Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

374

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 26 มี.ค.68 ปิด +5.43 จุด อยู่ที่ 1,190.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 26,578 ลบ. รายย่อยซื้อ 474 ลบ.      พอร์ตโบรกขาย6 ลบ. สถาบันขาย 287 ลบ.และต่างชาติขาย 182 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 24 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น KBANK,KTB,CCET,HMPRO,AMATA และยอดขายหุ้น BDMS,BBL,BH,PTT,AOT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,186 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TAIWANAI13,BCP,NER โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 13,806 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 34,250 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 5,306 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.31%, S&P500 -1.12%, Nasdaq -2.04% ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี, บริการสื่อสาร หลัง ปธน.ทรัมป์ลงนามคำสั่งเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตนอกสหรัฐในอัตรา 25% จะเริ่มในวันที่ 2 เม.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.7% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี, บริการสุขภาพ ขณะที่กลุ่มพลังงานปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ โดยยังกังวลต่อ ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลัง ปธน.ทรัมป์ออกคำสั่งเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตนอกสหรัฐในอัตรา 25% ในวันที่ 2 เม.ย. ส่งผลให้หุ้นกลุ่มผลิตรถยนต์ปรับลดลง เช่น Tesla -5.6%. GM -3.1% และนักลงทุนกลับมากังวลต่อภาวะสงครามการค้า ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ ก.พาณิชย์สหรัฐเผยยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ก.พ. +0.9% ดีกว่าคาด -1.0% MoM และเฟดแอตแลนตาเผย GDPNow คาด US GDP Q1/68 มีโอกาสหดตัว -1.8% QoQ นี้วันพรุ่งนี้ติดตาม US PCE ก.พ. คาดทรงตัวที่ 2.5% YoY และ 0.3% MoM ซึ่งเป็นดัชนีที่เฟดใช้วัดเงินเฟ้อสหรัฐ
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี, บริการสุขภาพ โดยยังกังวลต่อ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐในวันที่ 2 เม.ย. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ CPI อังกฤษ ก.พ. ชะลอตัวอยู่ที่ 2.8% & ม.ค.3.0% YoY สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล PPI อังกฤษ ก.พ., GDP อังกฤษ Q4/67 และ CPI ฝรั่งเศส, สเปน มี.ค.  
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.04% รอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐ  กอปรบริษัทจีนกว่า 50 แห่ง ถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ เพื่อลดความสามารถของจีนในพัฒนาระบบเทคโนโลยี AI และควอนตัม ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ +0.65% ได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนอ่อนค่า ซึ่งเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออกของญี่ปุ่น ข้อมูลเศราฐกิจวันนี้ติดตามตัวเลขกำไรภาคอุต ฯ จีน ก.พ.
  • SET +0.46% ปริมาณการซื้อขาย 2.6 หมื่น ลบ. รายย่อยซื้อ 474 ลบ. สถาบันขาย 287 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 5 ลบ. และต่างชาติขาย 182 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +4.77% นำโดย DELTA +5.0% ส่งผลบวกต่อดัชนี +3.5 จุด ได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์ US Bond Yield มีแนวโน้มลดลง หลัง GDPNow คาด GDPสหรัฐ Q1/68 มีโอกาสหดตัว -1.8% QoQ ส่งผลให้เฟดอาจลดดอกเบี้ย 2 – 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่ม Growth ของสหรัฐ ขณะที่กลุ่มค้าปลีก +1.77% รับข่าว HMPRO ประกาศทำซื้อหุ้นคืนวงเงิน 7 พัน ลบ. จำนวนไม่เกิน 800 ล.หุ้น ส่วนปัจจัยการเมืองผลการลงมติไม่ไว้วางใจนายก ฯ ยังได้เสียงสนับสนุน 319 เสียง : ไม่ไว้วางใจ 162 เสียง ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีการปรับ ครม.หลังการอภิปรายหรือไม่ ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ คือ การประชุม ครม.ซึ่งคาดจะมีพิจารณา พรบ.สถานบันเทิงครบวงจร, ม.เที่ยวคนละครึ่ง และสัปดาห์หน้าวันที่ 2 เม.ย. ติดตามสหรัฐจะประกาศรายชื่อ 15 ประเทศที่จะเก็บภาษีศุลกากร ซึ่งข้อมูลจาก US Census Bureau ประเทศที่เข้าข่าย เช่น จีน,สหภาพยุโรป,เม็กซิโก,เวียดนาม,ไต้หวัน,ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้,แคนาดา,อินเดีย,ไทย,สวิตเซอร์แลนด์,มาเลเซีย,อินโดนีเซีย,กัมพูชา และแอฟริกาใต้  

 Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,170 – 1,180 แนวต้าน 1,200 คาดดัชนีมีโอกาสปรับฐาน จากความกังวลาภาวะสงครามการค้า หลังสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ 25% แนะนำทยอซื้อกลุ่มอาหาร CPF,TFG,BTG ปรับขึ้นตามราคาหมู, ไก่ และอุปสงค์จากตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น/ กลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC,BGRIM หลัง กกพ.ตรึงค่า FT งวด พ.ค. – ส.ค. ที่ 4.15 บาท/หน่วย/ เก็งกำไรระยะสั้น VGI, AIT มีสัญญาณบวกทางเทคนิค
  • AU* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 12.00 บาท) บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 68 เติบโต 20-30% หนุนจากยอดขายสาขาเดิม SSSG ที่เติบโตต่อเนื่องด้วยการเพิ่มสินค้าใหม่ แผนการขยายสาขาเพิ่มเป็น 98 สาขาภายในปีนี้ แบ่งเป็น After You 6 สาขา, ลูกก๊อ 5 สาขา รวมถึงการเพิ่มสินค้าในช่องทางร้านสะดวกซื้ออีกประมาณ 4-5 SKU ช่วงสั้น 1Q68 คาดแนวโน้มกำไรเติบโตได้ QoQ, YoY จากยอดขายสาขาเดิมที่ยังขยายตัว เมนูใหม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าต่างชาติ ทั้งนี้ตลาดประเมินกำไรสุทธิปี 68-69 ที่ 332 ล้านบาท +12%YoY และ 363 ล้านบาท +9%YoY
  • CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย00 บาท) กำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 4,173 ลบ.(+3,346%YoY, -42.91%QoQ,) โดย QoQ มีปัจจัยกดดันกำไรจาก รายการขาดทุนจากการด้อยค่าราว -2,467 ลบ.(ไก่จีน/สัตว์น้ำเวียดนาม) รายได้และ GPM มีแรงหนุนจากราคาสุกรในไทยและเวียดนามที่ประคองตัวในโซนทำกำไรต่อจาก 3Q67 และปรับตัวดีขึ้นชัดเจน YoY ประกอบกับต้นทุนอาหารสัตว์บกยังไม่สูง ส่งผลให้ GPM 4Q67 +646bsp YoY +29 bsp QoQ ด้านแนวโน้มกำไรช่วง 1Q68 เราคาดว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีหนุนด้วยราคาสุกร โดยเดือนก.พ.68 ราคาสุกรไทยอยู่ที่ 79.00 บาท/กก.(+16%YoY, +4%MoM) ขณะที่ต้นทุนเลี้ยงยังคงไม่สูง

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI พ.ค. +$0.65 อยู่ที่ $69.65 / บาร์เรล, Brent พ.ค. +$0.77 อยู่ที่ $73.79/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 3.3 ล.บาร์เรล & คาดจะลด 956,000 บาร์เรล โดยอุปทานน้ำมันมีโอกาสตึงตัว หลังสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่ 25% สำหรับประเทศที่ซื้อน้ำมัน & ก๊าซจากเวเนซูเอลา  

 

Gold Update(-) Comex Gold เม.ย.-$3.40 อยู่ที่ $3,022.50 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.35% อยู่ที่ 104.547 และ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.342%

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +132.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -5.36 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +155.35 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -17.34 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.97 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.337 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -8 จุด อยู่ที่ 1,634

(-) BitCoinเช้านี้ -0.57% อยู่ที่ 87,152 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

31 มี.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

24 มี.ค.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มี.ค.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มี.ค.) 

25 มี.ค.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (มี.ค.)

                US ยอดขายบ้านใหม่ (ก.พ.)

27 มี.ค.     US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 4)

                US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

27 มี.ค.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index (ก.พ.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio February 2025: CPALL, SYNEX*, KLINIQ, SHR*, TEGH*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้