24 มี.ค. 2568 10:56:42 206
สรุปภาพรวมและการวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย (SET) รายวัน ด้วยโปรแกรม Advanced GET ตามแนวทาง Elliott Wave อย่างละเอียด อ้างอิงข้อมูล 21/03/25 มีประเด็นสำคัญดังนี้:________________________________________ สรุปสถานการณ์ตลาด (ภาพรวมใหญ่):• ตลาดหุ้นไทยอยู่ในแนวโน้มขาลงใหญ่ (Major Downtrend)โดยดัชนี SET เริ่มปรับฐานจากจุดสูงสุดที่ 1506.82 จุด ลงมาสู่จุดต่ำสุดล่าสุดที่ระดับ 1157.96 จุด• ภาพใหญ่ปรากฏการลงแบบ Impulse Wave ครบ 5 คลื่น (Wave 1-5 ขาลงชัดเจน)o รวมระยะที่ลดลง: 348.86 จุดo ใช้เวลาปรับฐานขาลงรอบนี้ประมาณ 98 วันทำการ (ประมาณ 5 เดือน)________________________________________ สถานการณ์ล่าสุด (ระยะสั้น):• หลังจากแตะจุดต่ำสุดที่ 1157.96 จุด ดัชนีมีการปรับตัวขึ้นสั้นๆ (Corrective Wave หรือ Rebound Wave) ไปแตะระดับ 1273.17 จุด ซึ่งการฟื้นตัวนี้ใช้เวลาประมาณ 52 วันทำการ (ราว 2.5 เดือน)• ราคาปิดล่าสุด ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 1186.61 จุดถือว่ายังอยู่ในโซนล่างของการเคลื่ระยะสั้นนี้ และใกล้แนวรับสำคัญเดิม________________________________________ กรอบวิเคราะห์และแนวต้าน-แนวรับสำคัญ (Fibonacci):เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ล่าสุด และราคาปัจจุบัน 1186.61 จุด จะตีกรอบวิเคราะห์ระยะสั้น โดยให้ความสำคัญกับแนว Fibonacci Extension 127.2% ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1210 จุด แนวรับสำคัญ:• 1157-1160 จุด (จุดต่ำสุดเดิม Wave 5)หากดัชนียังไม่หลุดต่ำกว่าระดับนี้ ถือว่ายังคงมีโอกาสฟื้นตัวได้อีกครั้ง แนวต้านสำคัญ:• 1210 จุด (Fibonacci 127.2%)เป็นด่านแรกที่ SET ต้องผ่านให้ได้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น• หากผ่านได้จะมีเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 1230-1250 จุด (โซน Fibonacci 138.2%-161.8%) ซึ่งจะถือเป็นเป้าหมายระยะสั้นที่สำคัญถัดไป________________________________________ สัญญาณสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง: กรณีขาขึ้น (Bullish Case):• หากดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1210 จุด ได้ จะเกิดสัญญาณการกลับตัวขึ้นระยะสั้นอย่างมีนัยสำคัญ• เป้าหมายต่อไปคือบริเวณ 1230-1250 จุด• นักลงทุนสามารถวางกลยุทธ์เทรดฝั่งซื้อ (Long) ระยะสั้น เมื่อดัชนีทะลุผ่าน 1210 จุด และมี Stop Loss ต่ำกว่า 1180 หรือ 1160 จุด (ตามความเสี่ยงที่รับได้) กรณีขาลง (Bearish Case):• หากดัชนีปรับขึ้นแต่ไม่ผ่าน 1210 จุด หรือไม่สามารถยืนเหนือได้ และกลับมาหลุดต่ำกว่าแนวรับ 1157 จุด อีกครั้ง• ถือเป็นสัญญาณเชิงลบชัดเจน โดยอาจเกิดขาลงรอบใหม่ ซึ่งอาจจะลงไปต่ำกว่า 1157 จุดได้อีก นักลงทุนควรระวังการถือหุ้นและบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด________________________________________ ข้อแนะนำเพิ่มเติม (เพื่อการลงทุนที่ปลอดภัย):• ติดตามการทดสอบแนวต้านสำคัญ 1210 จุด อย่างใกล้ชิด• หากยังไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว ควรรอจังหวะที่ชัดเจนก่อนการลงทุน• ใช้ Indicator อื่นๆ ประกอบ (เช่น MACD, RSI, Oscillator) ร่วมกับ Elliott Wave เพื่อยืนยันแนวโน้ม________________________________________ บทสรุปสำคัญที่ต้องจับตาในตอนนี้:• ราคาปัจจุบัน (1186.61) อยู่ใกล้โซนสำคัญคือ 1210 จุด• แนวรับสุดท้ายที่ต้องไม่หลุด: 1157-1160 จุด• ตลาดจะพลิกกลับเป็นขาขึ้นระยะสั้นเมื่อทะลุผ่าน 1210 