Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวพตลาดหุ้นรายวัน

301

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 16 เม.ย.68 ปิด +10.24 จุด อยู่ที่ 1,138.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,200 ลบ.ต่างชาติซื้อ 655 ลบ.    สถาบันซื้อ 502 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 668 ลบ. และรายย่อยขาย 489 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 135 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น GULF,AOT,ADVANC,PTTEP,TISCO และยอดขายหุ้น DELTA,KBANK,CPALL,KTB,PTT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,142 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TAIWANAI13,E1VFVN3001,CHG โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 2,470 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 54,627 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 13,149 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.73%, S&P500 -2.24%, Nasdaq -3.07% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -3.9%,สินค้าฟุ่มเฟือย -2.7% หลังสหรัฐจำกัดการส่งออกชิปของ Nvidia ไปยังตลาดจีน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป เช่น AMD, Micron Tech. ปรับลดลง ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.19% นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี -2% และ ASML -5.2% หลังสหรัฐจำกัดการส่งออกชิปของ Nvidia ขณะที่กลุ่มพลังงาน +1.2% ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง จากแรงชายกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Nvidia -6.8% หลังถูกรัฐบาลสหรัฐจำกัดการส่งชิป AI รุ่น H20 ไปจีน ส่งผลให้รายได้ปีนี้คาดหายไปราว $4 – 1.8 หมื่น ล. ซึ่งเพิ่มความกังวลต่อ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ & ยาที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะที่ถ้อยแถลงของ ปธ.เฟดในงานสัมมนาที่ชิคาโกชึ้ ม.เก็บภาษีศุลกากรที่สูงเกินกว่าคาด อาจส่งผลให้เงินเฟ้อสูงและภาวะเศรษฐกิจอาจชะลอตัว ซึ่ง GDPNow คาด US GDP Q1/68 มีโอกาสหดตัว -2.2% ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสร้างบ้านใหม่สหรัฐ มี.ค. และดัชนีภาคการผลิต เม.ย.ของเฟดฟิลาเดลเฟีย
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย ASML -5.2% หลังรัฐบาลสหรัฐจำกัดการส่งออกชิปไปยังตลาดจีน ส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดชิปอาจชะลอตัวลง ขณะที่ LSEG คาดกำไร บจ.ใน Stoxx600 Q1/68 มีโอกาส -3% & คาด +2.2% เป็นผลกระทบจากสงครามการค้า ส่วนค่ำวันนี้ติดตามผลการประชุม ECB คาดจะปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% อยู่ที่ 2.5% หลังข้อมูล CPI ยูโรโซน มี.ค. อยู่ที่ 2.2% YoY
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.26% ได้ปัจจัยหนุนจาก GDP จีน Q1/68 ขยายตัวที่ 5.4% สูงกว่าคาดที่ 5.2% YoY ,ผลผลิตภาคอุต ฯ จีน มี.ค. +7.7% YoY, ยอดค้าปลีกจีน มี.ค. +5.9% YoY ได้แรงหนุนจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีนในช่วงปลายปีก่อน ขณะที่ดัชนีนิเกอิ -1.01%, Kospi -1.21% และฮั่งเส็ง -1.91% จากแรงขายกลุ่ม Supply Chain ของ Nvidia เช่น TSMC, SK Hynix หลังถูกสหรัฐจำกัดการส่งออกชิปไปตลาดจีน       
  • SET วานนี้ +0.91% ปริมาณการซื้อขาย 4.1 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 655 ลบ. สถาบันซื้อ 502 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 668 ลบ. และรายย่อยขาย 489 ลบ. โดยดัชนี SET ปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาคที่มีการฟื้นตัว ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ กอปรมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่ม China Play เช่น ปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์ ที่ปรับขึ้นตอบรับ GDP จีน Q1/68 ที่ขยายตัว +5.4% YoY ส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มเหล่านี้ ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้าก็ปรับขึ้น หลังรัฐบาลไทย & PTT เตรียมหารือแผนนำเข้าก๊าซ LNG จากสหรัฐเพิ่มอีก 1 ล.ตันในระยะเวลา 5 ปี มูลค่าราว 600 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ต้นทุน Pool Gas มีแนวโน้มลดลง ซึ่งเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยดัชนี SET ได้แรงหนุนจากเม็ดเงินต่างชาติที่ซื้อสุทธิในตลาดหุ้น & พันธบัตรไทย หลังค่าเงินบาทไทยวานนี้แข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน สำหรับประเด็นที่ตั้องติดตามสัปดาห์นี้ คือ การเริ่มรายงานกำไร Q1/68 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ( BB.Consensus) คาดทรงตัว -0.8% YoY แต่ +8.1% QoQ จากคาดการณ์ค่าใช้จ่าย & สำรอง ECL ปรับลดลง QoQ และวันนี้ TISCO จะรายงานกำไร Q1/68 (BB.Consensus) คาดที่ 1.6 พัน ลบ. -5.4% QoQ, -7.1% YoY

