Company Note
Prima Marine
แนวโน้มยังดี คาดกำไรปกติ 1Q25F ดีขึ้น QoQ และจะดีขึ้นทุกไตรมาสในปีนี้
ข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ยังเป็นบวก แต่ดีน้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเรือ FSU ใหม่คาดจะเริ่มให้บริการได้ในเดือนพ.ค. จากเดิมคาด 30 ม.ค. นอกจากนั้นบริษัทยังได้ขายเรือ FSU ไป 1 ลำในเดือนมี.ค. ทำให้ในเดือนมี.ค.เหลือเรือ FSU ให้บริการ 4 ลำจากเดิมคาด 6 ลำ แต่บริษัทจะมีกำไรพิเศษจากการขายเรือใน 1Q25F โดยเราประเมินรายได้จากการขายเรือ 550-600 ลบ.และกำไรก่อนภาษีอยู่ในช่วง 120-140 ลบ. ส่วนเงินที่ได้จะนำไปใช้ในการลงทุนในปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ 3-4.5 พันลบ. (เทียบกับ 4.5 พันลบ.ในปี 2024) โดยยังคงตั้งเป้าเพิ่มกองเรือเคมีและกลุ่มธุรกิจ OSV สำหรับแนวโน้มกำไร เราคาดกำไรปกติใน 1Q25F จะดีขึ้น QoQ และจะเร่งตัวดีขึ้นทุกๆไตรมาสในปีนี้ ซึ่งจะทำให้กำไรของบริษัทเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อในปีนี้ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ PRM เนื่องจากแนวโน้มยังดี ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER ปี 2025F ที่ 6.6x แต่ Dividend yield สูงที่ 8.8% นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนซื้อหุ้นคืนรอบใหม่จำนวน 75 ล้านหุ้นในวงเงินไม่เกิน 600 ลบ. ในช่วงวันที่ 3 มี.ค.-3 ก.ย. ซึ่งน่าจะช่วยพยุงราคาหุ้นได้
คาดกำไรปกติ 1Q25F เพิ่ม QoQ จากเรือใหม่ แต่ลด YoY เพราะเรือใหม่เพิ่งมาและขาย FSU
ใน 1Q25 มีเรือเข้าใหม่มาแล้ว 3 ลำคือ เรือ Crew Boat ใหม่ 2 ลำให้บริการกับลูกค้า ADNOC (เริ่ม 6 ม.ค.) และเรือ FSO (ที่ดัดแปลงจากเรือ Aframax) กลับเข้าให้บริการ 26 ก.พ. ส่วนเรือ Crew Boat ใหม่อีก 1 ลำ (จะเริ่มทดลองวิ่งในวันที่ 22 มี.ค.) ดังนั้นเรือลำนี้จะเริ่มสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญใน 2Q25F ดังนั้นเราคาดกำไรปกติ 1Q25F จะดีขึ้น QoQ แต่ลด YoY เนื่องจากบริษัทขายเรือ FSU ไป 1 ลำในเดือนมี.ค. ประกอบกับปีที่แล้วมีเรือ Aframax ให้บริการเต็มไตรมาส แต่เรือลำนี้ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงเป็นเรือ FSO เพิ่งกลับมาให้บริการปลายเดือนก.พ. และเรือ Aframax ได้อัตราค่าบริการสูงกว่าเนื่องจากเป็นสัญญา Time Charter รวมค่าลูกเรือ ในขณะที่เรือ FSO เป็นสัญญาเรือเปล่า Bareboat อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิ 1Q25F จะถูกเสริมจากกำไรพิเศษจากการขายเรือที่เราประเมินไว้ที่ 120-140 ลบ.ดังที่กล่าวข้างต้น
คาดกำไรดีขึ้นในทุกไตรมาส ผลักดันกำไรสู่สถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้
แนวโน้มกำไร 2Q25F น่าจะดีขึ้น QoQ เนื่องจากเรือ Crew Boat ลำใหม่ 3 ลำและเรือ FSO ให้บริการเต็มไตรมาส และเรือ FSU ลำใหม่ที่เพิ่งซื้อมาปลายปีจะเริ่มให้บริการได้ในเดือนพ.ค. และในปีนี้แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากเรือใหม่ทุกลำให้บริการเต็มที่ ประกอบกับมีกำหนดการนำเรือเข้าอู่น้อยกว่าในช่วงครึ่งปีแรก โดยรวมเรายังคงคาดว่ากำไรปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้วเนื่องจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นและมีกำหนดการนำเรือเข้าอู่น้อยกว่าปีที่แล้ว
คงคำแนะนำ “ซื้อ”โดยมีมูลค่าเหมาะสมที่ 10 บาท
เราคงประมาณการกำไรของเรา ส่งผลให้มูลค่าที่เหมาะสมซึ่งคิดจาก 2025F PER ที่ 9 เท่า (คิดจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของหุ้น) ยังคงอยู่ที่ 10 บาท ซึ่งยังมี Upside จากราคาในปัจจุบันถึง 47% รวมถึงแนวโน้มกำไรที่ยังเติบโตดี เราจึงยังคงแนะนำ ซื้อ ปัจจัยเสี่ยงมาจากความผันผวนราคาพลังงานที่จะส่งผลต่อดีมานด์การใช้เรือและต้นทุน