Market Wrap-Up
- SET วันที่ 14 มี.ค.68 ปิด +14.12 จุด อยู่ที่ 1,173.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,598 ลบ. สถาบันซื้อ 1,245 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 118 ลบ. ต่างชาติขาย 120 ลบ. และรายย่อยขาย 1,008 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 260 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น TOP,BBL,TFG,CPALL,GULF และยอดขายหุ้น KBANK,SCB,AOT,BDMS,KTB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,705 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TAIWANHD13,TAIWANAI13,JAPAN10001 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 10,625 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 16,684 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 4,338 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +1.65%, S&P500 +2.13%, Nasdaq +2.61% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +3.0%, เซมิคอนดักเตอร์ +3.3% หลังหุ้นกลุ่ม Magificant 7 เริ่มฟื้นตัว แม้ว่า ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ มี.ค. ลดลงอยู่ที่ 9 & ก.พ. 64.7 ต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.14% ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร +2.6%, กลาโหม +4.1% โดยคาดหวังเชิงบวกต่อ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของเยอรมัน
Market View
- DJIA -3.07%, S&P500 -2.27%, Nasdaq -2.43% WoW หลัง ปธน.ทรัมป์ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าแอลกอฮอล์, ไวน์จากยุโรปในอัตรา 200% เพื่อตอบโต้ EU ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าวิสกี้ของสหรัฐในอัตรา 50% ในวันที่ 1 เม.ย. หลังถูกสหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก, อะลูมิเนียมของ EU ในอัตรา 25% ส่งผลให้นักลงทุนกังวลเงินเฟ้อสหรัฐอาจสูงขึ้น และเศรษฐกิจสหรัฐอาจเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย แม้ว่า US CPI ก.พ.ชะลอตัวอยู่ที่ 8% & ม.ค. 3.0% YoY และ US PPI ก.พ. ชะลอตัวอยู่ที่ 3.2% & ม.ค. 3.7% YoY ขณะที่วุฒิสภาสหรัฐได้อนุมัติผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ซึ่งช่วยให้สามารถเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ สัปดาห์นี้ค่ำวันพุธ ติดตามผลการประชุมเฟดคาดจะคงดอกเบี้ยที่ 4.25 – 4.50% , Fed Dot Plot จะบ่งชี้โอกาสลดดอกเบี้ยในปีนี้ รวมถึงคาดการณ์ US GDP, เงินเฟ้อสหรัฐ และอัตราว่างงานสหรัฐในปีนี้
- Stoxx600 -1.21% WoW จากความกังวลภาวะสงครามการค้ากับสหรัฐ หลังถูกสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก, อะลูมิเนียมของ EU ในอัตรา 25% ส่งผลให้ EU เตรียมออก ม.ด้านภาษีเพื่อตอบโต้สหรัฐในวันที่ 1 เม.ย. โดยนักลงทุนยังรอผลโหวตของรัฐสภาเยอรมันในวันที่ 18 มี.ค. เพื่ออนุมัติงบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 5 แสน ล.ยูโร รวมถึงการปรับลดข้อจำกัดในกู้ยืม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเยอรมันที่อยู่ในภาวะหดตัวเป็นเวลา 2 ปี ส่วนข้อมูลเงินเฟ้อเยอรมัน ก.พ.ชะลอตัวอยู่ที่ 6% & ม.ค. 2.8% YoY ส่งผลให้ ECB ยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยต่อในปีนี้
- MSCI Asia Pacific X Japan -1.36% WoW จากความกังวลจะถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษี Universal Tariffs ในวันที่ 2 เม.ย.กอปรกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเอเชียก็ปรับลดลงตาม Nasdaq ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.39% WoW หลัง ธ.กลางจีนประกาศเตรียมลดดอกเบี้ย Repo 7 วัน เพื่อเสริมสภาพคล่อง, ม.กระตุ้นกำลังซื้อ และ ม.แก้ไขปัญหาหนี้ภาคอสังหา ฯ สัปดาห์นี้วันพุธติดตามผลการประชุม BOJ คาดจะคงดอกเบี้ยที่ 5%
- SET -2.35% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 0 หมื่น ลบ. -9.7% WoW ต่างชาติขาย 8,406 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1,894 ลบ. สถาบันซื้อ 2,692 ลบ. และรายย่อยซื้อ 7,608 ลบ. WoW โดยกลุ่มที่ปรับลดลง คือ อิเล็กทรอนิกส์ -12.2% WoW ซี่งปรับลดลงตามกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ หลังเฟดอาจจำเป็นต้องคงดอกเบี้ยสูง จากแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐอาจสูงขึ้น จาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรกับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ส่วนกลุ่ม Domestic Play เช่น ไฟแนนท์, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว ก็ปรับลดลงจากคาดการณ์รายได้ในงวด Q2/68 มีแนวโน้มชะลอตัว หลังผ่านช่วง High Season ในช่วง Q1/68 ขณะที่ช่วงปลายสัปดาห์ดัชนีเริ่มฟื้นตัว จากแรงซื้อกลุ่ม Global Play เช่น ปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์ หลัง ธ.กลางจีนเตรียมปรับลดดอกเบี้ย Repo 7 วัน รวมถึงการใช้ ม.กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศจีน และ ม.แก้ไขปัญหาภาคอสังหา ฯ จีน ส่วนปัจจัยในประเทศ ก.คลังได้อนุมัติกองทุน Thai ESGX ที่จะออกในช่วง พ.ค. – มิ.ย. นี้ เพื่อรองรับเม็ดเงินจากกองทุน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอนมูลค่าราว 1.8 แสน ลบ. รวมถึงเม็ดเงินใหม่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 3 แสนบาท ซึ่งจะช่วยเสริมเม็ดเงินลงทุนให้กับตลาด สัปดาห์นี้วันอังคารติดตามการประชุม ครม.ในประเด็น ม.กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง Q2 – Q3 นี้
