Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) : Tourism Sector เลือก CENTEL เป็น Top Pick

366

 

---คาดปี 68 ท่องเที่ยวโต แต่ยังมีความท้าทาย---
หมดยุค “จีนเที่ยวไทย” จริงหรือไม่


 สถานการณ์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ TAT รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยสะสมระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-9 มี.ค 68 อยู่ที่ 7.66 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรก คือ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย สร้างรายได้เข้าประเทศไปแล้ว 375,035 ล้านบาท จากตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทย จะเห็นว่าจีนเป็นอันดับ 1 แต่หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่เดือน ม.ค.67-ก.พ.68 จะเห็นว่านักท่องเที่ยวจีนหดตัวลง ทางฝ่ายคาดในปี 68 นักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มเข้ามาเที่ยวไทยน้อยลง เนื่องจาก 1)ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยน้อยลง จากข้อมูลของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า กล่าวว่าคนจีนบางส่วนยังมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางมาเที่ยวไทย ซึ่งอาจเกิดจากข่าวอาชญากรรม การฉ้อโกงนักท่องเที่ยว หรือความไม่มั่นใจในระบบกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายในประเทศ 2) แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน เหตุจาก 1) อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ โดยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) จีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ ในเดือน ก.พ. ลดลง 0.7% y-y โดยเป็นการหดตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 68 ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ฉบับล่าสุด ทางฝ่ายมองว่าบ่งชี้ถึงความเสี่ยงด้านเงินฝืดที่ยังคงกดดันเศรษฐกิจจีน หากแยกองค์ประกอบอัตราเงินเฟ้อของจีน ด้านบริการลดลง 0.4% y-y การบริโภคสินค้าลดลง 0.9% y-y และด้านอาหารลดลง 3.3% y-y จากตัวเลขดังกล่าวจะเห็นว่าหดตัวลงในทุกด้าน สะท้อนว่าในปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายและมีแนวโน้มการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศน้อยลง3) ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ อาจทำให้เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ส่งผลให้คนจีนลดงบประมาณการท่องเที่ยวต่างประเทศ 4) นโยบายของรัฐบาลจีนที่ต้องการกระตุ้นให้ประชาชนท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น ทำให้การเดินทางออกนอกประเทศลดลง 5) การแข่งขันจากประเทศอื่น เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม และจีน โดยเห็นได้จากนักท่องเที่ยวจีนที่ก่อนหน้านี้เคยเดินทางมาไทย อาจเลือกประเทศอื่นที่ให้ประสบการณ์ใหม่ๆ แทน 6) ไทยขาดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว ปัจจัยพื้นฐาน เช่น ห้องน้ำสะอาด ระบบขนส่งที่สะดวก ยังคงเป็นจุดที่ต้องปรับปรุง และ 7) พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไป ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการเดินทางแบบพรีเมียมและประสบการณ์ที่มีคุณภาพมากขึ้น มากกว่าการมาท่องเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์ราคาถูก ซึ่งไทยอาจยังไม่ได้ตอบโจทย์กลุ่มนี้ได้ดีพอ

 

 

  ทางฝ่ายคาดในปี 68 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสดใสมากกว่าปี 67 หนุนจาก 1) โครงการฟรีวีซ่า 2) การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) 3) การขยายตัวของธุรกิจ MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) รับแรงหนุนจากการที่บริษัทต่างชาติกลับมาจัดงานสัมมนาและอีเวนต์ในประเทศไทยมากขึ้น 4) โครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” ของ TAT ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วง 2Q68 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นระหว่างเดือน พ.ค. -ก.ย. 68 โดยมีรูปแบบคล้ายโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” แต่ภาครัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็น 50% และนักท่องเที่ยวจ่ายเองอีก 50% ทั้งนี้ TAT แจ้งงบประมาณราว 3,500 ล้านบาท ซึ่งในระยะแรกจะเปิดให้จอง 1 ล้านสิทธิ์ เพื่อใช้ประโยชน์ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ในการจ่ายค่าโรงแรมที่พักและร้านอาหาร ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าสามารถใช้สิทธิ์จองตั๋วเครื่องบินได้หรือไม่ และอาจมีการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางร่วมกับบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) เพื่อรองรับการจองสินค้าและบริการท่องเที่ยว รวมถึงการจองห้องพักโดยตรงจากโรงแรม คาดว่าโครงการจะเริ่มใช้งานได้ปลาย 2Q68 ถึง 3Q68 อย่างไรก็ตามทางฝ่ายมองว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังคงมีปัจจัยกังวลจากแนวโน้มการแข่งขันในตลาดท่องเที่ยวรุนแรงขึ้นตามความต้องการขายห้องพักของผู้ประกอบการมีเพิ่มขึ้น รวมถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ตลอดจนประเด็นความไม่ปลอดภัยเรื่องการเที่ยวในไทย ทางฝ่ายคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยในปี 68 อยู่ที่ราว 37 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่ Cover จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี ก่อนการระบาดของไวรัส COVID-19

 


  ทางฝ่ายแนะนำ CENTELเป็น Top Pick ของกลุ่ม ราคาพื้นฐานปี 68 ที่ 37.75 บาท หนุนจากการมีสัดส่วนรายได้จากประเทศไทยราว 80% ของรายได้ธุรกิจโรงแรม จากสัดส่วนดังกล่าวทางฝ่ายมองว่า CENTEL มีแนวโน้มรับประโยชน์จากโครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” ของ TAT ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วง 2Q68 รวมถึงปัจจัยบวกจากการเปิดโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์เพิ่มเติม และแนวโน้มการเร่งตัวขึ้นของอัตราการเข้าพัก (OCC) และรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ในปีนี้ หนุนจากงาน World Expo (เดือนเม.ย.- ต.ค.68) สำหรับรายได้จากธุรกิจร้านอาหาร ทางฝ่ายคาดเร่งตัวขึ้น y-y หนุนจากการขยายสาขาของแบรนด์หลักและการขยายแบรนด์ใหม่

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้