จุด• หากไม่ผ่าน 1210 จุดและหลุด 1157 จุดอีกครั้ง ต้องระวังการปรับตัวลงรอบใหม่อย่างจริงจัง________________________________________การวิเคราะห์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนในระยะสั้นและกลางครับ________________________________________Elliott Wave (คลื่นเอลเลียต) คือ ทฤษฎีที่ใช้อธิบายพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์ เช่น หุ้น ทองคำ ค่าเงิน หรือคริปโต โดยเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของราคามีลักษณะเป็นรอบคลื่นที่ชัดเจน สามารถนำไปใช้วิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคตได้ทฤษฎีนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย Ralph Nelson Elliott ในช่วงปี 1930 โดยมีหลักการสำคัญดังนี้________________________________________ หลักการเบื้องต้นของ Elliott Waveตามทฤษฎีนี้ราคาจะเคลื่อนไหวเป็น "คลื่น" (Wave) ซึ่งมีทั้งหมด 2 รูปแบบ คือ:1. Impulse Wave (คลื่นส่ง, คลื่นขาขึ้น/ลงตามแนวโน้มหลัก)จะมีทั้งหมด 5 คลื่น ประกอบด้วยo คลื่นที่ 1 (ขึ้น)o คลื่นที่ 2 (พักฐานเล็กน้อย)o คลื่นที่ 3 (ขึ้นแรงที่สุดและชัดเจนที่สุด)o คลื่นที่ 4 (พักฐานอีกครั้ง)o คลื่นที่ 5 (ขึ้นอีกครั้ง แต่แรงน้อยกว่าคลื่น 3)2. Corrective Wave (คลื่นปรับฐาน)หลังจากจบ Impulse Wave แล้ว ราคาจะมีการปรับฐานเป็น Corrective Wave จำนวน 3 คลื่น คือo คลื่น A (ลง)o คลื่น B (ขึ้นกลับมาเล็กน้อย)o คลื่น C (ลงอีกครั้ง ชัดเจนกว่าคลื่น A)สรุปรูปแบบมาตรฐานจะเป็น:• ขาขึ้น : 5 คลื่น (1-2-3-4-5)• ขาลง : 3 คลื่น (A-B-C)________________________________________ กฎพื้นฐานของ Elliott Waveในการวิเคราะห์คลื่น Elliott มีข้อกำหนดที่ต้องจำให้ขึ้นใจ คือ:• คลื่นที่ 2 ต้องไม่ลงต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่นที่ 1• คลื่นที่ 3 ต้องไม่ใช่คลื่นที่สั้นที่สุดในบรรดา 1,3,5 (โดยทั่วไปจะยาวที่สุด)• คลื่นที่ 4 ต้องไม่ย้อนกลับไปทับซ้อนกับคลื่นที่ 1________________________________________ ความสำคัญและการนำไปใช้งานElliott Wave ถูกนำไปใช้วิเคราะห์แนวโน้มตลาดได้หลายแบบ ได้แก่• การระบุแนวโน้ม ว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง• การคาดการณ์จุดกลับตัวของราคา เพื่อหาโอกาสในการเข้าซื้อหรือขาย• ช่วยวางแผนกลยุทธ์การเทรดและการบริหารความเสี่ยง ได้แม่นยำยิ่งขึ้น________________________________________ ข้อควรระวังในการใช้งานแม้ Elliott Wave จะเป็นเครื่องมือที่ดี แต่ในทางปฏิบัติก็มีความซับซ้อนและอาจมีการตีความที่หลากหลาย ดังนั้น ควรนำไปใช้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ เช่น Fibonacci, RSI หรือ Trend Line เป็นต้น________________________________________สรุปง่ายๆ: Elliott Wave คือการวิเคราะห์ตลาดผ่านการนับ "คลื่น" เพื่อให้รู้แนวโน้มและจังหวะเข้าออกที่เหมาะสม เป็นทฤษฎีที่มีประโยชน์แต่ต้องใช้ความเข้าใจและประสบการณ์ในการนำไปใช้จริง
เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ หุ้นใหญ่ หน้าเดิม ดันSET ฝ่า 1,200 จุด ต่อ การสลับหน้าที่กันไป ห้วงระหว่างอยู่ ผลการ....
NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68
Hooninside
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้
ชื่อหรือรหัสของคุณไม่ถูกต้อง
Please, check your email format before submit.
Please, Enter you password.
Please, Enter minimum 3 character.
Please, Enter minimum 6 character.
กรุณากรอกอีเมล์ที่คุณใช้สมัครสมาชิกแล้วกดส่งเมล์