Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

617

 

 

 

หุ้น ESG ดันตลาดฯ ลุ้นเก็บพร้อมกองทุน
TOP PICK : BDMS / SPALI / CCET

 

EXTERNAL FACTOR
.   • ศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกพากัน REBOUND โดยในฝั่งสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นราว 1.7% - 2.6% ส่วนฝั่งยุโรปปรับตัวขึ้นราว 1.1% - 1.9% หลังร่วงลงแรงหลายวันติดต่อกัน จากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ
.   • สำหรับปัจจัยหนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น มาจาก 2 ประเด็นหลักๆ ได้แก่การหลีกเลี่ยง GOVERNMENT SHUTDOWN ในสหรัฐฯ และความคาดหวังเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว จากมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม

 

INTERNAL FACTOR
.  • จากกรณีที่ไทยส่งชาวอุยกูร์ 40 คน กลับจีนเมื่อปลายเดือน ก.พ. 68 ทำไทยถูกประณามจากทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ขณะที่ความเสี่ยงที่ต้องจับตา อาจเพิ่มแรงกดดันต่อภาคการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
.   • รมว.คลัง เตรียมร่วมวงประชุม สมาคมธนาคารฯ 18 มี.ค. หารือปล่อยสินเชื่อ-ลดดอกเบี้ย-LTV ถือเป็น SENTIMENT ที่ดีต่อกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย และคาดเห็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น แนะนำ AP SPALI

 

INVESTMENT STRATEGY
.   • ระดับหนี้สาธารณะ และหนี้ครัวเรือน/GDP ของไทยอยู่ระดับสูง บวกกับ ความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนต่อธรรมมาภิบาลต่อบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการใช้ PROGRAM TRADING ในปัจจุบันที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ดัชนี SET ผันผวน และปรับตัวลงแรงถึง 16.2%YTD ซึ่งสวนทางกับประเทศเพื่อนบ้านเราที่ YTD >0
.   • กลยุทธ์เน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่มี ESG RATING A ขึ้นไป รอรับเม็ดเงินจากสถาบันส่วนของกองทุน THAI ESGXอาทิ SCC SCGP PTTGC PTT IVL TOP SJWD HANA เป็นต้น ซึ่งฝ่ายวิจัยฯคาดว่าหุ้นดังกล่าวยังสามารถ OUTPERFORM SET ต่อไปได้

 

ปัจจัยแวดล้อม ช่วยลดแรงกดดันตลาดหุ้น
.   ศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกพากัน REBOUND โดยในฝั่งสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นราว 1.7% - 2.6% ส่วนฝั่งยุโรปปรับตัวขึ้นราว 1.1% - 1.9% หลังร่วงลงแรงหลายวันติดต่อกัน จากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ
. สำหรับปัจจัยหนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น มาจาก 2 ประเด็นหลักๆ ได้แก่
.     1. การหลีกเลี่ยง GOVERNMENT SHUTDOWN ในสหรัฐฯ โดยล่าสุดวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติ 54 : 46 เสียง อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ที่จะจัดสรรงบให้กับรัฐบาลที่ระดับปัจจุบันไปจนถึงเดือน ก.ย.68 ขณะที่ข้อมูลในอดีต จำนวนกระแสข่าว “GOVERNMENT SHUTDOWN” ที่ลดลงมักจะหนุนให้ตลาดหุ้นดีดตัว
.     2. ความคาดหวังเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว จากมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม หลังการกู้ยืมในจีนชะลอตัวลง ขณะที่ล่าสุดรัฐบาลจีนเผยแผนงานพิเศษ เพื่อกระตุ้นการบริโภคอย่างจริงจัง กระตุ้นอุปสงค์ในประเทศในทุกระดับและเพิ่มอำนาจซื้อด้วยการเพิ่มรายได้และลดภาระทางการเงิน พร้อมกับปรับปรุงสภาพแวดล้อมการบริโภค เพื่อส่งเสริมความเต็มใจที่จะจ่ายของผู้บริโภค และแก้ไขข้อจำกัดสำคัญที่ขัดขวางการบริโภค ส่วนในด้านสำนักงานกำกับดูแลด้านการเงินแห่งชาติของจีน (NFRA) ได้ส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
.   ทั้งนี้หากเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณฟื้นตัวได้จริง มองเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่ม CHINA PLAY อาทิ PTTGC, SCC, ERW, CENTEL, SCGP, PTTEP, AOT, ERW, IVL

 

ปมไทยส่ง ‘อุยกูร์’ กลับจีน เพิ่มความอ่อนไหวต่อภาคการค้าระหว่างประเทศ
.   จากกรณีที่ไทยส่งชาวอุยกูร์ 40 คน กลับจีนเมื่อปลายเดือน ก.พ. 68 ทำไทยถูกประณามจากทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ขณะที่ความเสี่ยงที่ต้องจับตา อาจเพิ่มแรงกดดันต่อภาคการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
.   สำหรับความเคลื่อนไหวในฝั่ง สหรัฐฯ ประกาศลงโทษด้วยมาตรการ “จำกัดวีซ่า” ต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย อีกทั้งบ้านเรายังอยู่ในช่วงรอยต่อของความเสี่ยงในการถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้ (RECIPROCAL TARIFFS) ในวันที่ 2 เม.ย. 68 หลังไทยได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น บวกกับไทยยังเก็บภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงกว่าสหรัฐฯ
.   ส่วนในยุโรป สมาชิกสภาเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปต่อรองผ่านความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อกดดันให้ไทยปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน การลี้ภัย สิทธิมนุษยชน และยับยั้งการเนรเทศชาวอุยกูร์ โดยในด้านผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ประเมินว่า “อาจกระทบการเจรจาข้อตกลงไทย-อียู ล่าช้าออกไป เพราะ EU มีจุดยืนสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม”

