Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

253

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 11 เม.ย.68 ปิด -5.29 จุด อยู่ที่ 1,128.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,662 ลบ. ต่างชาติขาย 1,140 ลบ.    สถาบันขาย 652 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 90 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,883 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,328 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น CPALL,BDMS,VGI,TCAP,AWC และยอดขายหุ้น KBANK,GULF,PTTEP,KTB,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 29 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TAIWANAI13,NDX01,TDEX โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 1,243 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 52,157 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,607 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.38%, S&P500 -0.17%, Nasdaq -0.05% จากแรงขายหุ้น Boeing -2.4% หลังรัฐบาลจีนสั่งยกเลิกการรับมอขเครื่องบินล็อตใหม่ และ J&J -0.5% หลังยอดขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร เช่น Bank of America +3.6%, Citigroup +1.7% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.63% ได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์ +2.3% หลัง ปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาปรับลดภาษี 25% ที่เรียกเก็บกับเม็กซิโก, แคนาดา และประเทศอื่น ๆ  

Market View

  • ช่วงต้นสัปดาห์ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับขึ้นรับข่าว ปธน.ทรัมป์ยกเว้นการเก็บภาษีสินค้าบางรายการกับจีนเป็นการชั่วคราว เช่น สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ หลังได้ชะลอการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับประเทศต่าง ๆ ออกไป 90 วัน ระหว่างรอการหารือกับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ บ่งขี้แรงกดดันจากสงครามการค้าเริ่มลดลง แต่ดัชนีหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับฐานลง หลังรัฐบาลสหรัฐกำลังสอบสวนการนำเข้ายาและเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อดำเนินการปรับขึ้นภาษีกับสินค้าเหล่านี้ และหุ้น Nvidia ช่วงปิดตลาด -6.3% หลังถูก ม.จำกัดการส่งชิป H20 ไปจีน ส่งผลให้รายได้ปีนี้คาดหายไปราว $4 – 1.8 หมื่น ล. ส่วนค่ำวันนี้ติดตามถ้อยแถลง ปธ.เฟดในงาน Economic Club of Chicago เพื่อจับสัญญาณเศรษฐกิจ, ดอกเบี้ย และผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากร
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มยานยนต์ หลังมีประเด็นข่าว ปธน.ทรัมป์อาจพิจารณาปรับลดภาษี 25% ที่เรียกเก็บจากรถยนต์ & ชิ้นส่วนรถยนต์ที่นำเข้าจากเม็กซิโก, แคนาดา และประเทศอื่น ๆ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ ZEW รายงานความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมัน เม.ย. ลดลงอยู่ที่ -14.0 & มี.ค. 51.6 เป็นผลจากความไม่แน่นอนจาก ม.ภาษีของสหรัฐ ส่วนค่ำวันพรุ่งนี้ติดตามผลการประชุม ECB คาดจะปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% อยู่ที่ 2.5% โดยเทรดเดอร์คาด ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้ลงอีก 2 – 3 ครั้ง
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.15%, ฮั่งเส็ง +0.23% หลังสหรัฐยกเว้นการเก็บภาษียา & เซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าจากจีนเป็นการชั่วคราว แม้ว่าจะยังคง ม.เก็บภาษีศุลกากรสินค้าจีนที่ 145% ขณะที่ดัชนีนิเกอิ +0.84%,Kospi เกาหลีใต้ +0.88% รับประเด็นข่าว ปธน.ทรัมป์อาจพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ & ชิ้นส่วนกับรประเทศต่าง ๆ เพื่อปัญหาด้าน Supply Chain โดยเช้านี้ติดตาม GDP จีน Q1/68 คาด 5.2% & Q4/67 ที่ 5.4% YoY รวมถึงข้อมูลผลผลิตภาคอุต ฯ , ยอดค้าปลีก, อัตราว่างงานจีน มี.ค.    
  • SET +0.31% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 0 หมื่น ลบ. +39.8% WoW ต่างชาติขาย 2,248 ลบ. สถาบันขาย 4,362 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 1,182 ลบ. และรายย่อยซื้อ 5,428 ลบ. WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +18.5% WoW หลังสหรัฐยกเว้นการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน ยกเว้นจีน แต่ยังเก็บภาษีศุลากรพื้นฐานที่ 10% ช่วยลดปัญหา Supply Chain ขาดช่วง และมีเวลาให้ประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ เพื่อลดยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ กอปรในช่วงต้นสัปดาห์ ปธน.ทรัมป์ประกาศยกเว้นการเก็บภาษีบางรายการกับจีนเป็นการชั่วคราว เช่น สมาร์ทโฟท, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์อิเล็ก ฯ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้สหรัฐเริ่มทยอยลดแรงกดดัน ม.ด้านภาษีกับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ส่งผลให้ความผันผวนในตลาดหุ้น & พันธบัตรทั่วโลกปรับลดลง ในส่วนทางการไทยจะเริ่มเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐในวันจันทร์หน้า สำหรับประเด็นที่ตั้องติดตามสัปดาห์นี้ คือ การเริ่มรายงานกำไร Q1/68 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ( BB.Consensus) คาดทรงตัว -0.8% YoY แต่ +8.1% QoQ จากคาดการณ์ค่าใช้จ่าย & สำรอง ECL ปรับลดลง QoQ

