----กำไรสุทธิ 1Q25 ดีกว่าคาด...เน้นการควบคุมค่าใช้จ่าย----
กำไรสุทธิ 1Q25 ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 6% โดยออกมาเท่ากับ 12.5 พันล้านบาท (+10.8% y/y; +6.8% q/q) จากรายได้สูงกว่าที่ประเมินไว้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่ำกว่าคาด
ปัจจัยหนุนการเติบโต การเพิ่มขึ้นของกำไร y/y และ q/q มาจากรายได้ non-NII เพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากกำไรในการตีมูลค่ายุติธรรมสินทรัพย์ทางการเงิน ค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง และตั้งสำรองน้อยลง กำไรก่อนสำรอง (PPOP) เพิ่มขึ้น +4.1% y/y และ +4.2% q/q จากรายได้ non-NII เพิ่ม และค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง
สินเชื่อหดตัว -0.9% y/y แต่เพิ่มขึ้น +1.0% q/q จากสินเชื่อรายใหญ่โต +4% q/q ขณะที่สินเชื่อประเภทอื่นหดตัว
NPL ratio เพิ่มขึ้น โดย NPL ratio สิ้น 1Q25 เพิ่มเป็น 3.45% (จาก 3.37% ในสิ้น 4Q24) เนื่องจาก NPL กลุ่มสินเชื่อรายย่อยสูงขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน และ NPL กลุ่มสินเชื่อ SME ขนาดเล็กเพิ่มขึ้น รวมทั้งสินเชื่อ Gen 2 มี NPL เพิ่มขึ้น ทั้งจาก Auto X และ MONIX แต่คุณภาพสินเชื่อของ Card X ดีขึ้น แต่ธนาคารตั้งสำรองในไตรมาสนี้ 9.6 พันล้านบาท (-6.2% y/y; -2.3% q/q) ทำให้ coverage ratio ลดลงเป็น 156% (จาก 158% ในสิ้น 4Q24)
NIM มีแนวโน้มลดลง จาก Yield ที่อ่อนลง ธนาคารคาดว่ากนง.จะลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ (รวมเป็นลด 4 ครั้งในปี 25) และคาดว่าจะกระทบ NIM ราว 15-20bps
สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1-3% ในปี 25F เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย และธนาคารเน้นคุณภาพสินเชื่อเป็นหลัก ส่วน credit cost คาดว่าจะอยู่ในช่วง150-170bps ตามที่ตั้งไว้
เน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อหนุนการเติบโตของกำไร ในขณะที่การเติบโตของรายได้จะค่อนข้างจากัดในยามเศรษฐกิจซบเซา
แนะนำถือเพื่อรับปันผลสูง ให้ราคาพื้นฐาน 124 บาท อิงกับ P/BV ปีนี้ที่ 0.9 เท่า (Mean-0.5SD) ทั้งนี้ ผู้บริหารยืนยันว่าธนาคารยังสามารถจ่ายปันผลสูงได้ต่อในปีนี้ เนื่องจากมีเงินกองทุนแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์ : ธนินี สถิรเรืองชัย : thaninees@dbs.com : Tel. 02 857 7837