 

เร่งคลอดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ....ผ่อนคลาย LTV และลดค่าโอนจดจำนอง
.   รมว. กระทรวงการคลัง เปิดเผยได้มีการหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างต่อเนื่อง ถึงแนวทางการเข้าไปกระตุ้นธุรกิจในอสังหาฯ โดยเป็นเรื่องการผ่อนคลายเกณฑ์มาตรการผ่อนปรนเกณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีจากแบงก์ชาติ ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (18 มี.ค.) จะมีการหารือกับสมาคมธนาคารไทย เพื่อขอให้ธนาคารพาณิชย์ช่วยปล่อยกู้รายย่อยเพิ่มขึ้น สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ที่ภาคเอกชนเรียกร้อง จะเร่งผลักดันเต็มที่ คาดเห็นความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น โดยอยู่ระหว่างพิจารณาขยายมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและการจดจำนอง
.   ถือเป็น SENTIMENT ที่ดีต่อกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย และคาดเห็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ โดยเชื่อว่ามาตรการที่อาจเห็นในเร็ววัน คือ การต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนฯ และจดจำนองเหลืออย่างละ 0.01% สำหรับบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาท จนถึงสิ้นปีนี้ น่าจะเกิดได้ไม่ยาก แต่จะทันก่อนมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 20-23 มี.ค. นี้ หรือไม่ ต้องติดตาม เพราะระยะเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด เนื่องจากหากจะทำให้ทัน ประเด็นดังกล่าวต้องเข้าที่ประชุมครม. ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่มาตรการไฮไลท์อย่าง การผ่อนคลาย LTV ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของธปท. ซึ่งคาดหวังจะเห็นแนวทางที่ดีเช่นกัน
.   จากประเด็นข้างต้น คาดสร้างแรงเก็งกำไรให้กับหุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยในระยะสั้น คงแนะนำลงทุนเท่าตลาดสำหรับกลุ่มฯ เลือกหุ้นเด่นที่มีพอร์ตสินค้าหลากหลาย กระจายตัว และฐานธุรกิจแข็งแรง พร้อมรับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว และให้เงินปันผลสูง ได้แก่ AP (FV@12.80) ปันผลรอบปี 2567 หุ้นละ 0.60 บาท หรือ 6.9% และ SPALI (FV@B23.00) ปันผล 2H7 หุ้นละ 0.85 บาท หรือ 5.15% โดยทั้ง 2 ตัวขึ้น XD วันเดียวกัน 7 พ.ค. 2568

 

ภาพเศรษฐกิจยังไม่ดี แต่ช่วงสั้นยังหาหุ้นทำกำไรได้
.   ภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ดี เริ่มจาก ระดับหนี้สาธารณะ/GDP ของไทยอยู่ระดับสูง 64.13% ต่อ GDP(ณ สิ้น ม.ค.68) จึงทำให้การขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว โดยหากขยายกรอบเพดานหรือสาธารณะต่อ GDP เป็นระดับ 75% หรือ 80% จะทำให้มีช่องว่างทางการเงินเพิ่มอีกราว 2-3 ล้านล้านบาท แต่จะกดดันระดับ CREDIT RATING ของไทยในอนาคต ขณะที่ระดับหนี้ครัวเรือน/GDP ของไทยล่าสุดก็อยู่ระดับสูงเช่นกัน 89% ต่อ GDP
.   ประเด็นดังกล่าว บวกกับความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนต่อธรรมมาภิบาลต่อบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการใช้ PROGRAM TRADING ในปัจจุบันที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ดัชนี SET ผันผวน และปรับตัวลงแรงถึง 16.2%YTD ซึ่งสวนทางกับประเทศเพื่อนบ้านเราที่ YTD >0 อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีปรับตัวลงจนระดับ MARKET CAP ล่าสุดอยู่ 14.67 ล้านล้านบาท แต่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 3 เดือนอยู่ราว 4.2-4.3 หมื่นล้านบาท หนุนให้ TURNOVER ยังแตะระดับ 70% ได้ ซึ่งในอนาคตหากมีเม็ดเงินมากพอทั้งส่วนของสถาบัน และต่างชาติที่เข้ามาหนุน น่าจะทำให้ SET กลับทิศเป็นขาขึ้นได้ไม่ยากนัก
.   โดยช่วงสั้นยังแนะนำหุ้นขนาดใหญ่ที่มี ESG RATING A ขึ้นไป รอรับเม็ดเงินจากสถาบันส่วนของ กองทุน THAI ESGX ซึ่งจะเห็นได้ว่าวันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้นใน SET100 ที่มี ESG RATING A ขึ้นไป และราคาตั้งแต่ต้นปีปรับลงมาลึก(YTD) เป็นที่สนใจของนักลงทุน อาทิ SCC SCGP PTTGC PTT IVL TOP SJWD HANA เป็นต้น ซึ่งฝ่ายวิจัยฯคาดว่าหุ้นดังกล่าวยังสามารถ OUTPERFORM SET ต่อไปได้ หากปัจจัยแวดล้อมยังไม่เปลี่ยนแปลง

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้