Today’s NEWS FEED

News Feed

สำนักKSS เปิด3สูตร กรณีEquity Risk Premium (ERP) บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นไทยได้เข้าสู่โซนความกลัวสูงสุด (Panic Zone) ได้เวลาทยอยเข้าสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง

714


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(9เมษายน 2568)-----------บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี จำกัด(มหาชน)KSS เปิดเผยว่า Tariff Shock: การปรับนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ในต้นปี2025 มีนัยสำคัญเป็นความเสี่ยงเชิงระบบ (Systemic Risk) ครั้งแรกหลังวิกฤต COVID-19

*Equity Risk Premium (ERP) บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นไทยได้เข้าสู่โซนความกลัวสูงสุด (Panic Zone) ถือเป็นการสร้างโอกาสเชิงกลยุทธ์ให้กับนักลงทุน ภายใต้สมมติฐาน เกี่ยวกับผลกระทบจาก Tariff Reciprocity และการตอบโต้ระหว่างประเทศ การทยอยเข้าสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและมี Earnings Visibility ชัดเจนอาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมในระยะยาว

จากกราฟ ERP (Earning Yield -10Y Bond Yield) พบว่า ณ วันที่ 8 เมษายน 2025 ระดับ ERP ของ SET Index อยู่ที่ 5.77% ซึ่งสูงกว่า +2SD หรือเทียบเท่ากับเหตุการณ์ Subprime (2008) ERP ราว 7.25% และ COVID-19 (ERP 6.25%) ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า :

1. ตลาดสะท้อนความเสี่ยงเชิงลบใกล้เต็มที่แล้ว
2. Upside Risk เริ่มมีมากกว่า Downside Risk หากปัจจัยลบเพิ่มเติมไม่รุนแรงกว่าคาดการณ์
3. ระดับความกลัวของนักลงทุนอาจมากกว่าความเสี่ยงที่แท้จริง(Panic Repricing)


Scenario: คาดการณ์ SET Index ภายใต้ระดับ EPS และ ERP ต่างๆ จะพบว่าระดับความเสี่ยงของ EPS ที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ความเสี่ยง จะสร้าง Impacts ต่อกรอบ Downside ของ SET จำกัดลง แตกต่างเพียง 40-50จุด ณ ระดับ EPS ที่แตกต่างกัน 8-5บาทต่อหุ้น

(Noted :สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปัจจุบัน 75เหรียญฯ(2025YTD 75.8เหรียญฯ)ทุกๆ 5เหรียญฯ ที่ต่ำกว่าคาด จะกดดัน EPS 3บาท)

** Strategy : Downside เชิงกลยุทธ์การลงทุนแบบมีแบบแผนได้ดังนี้

1. Base Case 50% – Tarriff Shock : SET เจอฐานในกรอบ 1060-1000จุด อิง ERP 5.77-6%, EPS ของตลาดอยู่ในกรอบ 88-82บาทต่อหุ้น
กลยุทธ์ Tactical Buy on Deep Fear เน้น Domestic Undervalue - Defensive Sectors COMM, ICT, UTILITIES, HEALTH, High Yield -Rate cut Play : CPALL, BJC, HMPRO, ADVANC, GULF, BDMS, MTC

2. Worse Case 35% – SET Back to ERP Level of Covid-19 : SET เจอฐานในกรอบ 970-930จุด อิง ERP 6-6.25%, EPSของตลาดอยู่ในกรอบ 82-80บาทต่อหุ้น
เพิ่มกลุ่มวัฏจักรอิงภายใน เช่นBANK, PROP, TOURISM ผสาน Export ที่ Hedge Shock ได้ เน้นKBANK, KTB, MINT, ERW, LH, AP, CPF, DELTA, WHA, AMATA

3. Worst Case 15% - SET Back to ERP Level of SUBPRIME-08 : SET เจอฐานในกรอบ 900-820จุด อิง ERP 7-7.25% , EPS ของตลาดอยู่ในกรอบ 78-75บาทต่อหุ้น

กรณีนี้ไม่ต้อง Panic แต่คือOpportunities จากการเร่ง Repricing ของความเสี่ยงเชิงระบบก่อนหน้า เน้นลงทุนระยะยาว การเพิ่มพอร์ต Long Term Fund ในประเทศสำคัญมาก เน้นสร้าง Core Position บน EPS Recovery Trend

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568

PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568

IND ส่งต่อพลังบุญ มอบรถกระบะให้วัดป่าลัน ใช้สืบสานงานศาสนา

IND ส่งต่อพลังบุญ มอบรถกระบะให้วัดป่าลัน ใช้สืบสานงานศาสนา

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้