AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ออกข้าง
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งออกข้างตามกรอบ 1125-1150 จุด อาจมี Sentiment ลบจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับลงในช่วง -1.7% ถึง -2.2% จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคฯ และความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากการออกมาให้ความเห็นของประธาน FED แต่ Downside จำกัด จากสถานการณ์ภาษีที่จีนเริ่มเปิดประตูการเจรจากับสหรัฐฯหุ้นวันนี้เลือก COM7 และ SPRC

การกีดกันการค้าความไม่แน่นอนยังมีอยู่ แต่สถานการณ์ดูเบาลง จากจีนพร้อมเจรจากับสหรัฐฯ บนเงื่อนไข สหรัฐฯ ต้องให้เกียรติกันร่วมแก้ปัญหาคว่ำบาตรและไต้หวัน รวมถึงแต่งตั้งผู้แทนหลักในการเจรจา ซึ่งหากสหรัฐฯ ยอมรับเงื่อนไข หมายความว่า ทุกประเทศเข้าสู่โต๊ะเจรจาสหรัฐฯ ซึ่งต้องติดตามพัฒนาการต่อไป แต่สำหรับตลาดหุ้น เราเชื่อว่าภาวะที่แรงกดดันจากภาษีที่มีแนวโน้มผ่านจุดเลวร้ายที่สุดในยกแรก น่าจะทำให้ความผันผวนจากนี้จะค่อยๆลดลงและไปติดตามที่ผลการเจรจาของรัฐบาล ส่วนหุ้นที่ลงแรงจากประเด็นนี้ เราคาดว่าจะยังอยู่ในโหมดรีบาวน์ กลับชอบ CCET WHA PTTEP SPRC

ปัจจัยในประเทศคลังเผยได้รับรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์ Virtual Bank(VB) 3 ราย ซึ่งผลอย่างเป็นทางการคาดจะเปิดเผยในช่วงกลางปี 68 และหากอิงตามกำหนดการเดิม ผู้ได้รับใบอนุญาตมีระยะเวลาเตรียมธุรกิจ 1 ปี และเปิดให้บริการ ราวกลางปี 69 ประเมินความคืบหน้าข้างต้นเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Tech Consult เราคาดว่าการลงทุนของ VB อยู่ที่ 3.0–5.7 พันล้านบาท ก่อนเริ่มดำเนินงาน โดย BBIK และ BE8 น่าจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนครั้งนี้ เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมธนาคาร ส่วนประเด็นอื่นๆ ติดตามวันนี้การรายงานงบ 1Q68 ของ TISCO คาดกำไร 1.7 พันล้านบาท ลดลง -2%YoY

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 10 จุดหรือ 0.9% โดยเป็นการปรับขึ้นกระจายหลายอุตสาหกรรม โดยกลุ่มที่ขึ้นเด่นกลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC +12% BGRIM +9% หลังจากเงินบาทแข็งค่า ราคาก๊าซ JKM LNG 2QTD ปรับลง เฉลี่ย 8%QoQ กลุ่ม China Play จากการรายงาน GDP 1Q68 จีน ขยายตัว 5.4%YoY มากกว่าคาด หนุน SCGP +5% PTTGC +3% กลุ่มนิคมฯ จากแรงกดดันจากภาษีสหรัฐฯ สงบชั่วคราว AMATA +9% WHA +6% กลุ่มที่ติดลบ คือ กลุ่มธนาคาร KTB -5.3% SCB -6.6% จากการขึ้น XD

DAILY Stock Pick
SPRC
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.90 บาท
เมื่อวานที่ผ่านมา จีนรายงานตัวเลข GDP ประจำงวด 1Q68+5.4%YoY สูงกว่าคาดที่ +5.2%YoY อีกทั้งตัวเลขภาคอุตสาหกรรมโต +5.9%, ยอดขายปลีกเดือน มี.ค. +5.9% สูงสุดในรอบ 12 เดือน, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงสุดในรอบ 11 เดือนที่ระดับ 88.4 พร้อมกับนายกรัฐมนตรีของจีนเตรียมพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นการบริโภคและลดผลกระทบของสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ที่จะมีต่อเศรษฐกิจจีน เป็นปัจจัยหนุนกลุ่ม Commodity
ในเชิง Valuation ยังอยู่ในจุดที่ถูกเกินไป จากการซื้อขายบน PBV 0.43 เท่าต่ำกว่าเฉลี่ย -1.6 S.D. (ต่ำกว่าจุดต่ำสุดในช่วง Covid-19 PBV ที่ 0.6 เท่า) ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี นอกจากนี้ Market Cap ในปัจจุบัน ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท มีมูลค่าใกล้เคียงกับเงินทุนหมุนเวียนสุทธิทั้งสองปัจจัยดังกล่าวช่วยจำกัด Downside

WEEKLY Stock Pick
COM7
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 29.50 บาท
เราคาดว่ากำไรหลัก 1Q68 อยู่ที่ 890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%YoY แต่ลดลง 13% QoQ การเพิ่มขึ้น YoY มาจากรายได้ขยายตัว 7%YoY หนุนจากวงจรการเปลี่ยนอุปกรณ์ไอที เช่น โน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟน เพื่อรองรับเทคโนโลยี AI ส่วนกำไรหดตัว QoQ มาจากปัจจัยทางฤดูกาล
ด้านกำไรทั้งปี 68 คาดเติบโต 14%YoY และให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 5% ในปี 2568/69 มุม Valuation ของ COM7 ซื้อขายบน PER68E ที่ 12 เท่าต่ำกว่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -1.6S.D. ราคาหุ้นปรับลงตั้งแต่วันที่ 3 -11 เม.ย. 68 ที่ -5% เราคาดว่าปัจจัยหลักเป็นการลงตามทิศทาง SET Index ที่ถูกกดดันจากสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีตอบโต้ ทั้งๆ ที่ผลกระทบในเชิงพื้นฐานจำกัดมาก เนื่องจากรายได้หลัก COM7 มาจากในประเทศ 100%

KEY FACTOR
ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ ยังไม่สะท้อนผลจากกำแพงภาษี นำโดย 1) GDP 1Q68 ของจีน ขยายตัว +5.4% YoY สูงกว่าคาดการณ์ที่ +5.2%YoY และ +1.2%QoQ ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ +1.6% QoQ ซึ่งยังไม่เห็นผลกระทบจากสงครามการค้าในไตรมาสที่ผ่านมา โดย Maybank คงคาดการณ์ GDP ปี 2568 +4.2% และปี 2569 ที่ +4.0% ปัจจัยขับเคลื่อนหลักยังเป็นการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นภาครัฐ ช่วง 1H68 คาดว่าจะมี i) งบประมาณกระตุ้นด้านการคลังอีกราว 2.1 ล้านล้านหยวน คิดเป็นประมาณ 1.5% ของ GDP ii) ลด RRR ลง 50bps iii) ลดดอกเบี้ย LPR 1 ปีลง 25bps เหลือ 2.85%

2) ยอดค้าปลีก และ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน มี.ค. จีน ขยายตัวได้ดี +5.9% YoY และ +7.7% YoY สูงกว่าคาด 4.3% YoY และ 5.9% YoY ตามลำดับ 3) ยอดค้าปลีก และ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน มี.ค. สหรัฐฯ ใกล้เคียงคาด +1.4% MoM และ -0.3% MoM ใกล้เคียงคาด +1.4% MoM และ -0.2% MoM ตามลำดับ

EYES ON
17 เม.ย. : ประชุม ECB

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