แรงกดดันเบาลง แต่ยังปกคลุมด้วยความไม่แน่นอน
TOP PICK ADVANC / CPALL/ ICHI
EXTERNAL FACTOR
GLOBAL INDICES
• สหรัฐฯยกเว้นภาษีสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ แต่ย้ำว่าการยกเว้นอาจเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ส่วนทางฝั่งจีน ก็ตอบโต้กลับโดยการไปเยือนพันธมิตรในเอเชีย อาทิ เวียดนาม มาเลเซีย และ กัมพูชา อีกทั้งยังระงับการรับมอบเครื่องบิน BOEING และชิ้นส่วนเครื่องบินจากสหรัฐฯ
• แต่ละประเทศเพิ่งพาตนเองมากขึ้น(ยุค DE-GLOBALIZATION) ซึ่งองค์ประกอบ GDPของไทยปี 2024 มี NET EXPORT ราว 5%(มีโอกาสลดลงจนเหลือ 0%) และหนุนให้ไทยที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ ราว 3.5 หมื่นล้านเหรียญฯ มีโอกาสลดลง ซึ่งฝ่ายวิจัยฯประเมินกรณี หากไทยไม่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯเลย จะกระทบกับ GDP ไทยค่อนข้างแรง โดยต้องใช้ทั้งมาตรการการเงิน และการคลัง หนุน
INTERNAL FACTOR
• ช่วงที่ผ่านมา ตลาดฯ ออกมาตรการชั่วคราวลดความผันผวนได้ถูกจังหวะพอดี โดยSET ทำจุดต่ำสุดในเดือนนี้ที่ -8.8% ถือว่าลงไม่ลึก เมื่อเทียบกับหลายประเทศ สหรัฐ -15%, เวียดนาม -18% เป็นต้น
• และ 16 เม.ย. 68 เป็นต้นไป ยังคงกฏ UPTICK ในหุ้นใน SET100 ถือเป็นการช่วยลดความผันผวนจากการ SHORT SELL ภายใต้สถานะการณ์ภายในและภายนอกไม่นิ่ง
• อีกทั้งหุ้นใน SET100INDEX ยังมี VALUATION ที่ถูกมาก มีหุ้นถึง 49 บริษัท PBV <1
INVESTMENT STRATEGY
• ตลาดการเงินสหรัฐฯ ผันผวนมาก ดอลลาร์อ่อน, ตลาดหุ้นลดลงเกิน -15% ตลาดตราสารหนี้ลดลงหนักสะท้อนจาก BOND YIELD 10 ปีสหรัฐ พุ่งขึ้น 50 –60 BPS. ในช่วงเวลาสั้น ซึ่ง 62% ของประชากรสหรัฐ ลงทุนในหุ้น และกองทุนสหรัฐมีสัดส่วนถือครองพันธบัตรรัฐบาลกว่า 10% ความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจทำให้ACTION ของปธน. ทรัมป์ ต่อจากนี้เบาลงก็เป็นไปได้
• กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือเงินสดบางส่วน แนะนำเก็งกำไรสั้นๆ กับหุ้นได้กระแสจากการยกเว้นภาษีชั่วคราวจากสหรัฐฯ อาทิ DELTA CCET KCE COM7 JMART ส่วนหุ้น TOPPICK เลือก ADVANC, CPALL, ICHI
นักลงทุนยังกังวล TRADE WAR ที่มีโอกาสปะทุได้ทุกเมื่อ
วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนในกรอบแคบราว -0.05% ถึง -0.4% หลังจากปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า แม้TRADE WAR จะผ่อนคลายลงบ้าง หลังสหรัฐฯยกเว้นภาษีสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์แต่ย้ำว่าการยกเว้นอาจเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น และเปลี่ยนไปอยู่ในกลุ่มภาษีใหม่ภายใน 1-2 เดือน และเตรียมพิจารณายกเว้น “ภาษีรถยนต์-ชิ้นส่วนรถยนต์” 25% ชั่วคราว หลังมองราคาจะพุ่งแรงเกิน และเพื่อให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆย้ายฐานการผลิตมาสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามทางทรัมป์ เริ่มมีการสอบสวนการนำเข้ายาและชิป โดยส่งสัญญาณใช้มาตรการภาษีแยกต่างหาก(ก่อนหน้านี้ยกเว้นภาษี)
ส่วนทางฝั่งจีนหลังจากที่โดนภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ 145% ก็ตอบโต้กลับโดยการไปเยือนพันธมิตรในเอเชีย อาทิเวียดนาม มาเลเซีย และ กัมพูชา อีกทั้งยังระงับการรับมอบเครื่องบิน BOEING และชิ้นส่วนเครื่องบินจากสหรัฐฯ