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,160 – 1,170 แนวต้าน 1,180 – 1,190 คาดดัชนีมีโอกาสรีบาวน์ จากปัจจุบันเทรดในโซนถูกที่ F/PE 3X ระหว่างรอผลการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ แนะนำทยอยซื้อ KBANK,KTB,KKP ที่จ่ายเงินปันผลสูง/ SCC,SCGP,PTTGC ได้ปัจจัยหนุนจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน/ เก็งกำไร SFLEX,BCPG,SVI มีสัญญาณบวกทางเทคนิค
- IVL* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 26.25 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 4Q67 เท่ากับ 1 พันล้านบาท ลดลง -27%QoQ จากผลการดำเนินงานหลักที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล และมีการบันทึกขาดทุน Inventory แนวโน้ม 1Q68 คาดประคองตัวแม้ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. Integrated PET spread จะชะลอตัว QTD แต่น่าจะมีแรง restock ของผู้ผลิตในปลายไตรมาสก่อนเข้าฤดูร้อน ส่วนผลประกอบการในปี 68 ตลาดคาดพลิกเป็นกำไรสุทธิ 1 หมื่นล้านบาท จากปี 67 ที่ขาดทุน 1.9 หมื่นล้านบาท หลังผ่านการทำ asset optimization ปิดโรงงานที่ไม่ทำกำไร ทำให้ค่าใช้จ่ายคงที่ลดลง นอกจากนี้คาดว่าจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจีนและการ destocking ที่คลี่คลาย
- NSL* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 83บาท) กำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 147 ลบ. +44%YoY +9%QoQหนุนด้วย High Season, ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯหนุนกำลังซื้อผู้บริโภค รวมถึงสินค้าใหม่ๆยังตาม trend เช่น ข้าวโพดอบชีสเบคอน,ช็อกโกแลตดูไบ(Bake a Wish) ส่วนปี68 คาดว่าจะมีปัจจัยบวกต่อเนื่องจากโรงงานใหม่ที่พึ่งเสร็จสิ้นใน 4Q67(NSL FOODS สาขา5)รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ ซึ่ง 1Q68 จะมีสินค้าใหม่ เช่น ช็อกโกแลตโมจิทาร์ต, โรตีข้าวโพดชีส เป็นต้น โดย NSL วางเป้ารายได้ปี68 โตราว +16-17%YoY ทั้งนี้ตลาดคาดว่าปี68 และ69 กำไรสุทธิของ NSL* จะอยู่ที่ระดับ 602 ลบ. (+11%YoY) และ 679 ลบ.(+13%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI เม.ย. +$0.63 อยู่ที่ $67.18 / บาร์เรล, Brent พ.ค. +$0.70 อยู่ที่ $70.58/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI +0.2%, Brent +0.3% WoW โดยราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง หลังสหรัฐสามารถเจรจากับยูเครน เพื่อหยุดยิงชั่วคราว 30 วัน เพื่อทำข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย ส่งผลให้อุปทานน้ำมันจากรัสเซียมีโอกาสเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่ง IEA เผยภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดปีนี้อยู่ที่ 6 แสน บาร์เรล/วัน
Gold Update(+) Comex Gold เม.ย.+$9.80 อยู่ที่ $3,001.10 /ออนซ์ สัญญาทองคำ +2.99% WoW โดยทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ในช่วงที่ยังมีความไม่แน่นอนต่อนโยบายการค้าของสหรัฐ กอปรยังได้แรงหนุนจาก Dolla Index ที่อ่อนค่า และคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในปีนี้
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -443.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -250.55 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -225.48 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +32.53 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 33.63 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.304 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +19 จุด อยู่ที่ 1,669
(-) BitCoinเช้านี้ -1.17% อยู่ที่ 82,889 ดอลลาร์สหรัฐ
(0)เช้านี้ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีน เช่น ราคาบ้าน, การลงทุนสินทรัพย์ถาวร, ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุต ฯ, อัตราว่างงาน ก.พ.
Economic Calendar
ในประเทศ
31 มี.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน
ยานยนต์
สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ
สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
17 มี.ค. US ดัชนียอดขายปลีก (ก.พ.)
19 มี.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ก.พ.)
20 มี.ค. US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (มี.ค.)
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ก.พ.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*
(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*
(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR
(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA
(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*
(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio February 2025: CPALL, SYNEX*, KLINIQ, SHR*, TEGH*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th