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,110 – 1,120 แนวต้าน 1,140 – 1,150 คาดดัชนีทรงตัว ระหว่างรอการหารือข้อตกลงการค้าสหรัฐ – ไทยในสัปดาห์หน้า แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวในกลุ่ม Domestic Play & Defensive เช่น CPALL,BJC,HMPRO,ADVANC
  • HMPRO* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.90 บาท) ราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนจากการประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 7 พันล้านบาท สำหรับปี 68 ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายเติบโต 3-5% โดยมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ 2-3% มีแผนเปิดโฮมโปร 7 สาขาและเมก้าโฮม 5 สาขา ด้วยงบลงทุน 7-8 พันล้านบาท ส่วน GPM คาดว่าจะสูงขึ้นจากปีก่อนจากสัดส่วนสินค้าที่เป็น private brand เพิ่มขึ้น ทั้งนี้อิงจาก consensus ปี 68 ตลาดคาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 87 พันล้านบาท +6%YoY เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปท่ามกลางความท้าทายจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว แต่ราคาหุ้นอยู่ในโซนต่ำ ได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านและอาคารหลังเกิดแผ่นดินไหว
  • TACC* (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.00 บาท) เข้าสู่ฤดูร้อนเป็น High Season ของกลุ่มเครื่องดื่ม คาดว่าภาพรวมการดำเนินงานยังมีแรงหนุนต่อเนื่องจากธุรกิจ B2B จาก 7-11 ขณะที่สินค้าใหม่ๆยังมีต่อเนื่อง โดยล่าสุด 6 มีนาคม - 30 เมษายน 2568 ออกเครื่องดื่มใหม่ "น้ำผึ้งมะนาว" (Honey Lime) ด้าน TACC* เอง ปีนี้ ตั้งเป้าผลักดันรายได้ให้เติบโต Double Digit ทะลุ 2,000 ลบ. ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ TACC* จะอยู่ที่ระดับ 276 ลบ.(+11.61%YoY) และ 324 ลบ.(+39%YoY) ตามลำดับ

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI พ.ค. -$0.20 อยู่ที่ $61.33 / บาร์เรล, Brent มิ.ย. -$0.21 อยู่ที่ $64.67/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกปีนี้ลง 150,000 บาร์เรล/วัน อยู่ที่ 1.3 ล.บาร์เรล/วัน & เดิมคาดจะเพิ่มขึ้น 1.45 ล.บาร์เรล/วัน เป็นผลจากภาวะสงครามการค้า ขณะที่ API รายงานสต็อคน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 2.4 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold มิ.ย.+$14.10 อยู่ที่ $3,240.40 /ออนซ์ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ในช่วงที่ยังมีความไม่แน่นอนต่อนโยบายการค้าของสหรัฐ

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -143.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -147.03 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +3.63 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 33.42 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.333 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -19 จุด อยู่ที่ 1,263

(-) BitCoinเช้านี้ -1.69% อยู่ที่ 83,523 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

 

ต่างประเทศ

16 เม.ย.    CN ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ปีต่อปี) (ไตรมาส 1)

                EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มี.ค.)

                US ดัชนียอดขายปลีก (มี.ค.)

17 เม.ย.    EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (เม.ย.)

EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป 

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (เม.ย.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio April 2025: CPALL, SYNEX*, KLINIQ, DOHOME*, BDMS

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้