ส่วนทางฝั่งยุโรป แม้ก่อนหน้านี้จะเห็นสัญญานผ่อนคลายลงต่อสหรัฐฯ โดยชะลอบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ชุดแรกต่อสหรัฐ 90 วัน (เดิมจะเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เพิ่ม 25% เริ่ม 15 เม.ย. 68) แต่ล่าสุดการประชุมระหว่างกัน ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร จบแบบไร้ข้อสรุป
ประเด็นดังกล่าว ทำให้นักลงทุนยังเกิด OVER HANG ต่อทิศทางดังกล่าว และเม็ดเงินไหลกลับเข้า DOLLAR INDEXในช่วงสั้น
กลับมาที่บ้านเรา สหรัฐฯ ได้เลื่อนเก็บภาษีนำเข้า 36% ออกไป 90 วัน (คาดมีผลบังคับใช้ 9 ก.ค. 68) เหลือการจัดเก็บเพียง 10% เท่ากับหลายประเทศ น่าจะลดแรงกดดันต่อความกังวล FDI ลงได้บ้าง อย่างไรก็ตามในระยะถัดไปหากยักใหญ่ 2 ประเทศทั้งจีนและสหรัฐฯตกลงกันไม่ได้ และแต่ละประเทศเพิ่งพาตนเองมากขึ้น(ยุค DE-GLOBALIZATION)ซึ่งองค์ประกอบ GDP ของไทยปี 2024 มี NET EXPORT ราว 5%(มีโอกาสลดลงจนเหลือ 0%) และหนุนให้ไทยที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ ราว 3.5 หมื่นล้านเหรียญฯ มีโอกาสลดลงซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกรณี หากไทยไม่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯเลย จะกระทบกับ GDP ไทยอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวต้องใช้ทั้ง มาตรการการเงินและการคลัง ที่ผ่อนคลายเป็นตัวช่วยประคองเศรษฐกิจ
ขณะที่การรับมือวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงนี้คงต้องหวังเพิ่งนโยบายการเงินและการคลังเข้ามาช่วย ซึ่งล่าสุด รมต.คลังนัดผู้ว่าฯ ธปท. ถกรับมือนโยบายทรัมป์ 16-17 เม.ย.68 ซึ่งอาจมีการพิจารณาถึงมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน(MONETARY EASING) และการดูแลสภาพคล่องในตลาดอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
ตลาดฯ ยังคงกฏ UPTICK SHORT SELL หุ้นใน SET100
ช่วงที่ผ่านมา ตลาดฯ ออกมาตรการชั่วคราวลดความผันผวนได้ถูกจังกวะพอดี โดย SET ทำจุดต่ำสุดในเดือนนี้ที่ -8.8% ถือว่าลงไม่ลึก เมื่อเทียบกับหลายประเทศ สหรัฐ -15%, เวียดนาม -18% เป็นต้น
และ 16 เม.ย. 68 เป็นต้นไป ยังคงกฏ UPTICK ในหุ้นใน SET100 ถือเป็นการช่วยลดความผันผวนจากการ SHORTSELL ภายใต้สถานะการณ์ภายใน และภายนอกไม่นิ่ง
อีกทั้งหุ้นใน SET100INDEX ยังมี VALUATION ที่ถูกมาก มีหุ้นถึง 49 บริษัท PBV <1
กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ควรลงทุนหุ้นตัวใด ?
ตลาดการเงินสหรัฐฯ ผันผวนมาก ดอลลาร์อ่อน, ตลาดหุ้นลดลงเกิน -15% ตลาดตราสารหนี้ลดลงหนัก สะท้อนจาก BOND YIELD 10 ปีสหรัฐ พุ่งขึ้น 50 – 60 BPS. ในช่วงเวลาสั้น ซึ่ง 62% ของประชากรสหรัฐ ลงทุนในหุ้น และกองทุนสหรัฐมีสัดส่วนถือครองพันธบัตรรัฐบาลกว่า 10% ความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจทำให้ ACTION ของปธน.ทรัมป์ ต่อจากนี้เบาลงก็เป็นไปได้
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือเงินสดบางส่วน แนะนำเก็งกำไรสั้นๆ กับหุ้นได้กระแสจากการยกเว้นภาษีชั่วคราวจากสหรัฐฯ อาทิ CCET KCE HANA COM7JMART ส่วนหุ้น TOPPICK เลือก ADVANC, CPALL, ICHI
Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์