Today’s NEWS FEED

News Feed

แนวทางการตรวจสอบรอยร้าวและการซ่อมแซมโครงสร้างที่ได้รับความเสียหายเบื้องต้น

444

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (31 มีนาคม 2568)-------หลังจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. เริ่มคลี่คลายลง พบว่าอาคารจำนวนมากได้รับความเสียหาย และต้องมีการประเมินด้านความปลอดภัยก่อนการเข้าใช้อาคาร ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยและอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยว่า ขณะนี้เจ้าของอาคารเริ่มตรวจสอบความเสียหายในอาคารของตนและเริ่มมีการซ่อมแซมแล้ว จึงจำเป็นต้องมีแนวทางตรวจสอบตามหลักวิศวกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นอาคารสูง โดยขอให้เน้นตรวจสอบรอยร้าวและการกะเทาะหลุดของคอนกรีตที่บริเวณเสาและผนังปล่องลิฟต์ของอาคาร เนื่องจากเป็นโครงสร้างหลักที่รับน้ำหนัก และมีจุดสังเกตว่ารอยร้าวและการกะเทาะหลุดของคอนกรีต จะเกิดขึ้นที่บริเวณโคนเสาด้านล่างและปลายเสาด้านบน โดยเฉพาะอาคารสูงให้ระวังรอยร้าวที่เสาชั้นล่างๆ และเสาที่บริเวณกึ่งกลางความสูง


ความเสียหายของรอยร้าวสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ
    ระดับที่ 1 – ไม่พบรอยร้าว
    ระดับที่ 2 – ตรวจพบรอยร้าวในเสาหรือผนังรับน้ำหนัก เห็นเป็นเส้น มีความหนาไม่มาก ไม่ถึง 0.4 มม. (บัตรเครดิตหรือบัตรประชาชนสอดไม่เข้า) รอยร้าวดังกล่าวยังไม่เป็นอันตราย สามารถเข้าใช้สอยอาคาร แต่ก็ควรซ่อมรอยร้าวโดยการฉีดวัสดุประสานรอยร้าว เช่น อีพอกซี เป็นต้น
    ระดับที่ 3 – ตรวจพบรอยร้าวขนาดใหญ่ในเสาหรือผนังรับน้ำหนัก เป็นเส้นหนาเกิน 0.6 มม. (บัตรเครดิตหรือบัตรประชาชนสอดเข้าไปได้) รอยร้าวดังกล่าวมีผลกระทบต่อโครงสร้าง ควรซ่อมแซมโดยการฉีดวัสดุประสาน หรือใช้เหล็กยึดเจาะเสียบเย็บรอยร้าว


สำหรับการกะเทาะหลุดของปูน สามารถจำแนกได้เป็น 4 ระดับ
ระดับที่ 1 – ไม่พบการการกะเทาะหลุดของปูน
ระดับที่ 2 – ผิวปูนฉาบหลุดออกมา หรือ ผิวคอนกรีตบางส่วนหลุดไม่เกิน 1-2 ซม. แต่ยังไม่เห็นเหล็กเสริม การกะเทาะดังกล่าวยังไม่กระทบต่อกำลังของโครงสร้าง สามารถใช้งานอาคารได้
ระดับที่ 3 – คอนกรีตหุ้มเหล็กกะเทาะออกมาทั้งหมด เห็นเหล็กเสริมด้านใน แต่เหล็กเสริมยังตรงอยู่ ควรรีบซ่อมแซมโดยด่วน ก่อนใช้งานอาคาร
ระดับที่ 4 – คอนกรีตกะเทาะถึงแกนเสาด้านใน เห็นเหล็กเสริมด้านใน บิด งอ ไม่ตรง เหล็กปลอกง้างออกหรือขาด เป็นความเสียหายที่รุนแรงที่สุด ไม่ควรเข้าใช้อาคาร แต่ควรซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงเสาเสียก่อน


ศ.ดร.อมร พิมานมาศ อธิบายเพิ่มเติมว่า ความเสียหายระดับที่ 4 มีผลกระทบต่อกำลังรับน้ำหนักของโครงสร้างแล้ว จึงควรรีบปรึกษาวิศวกรโครงสร้างมาให้คำแนะนำในการซ่อมแซมเสริมกำลัง อย่างไรก็ตามมีแนวทางเบื้องต้นในการเสริมความแข็งแรงเสาโดยใช้วิธีการที่เรียกว่า concrete jacketing ในวิธีการนี้ จะทำการเสริมเหล็กแกนเสาเพิ่มเติมโดยใช้วิธีเจาะเสียบเหล็กยึดกับเสาที่เสียหายด้วยกาวอีพอกซี ให้เหล็กเสริมเส้นใหม่ทาบกับเหล็กเส้นเดิมที่บิดงอไปแล้ว จากนั้นพันเหล็กปลอกรอบเหล็กแกนเสาใหม่ แล้วเทคอนกรีตหุ้มทั้งหมด จำนวนเหล็กที่ต้องเสริมเพิ่มควรปรึกษาวิศวกร


ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เน้นย้ำว่า ความเสียหายระดับที่ 4 เป็นระดับที่รุนแรงที่สุด การซ่อมแซม ไม่ใช่เพียงแค่เอาปูนไปแปะเท่านั้น แต่ควรต้องเสริมเหล็กใหม่ก่อนเทคอนกรีตด้วย ทั้งนี้ แนวทางที่แนะนำเป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้น อาคารแต่ละหลังอาจเกิดเสียหายที่มีรูปแบบเฉพาะ เสาที่เสียหายหนักอาจมีกระจายแรงไปลงที่เสาจุดอื่น จึงอาจต้องเสริมความแข็งแรงเสาเข้าเคียงเพิ่มเติมด้วย จึงควรแจ้งให้วิศวกรที่มีความรู้เข้าตรวจสอบและแนะนำวิธีแก้ไขที่เหมาะสมในแต่ละกรณีจะดีที่สุด  

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568

PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568

IND ส่งต่อพลังบุญ มอบรถกระบะให้วัดป่าลัน ใช้สืบสานงานศาสนา

IND ส่งต่อพลังบุญ มอบรถกระบะให้วัดป่าลัน ใช้สืบสานงานศาสนา

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้