Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) : Tourism Sector เลือก CENTEL เป็น Top Pick

699

 

---คาดปี 68 ท่องเที่ยวโต แต่ยังมีความท้าทาย---
หมดยุค “จีนเที่ยวไทย” จริงหรือไม่


 สถานการณ์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ TAT รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยสะสมระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-9 มี.ค 68 อยู่ที่ 7.66 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรก คือ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย สร้างรายได้เข้าประเทศไปแล้ว 375,035 ล้านบาท จากตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทย จะเห็นว่าจีนเป็นอันดับ 1 แต่หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่เดือน ม.ค.67-ก.พ.68 จะเห็นว่านักท่องเที่ยวจีนหดตัวลง ทางฝ่ายคาดในปี 68 นักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มเข้ามาเที่ยวไทยน้อยลง เนื่องจาก 1)ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยน้อยลง จากข้อมูลของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า กล่าวว่าคนจีนบางส่วนยังมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางมาเที่ยวไทย ซึ่งอาจเกิดจากข่าวอาชญากรรม การฉ้อโกงนักท่องเที่ยว หรือความไม่มั่นใจในระบบกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายในประเทศ 2) แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน เหตุจาก 1) อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ โดยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) จีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ ในเดือน ก.พ. ลดลง 0.7% y-y โดยเป็นการหดตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 68 ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ฉบับล่าสุด ทางฝ่ายมองว่าบ่งชี้ถึงความเสี่ยงด้านเงินฝืดที่ยังคงกดดันเศรษฐกิจจีน หากแยกองค์ประกอบอัตราเงินเฟ้อของจีน ด้านบริการลดลง 0.4% y-y การบริโภคสินค้าลดลง 0.9% y-y และด้านอาหารลดลง 3.3% y-y จากตัวเลขดังกล่าวจะเห็นว่าหดตัวลงในทุกด้าน สะท้อนว่าในปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายและมีแนวโน้มการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศน้อยลง3) ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ อาจทำให้เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ส่งผลให้คนจีนลดงบประมาณการท่องเที่ยวต่างประเทศ 4) นโยบายของรัฐบาลจีนที่ต้องการกระตุ้นให้ประชาชนท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น ทำให้การเดินทางออกนอกประเทศลดลง 5) การแข่งขันจากประเทศอื่น เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม และจีน โดยเห็นได้จากนักท่องเที่ยวจีนที่ก่อนหน้านี้เคยเดินทางมาไทย อาจเลือกประเทศอื่นที่ให้ประสบการณ์ใหม่ๆ แทน 6) ไทยขาดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว ปัจจัยพื้นฐาน เช่น ห้องน้ำสะอาด ระบบขนส่งที่สะดวก ยังคงเป็นจุดที่ต้องปรับปรุง และ 7) พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไป ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการเดินทางแบบพรีเมียมและประสบการณ์ที่มีคุณภาพมากขึ้น มากกว่าการมาท่องเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์ราคาถูก ซึ่งไทยอาจยังไม่ได้ตอบโจทย์กลุ่มนี้ได้ดีพอ

 

 

  ทางฝ่ายคาดในปี 68 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสดใสมากกว่าปี 67 หนุนจาก 1) โครงการฟรีวีซ่า 2) การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) 3) การขยายตัวของธุรกิจ MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) รับแรงหนุนจากการที่บริษัทต่างชาติกลับมาจัดงานสัมมนาและอีเวนต์ในประเทศไทยมากขึ้น 4) โครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” ของ TAT ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วง 2Q68 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นระหว่างเดือน พ.ค. -ก.ย. 68 โดยมีรูปแบบคล้ายโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” แต่ภาครัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็น 50% และนักท่องเที่ยวจ่ายเองอีก 50% ทั้งนี้ TAT แจ้งงบประมาณราว 3,500 ล้านบาท ซึ่งในระยะแรกจะเปิดให้จอง 1 ล้านสิทธิ์ เพื่อใช้ประโยชน์ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ในการจ่ายค่าโรงแรมที่พักและร้านอาหาร ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าสามารถใช้สิทธิ์จองตั๋วเครื่องบินได้หรือไม่ และอาจมีการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางร่วมกับบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) เพื่อรองรับการจองสินค้าและบริการท่องเที่ยว รวมถึงการจองห้องพักโดยตรงจากโรงแรม คาดว่าโครงการจะเริ่มใช้งานได้ปลาย 2Q68 ถึง 3Q68 อย่างไรก็ตามทางฝ่ายมองว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังคงมีปัจจัยกังวลจากแนวโน้มการแข่งขันในตลาดท่องเที่ยวรุนแรงขึ้นตามความต้องการขายห้องพักของผู้ประกอบการมีเพิ่มขึ้น รวมถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ตลอดจนประเด็นความไม่ปลอดภัยเรื่องการเที่ยวในไทย ทางฝ่ายคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยในปี 68 อยู่ที่ราว 37 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่ Cover จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี ก่อนการระบาดของไวรัส COVID-19

 


  ทางฝ่ายแนะนำ CENTELเป็น Top Pick ของกลุ่ม ราคาพื้นฐานปี 68 ที่ 37.75 บาท หนุนจากการมีสัดส่วนรายได้จากประเทศไทยราว 80% ของรายได้ธุรกิจโรงแรม จากสัดส่วนดังกล่าวทางฝ่ายมองว่า CENTEL มีแนวโน้มรับประโยชน์จากโครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” ของ TAT ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วง 2Q68 รวมถึงปัจจัยบวกจากการเปิดโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์เพิ่มเติม และแนวโน้มการเร่งตัวขึ้นของอัตราการเข้าพัก (OCC) และรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ในปีนี้ หนุนจากงาน World Expo (เดือนเม.ย.- ต.ค.68) สำหรับรายได้จากธุรกิจร้านอาหาร ทางฝ่ายคาดเร่งตัวขึ้น y-y หนุนจากการขยายสาขาของแบรนด์หลักและการขยายแบรนด์ใหม่

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568

PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568

IND ส่งต่อพลังบุญ มอบรถกระบะให้วัดป่าลัน ใช้สืบสานงานศาสนา

IND ส่งต่อพลังบุญ มอบรถกระบะให้วัดป่าลัน ใช้สืบสานงานศาสนา

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้