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,120 แนวต้าน 1,140 – 1,150 คาดดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน โดยรอการหารือข้อตกลงการค้าสหรัฐ – ไทยในสัปดาห์หน้า และรายงานกำไร Q1/68 ของกลุ่มธนาคาร แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวในกลุ่มอาหาร & อุปโภค เช่น CPF,TFG,FM,,BJC,HMPRO / โรงไฟฟ้า GULF,GPSC จากต้นทุน Pool Gas มีแนวโน้มลดลง
  • CKP* (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 3.88 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q68 ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ซึ่งราคาหุ้นตอบรับไปแล้ว ขณะที่ 2Q68-3Q68 กำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ จากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนตามฤดูกาล และปริมาณน้ำโขงที่ผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มขึ้นจากปรากฎการณ์ La Nina ส่งผลให้ภาพรวมปี 68 กำไรอิงจาก consensus ของตลาดจะสามารถเติบโตได้ในระดับ 57 พันล้านบาท (+17%YoY) โดยคาดหวังว่าจะไม่มีการหยุดผลิตไฟฟ้าของโครงการไซยะบุรีเหนือนกับปีก่อน
  • KLINIQ (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย75 บาท) กำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 99 ลบ. (+26.69%YoY, +33.38%QoQ) เติบโตได้เด่นตามรายได้ที่อยู่ที่ 844 ลบ.(+31%YoY, +13%QoQ) หนุนจาก SSSG+13.1%YoY รวมถึงจำนวนสาขาที่สูงขึ้น 17 สาขา ทั้งนี้ เห็นสัญญาณที่ดีจากแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายสาขาใหม่ๆที่เปิดอย่าง aggressive ในช่วง 9M67(ราว14สาขา) มีน้ำหนักน้อยลงแล้ว รายได้สามารถโตทันต้นทุนค้าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ ส่วนแนวโน้ม 1Q68 ประเมินดีต่อเนื่อง YoY QoQ ทั้งนีในปี68 คาด KLINIQ จะเปิดสาขาใหม่อีก 10 สาขา ปัจจุบัน เราประมาณการกำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ KLINIQ อยู่ที่ระดับ 383  ลบ.( +18.79%YoY)  และ 455 ลบ.(+18.93%YoY) ตามลำดับ

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI พ.ค. +$1.14 อยู่ที่ $62.47 / บาร์เรล, Brent มิ.ย. +$1.18 อยู่ที่ $65.85/บาร์เรล หลังสหรัฐเตรียมใช้ ม.คว่ำบาตรต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กของจีน ที่ซื้อน้ำมันจากอิหร่าน ขณะที่ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 515,000 & คาด 507,000 บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold มิ.ย.+$106.0 อยู่ที่ $3,346.40 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.83% อยู่ที่ 99.385 จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -468.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +19.82 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -488.37 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.21 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 33.11 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.296 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -22 จุด อยู่ที่ 1,241

(+) BitCoinเช้านี้ +0.78% อยู่ที่ 84,285 ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ส่งออกญี่ปุ่น มี.ค. +3.9% & คาด +4.5% YoY

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

 

ต่างประเทศ

16 เม.ย.    CN ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ปีต่อปี) (ไตรมาส 1)

                EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มี.ค.)

                US ดัชนียอดขายปลีก (มี.ค.)

17 เม.ย.    EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (เม.ย.)

EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป 

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (เม.ย.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio April 2025: CPALL, SYNEX*, KLINIQ, DOHOME*, BDMS

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้