Today’s NEWS FEED

News Feed

Merkle Capital เตือน!! ภาวะ Stagflation หลัง Fed คงดอกเบี้ย! นโยบายภาษี Trump ยังไม่แน่นอน

254

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(26 มีนาคม 2568)-----ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25-4.5% เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน แม้ว่าสัญญาณทางเศรษฐกิจแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวและความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ กับจีนจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม FED เลือกที่จะลดความสำคัญของความเสี่ยงเหล่านี้ โดยกล่าวว่าผลกระทบด้านเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีเป็นเพียงแค่"ชั่วคราว" (transitory) และไม่จำเป็นต้องดำเนินการตอบโต้ทันที โดยคำดังกล่าวนี้เคยเป็นแนวคิดที่ Fed เคยใช้ผิดพลาดในช่วงที่เงินเฟ้อพุ่งสูง ช่วงหลังโควิด-19 ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัย ในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ว่าเป็นการประเมินสถานการณ์ที่ต่ำเกินไป โดยไม่คำนึงถึงความเป็นไปได้ที่มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน หาก Fed สูญเสียการควบคุมด้านเงินเฟ้อสิ่งนี้อาจจะให้ การลดเงินเฟ้อในอนาคตอาจต้องใช้มาตรการที่หนักต่อเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน

 

แม้ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนบ่งชี้ว่าผู้บริโภคคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในระยะ 5-10 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 3.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี แต่อย่างไรก็ตามพาวเวลล์กลับมองว่าข้อมูลดังกล่าวเป็น "ค่าผิดปกติ" (outlier) และไม่ใช่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญมากเกินไป นอกจากนี้ เขายังแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และตัวชี้วัดที่เป็นข้อมูลจริง ยังคงแสดงถึงความมั่นคงของตลาดแรงงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Fed ยังไม่จำเป็นต้องรีบลดดอกเบี้ยในขณะนี้

 

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้แพลตฟอร์ม Truth Social กดดันให้ Fed ลดอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่ามาตรการภาษีของสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และเป็นเวลาที่ Fed ควร "ทำในสิ่งที่ถูกต้องพร้อมทั้งกล่าวว่า วันที่ เมษายน คือวันปลดปล่อยของอเมริกา การที่ Fed ยังคงดอกเบี้ยในระดับสูงและสร้างแรงกดดันต่อภาคธุรกิจและผู้บริโภค ทำให้ความเชื่อมั่นลดลง ทว่าพาวเวลล์ยังคงรักษาจุดยืนว่าการลดดอกเบี้ยต้องเกิดขึ้นในจังหวะที่เหมาะสมเท่านั้น

 

หลังจากคำแถลงของ FED ช่วยให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง และดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดคือหาก Fed คาดการณ์ผิดพลาดเหมือนในอดีต เงินเฟ้ออาจไม่ใช่เพียงแค่ชั่วคราว และอาจต้องใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นเพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะยาว

 

 

ทั้งนี้มุมมองของนักวิเคราะห์ Merkle Capital เชื่อว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยเฉพาะจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ขณะที่ FED ยังไม่มีท่าทีชัดเจนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง สถานการณ์ดังกล่าวกำลังสร้างความเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อ (Stagflation) ซึ่งเป็นภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อยังคงสูงอยู่ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ Fed ยังคงระมัดระวังและเลือกใช้นโยบายแบบรอดูท่าที โดยให้น้ำหนักกับการควบคุมเงินเฟ้อมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น 

 

ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างแรงกดดันและความไม่แน่นอนให้กับตลาด คือทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องนโยบายภาษีที่ยังไม่มีความชัดเจน มองว่าผลกระทบจากนโยบายภาษีจะเริ่มชัดเจนมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ ของปี เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในขณะนี้ยังไม่ได้สะท้อนอย่างเต็มที่ ซึ่งหากนโยบายภาษีมีแนวโน้มไม่เอื้อต่อการเติบโต หรือสร้างภาระให้กับภาคธุรกิจภายในประเทศก็อาจกดดันสินทรัพย์เสี่ยงให้ปรับตัวลงในระยะสั้น 

 

อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และ Fed มีสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นว่าจะปรับลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี นั่นอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลเชิงบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งตอบสนองต่อสภาพคล่องได้อย่างรวดเร็ว"

 

by Merkle Investment consultant 

Source: Bloomberg, as of March 21, 2025

หมายเหตุ คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

 

**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ควรวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้