สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(28 มีนาคม 2568)---- "นายวรวงศ์ เผย บรรยากาศหารือระหว่างผู้ส่งออกข้าวไทยกับผู้นำเข้าข้าวแอฟริกาใต้เป็นไปอย่างชื่นมื่น ผู้นำเข้าข้าวชาวแอฟริกาใต้ปลื้ม ตกลงซื้อขายข้าวไทยข้าวไทยมากกว่า 7,000 ล้านบาท"

นายวรวงศ์ รามางกูร  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ตนและนายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมหารือแนวทางการยกระดับการค้าข้าวร่วมกับบริษัทผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของแอฟริกาใต้ และยังเป็นประธานการเปิดงาน Thailand Ultimate Friendship ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญถึง 3 กิจกรรม ได้แก่ การลงนามความบันทึกข้อตกลง (MOU) ซื้อขายข้าวระหว่างบริษัทผู้ส่งออกข้าวไทยกับบริษัทผู้นำเข้าข้าวแอฟริกาใต้ การมอบรางวัล Thailand Ultimate Friendship ให้กับผู้นำเข้าข้าวไทยในแอฟริกาใต้ และการมอบเกียรติบัตร Thai SELECT นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย (ตราเขียว) เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้รู้จักวิธีเลือกซื้อข้าวหอมมะลิไทย และการจัดแสดงตัวอย่างและการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานข้าวไทยอีกด้วย

"การลงนาม MOU ซื้อขายข้าวในครั้งนี้สร้างความมั่นใจได้ว่า จะช่วยดึงปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกของไทยในตลาดประมาณ 1 ล้านตัน ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทยอยซื้อข้าวเพื่อเตรียมการส่งมอบ โดยคาดว่าจะส่งมอบระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ จากการประชุมหารือระหว่างผู้นำเข้าข้าวในแอฟริกาใต้กับผู้ส่งออกข้าวไทยยังช่วยตอกย้ำให้เชื่อมั่นได้ว่า ในปี 2568 ปริมาณการส่งออกข้าวไทยไปแอฟริกาใต้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการส่งออกข้าวไทยในภาพรวมเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ที่ปริมาณ 7.5 ล้านตัน สำหรับปริมาณการซื้อขายข้าวจากการลงนาม MOU ในครั้งนี้ มีการเจรจาขอให้ซื้อข้าวไทยเพิ่มอีก 9,000 ตัน ทำให้ปริมาณการซื้อขายรวมขยับเพิ่มขึ้นเป็น 400,000 ตัน สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,157.50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 204.50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ การทำ MOU ยังสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแอฟริกาใต้ยังคงมีความต้องการข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานข้าวไทย"

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าเมื่อปี 2567 สถานการณ์การค้าข้าวระหว่างประเทศมีความผันผวนส่งกระทบให้แอฟริกาใต้นำเข้าข้าวไทยลดลง แต่ผลจากการจัดงานในวันนี้ ตนมีความเชื่อมั่นว่า ข้าวไทยยังคงเป็นแหล่งนำเข้าข้าวอันดับ 1 ของแอฟริกาใต้ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพการเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวไทยรายใหญ่ของโลก และเป็นเวทีให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของโลกได้พบปะเจรจาธุรกิจการค้าข้าวระหว่างกัน กรมฯ มีกำหนดจะจัดงาน Thailand Rice Convention (TRC 2025) ระหว่างวันที่ 25 – 27 พฤษภาคม 2568 และยังมีแผนจะนำคณะผู้ส่งออกข้าวไทยเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าข้าวและจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และจีนในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2568 เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ และส่งเสริมการส่งออกข้าวไทยไปต่างประเทศด้วย