปรับขึ้นเช่นเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลังคลายกังวลเมื่อทรัมป์ กล่าวว่าจะไม่มีการปลดนายพาวเวลจากตำแหน่งปธ.เฟด และนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐแสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า ปิดตลาดดัชนี +9.72 จุด เป็น 1153.77 นำโดยหุ้น DELTA ที่พุ่งขึ้น +10.5% และดึงดัชนีขึ้น +7.25 จุด นักลงทุนสถาบันในปท.ซื้อสุทธิ +2.32 พันลบ. ส่วนต่างชาติขายสุทธิ -2.85 พันลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
+/• ทรัมป์มีท่าทีอ่อนลงกับจีน โดยระบุว่าอัตราภาษีศุลกากรที่รัฐบาลสหรัฐเรียกเก็บสินค้าจากจีนจะลดลงอย่างมากในท้ายที่สุด แต่ขณะนี้สหรัฐและจีนยังไม่มีกำหนดการเริ่มต้นเจรจาอย่างเป็นทางการ
-/+ สหรัฐ : ดัชนี PMI บริการเม.ย.ชะลอมากและต่ำกว่าคาด แต่ภาคผลิตเพิ่มขึ้นดีกว่าคาด โดยดัชนี PMI ภาคบริการลดสู่ 51.4 (จาก 54.4 เดือนมี.ค.) ส่วนดัชนี PMI ภาคผลิตเพิ่มเป็น 50.7 (จาก 50.2 เดือนมี.ค.)
-/+ ยูโรโซน : ดัชนี PMI ภาคบริการชะลอลงในเดือนเม.ย. แต่ภาคผลิตกระเตื้องขึ้น โดยดัชนี PMI ภาคบริการลดเป็น 49.7 (จาก 51 เดือนมี.ค.) แต่ดัชนี PMI ภาคผลิตขยับขึ้นเป็น 48.7 (จาก 48.6 เดือนมี.ค.) ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้
• เกาหลีใต้จะเริ่มเจรจาภาษีกับสหรัฐ 24 เม.ย.นี้ที่กรุงวอชิงตัน โดยทางเกาหลีใต้ระบุว่ารอบแรกนี้ จะเป็นการรับฟังจุดยืนและข้อเสนอจากสหรัฐ และความเห็นเบื้องต้นของฝั่งเกาหลีใต้ โดยจะไม่เร่งให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว
+/• ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นต่อ ดัชนี VIX ลดเป็ น 28.45 ราคาน้ำมันดิบ WTI & BRENT ลดลงราว -2% เป็น 62-66 US$/bbl หลังกลุ่มโอเปกพลัสกำลังพิจารณาเพิ่มก.ผลิตในเดือนมิ.ย. สัญญาทองคำอ่อนต่อ -3.66% ค่าเงิน US$ แข็งเป็น 99.76 เงินบาท/US$ ทรงที่ 33.5+/- ด้าน US Bond Yield 10 ปี ขยับขึ้นเป็น 4.4% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 94.5 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ปรับขึ้นเป็น 1300 (สูงสุด 1669) หลังมีสัญญาณว่าสงครามการค้าจะอ่อนคลายลง
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
+ ตลท.ออกเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อลดความผันผวน โดยจะเริ่มใช้ Auto Pause ตั้งแต่ 6 พ.ค.25 (หุ้นใดมีปริมาณคำสั่งซื้อหรือขายในทุกราคามากกว่า 15% ของหุ้นเรียกชำระทั้งหมด จะขึ้นเครื่องหมาย Pause (P) 40 นาที และ Pre-open 20 นาที ก่อนกลับสู่การจับคู่ซื้อขายปกติ โดยจะใช้ไม่เกิน 1 ครงั้ /วัน/หลักทรัพย์ โดยใช้กับหุ้นสามัญ, REIT, PF & IFF และหลักทรัพย์อื่นที่ใช้หลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นส/ทอ้างอิง เช่น Warrant, DW, Single Stock Futures ก็จะหยุดซื้อขายไปด้วย
•/+ ปัจจัยติดตาม : การเจรจาภาษีการค้าไทย-สหรัฐ ขณะนี้รอว่าจะได้คิวเมื่อไร, รายงานงบ real sectors, ผลประชุมกนง.วันที่ 30 เม.ย., สถานการณ์การเมืองไทย
+ หุ้น Defensive & Domestic Play ที่น่าสนใจ ได้แก่ ADVANC, CPALL, CK, STECON, PR9, BDMS, KTB, TTB, MTC, HMPRO, BEM
กลุยทธ์ :
ระวังชะลอที่ใกล้แนวต้าน 1164-1166– การแกว่งตัวขึ้นยังคงต้องระมัดระวังโซนแนวต้านบริเวณ 1164-1166 ที่เป็น gap ที่เปิดไว้ โดยปกติจะทำหน้าที่เป็นแนวต้านและมีช่วงทำให้ชะลอการขึ้นสั้นก่อน โดยเชิงแนวโน้มมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่การพักฐานหลังจากขึ้นรอบนี้ ต้องไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับทิศทาง หุ้นเทคนิคแนะนำ เป็น BAM, PR9
หุ้นพื้นฐานแนะนำ:
MTC (ราคาปิด 44.75 บาท) –อัตราดอกเบี้ยขาลงเป็น Sentiment บวกกับหุ้น โดยคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะลดอย่างน้อย 2 ครั้ง ๆละ 0.25%ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ด้านสินเชื่อยังคงเติบโตต่อ หลักๆ มาจากการขยายสาขา คุณภาพสินทรัพย์บริหารจัดการได้ บริษัทตั้งเป้าหมาย NPL ratio ไม่เกิน 2.7% ในสิ้นปี 25F (สิ้นปี 24 อยู่ที่ 2.75%) ประสิทธิภาพดีขึ้น C/I ratio คาดว่าจะลดลง คาดกำไรสุทธิปีนี้โต +17% แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 65 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829