Company Note
Asian Alliance International
สรุปงาน Opportunity Day (14/03/25)
บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2025F เติบโต 8.8% YoY อยู่ที่ 7.4 พันล้านบาท โดย
กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงคาดเติบโต 11.4% YoY เป็น 6.6 พันล้านบาท จากคาดปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 15% อย่างไรก็ตาม ยอดขายอาจได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่คาดว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับ demand อาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโตจากลูกค้าแบรนด์ขนาดใหญ่ การออกสินค้าใหม่ Functional pet food ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น บริษัทมีสินค้าใหม่ใน 4Q24 จำนวน 105 รายการ แบ่งเป็นอาหารแมว 105 รายการ และอาหารสุนัข 5 รายการ
ตั้งเป้าหมายรายได้กลุ่มอาหารพร้อมทานผลิตภัณฑ์ทูน่าลดลง 8.8% YoY อยู่ที่ 800 ล้านบาท เนื่องจากตลาดหลักในตะวันออกกลางยังมีปัญหาความไม่สงบในภูมิภาค ประกอบกับบริษัทยังคงมุ่งการใช้กำลังการผลิตแรงงานไปกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก ซึ่งมีการเติบโตและมีอัตรามาร์จิ้นมากกว่า
บริษัทเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18-20% ลดลงเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 20.4% โดยปีนี้มีแรงกดดันจากค่าเงินเหรียญสหรัฐที่อ่อนค่า และต้นทุนวัตถุดิบราคาปลาทูน่าและเนื้อไก่ที่เพิ่มขึ้น แต่บริษัทสามารถบริหารจัดการได้
งบลงทุนในปี 2025F อยู่ที่ 1,015 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ คลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 และอาคารผลิตใหม่ ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเพิ่มเป็น 21,000 ตันต่อปี เป็น 80,000 ตันต่อปี คาดเริ่มดำเนินงาน 2Q26F บริษัทยังมีกระแสเงินสดส่วนเกินเพียงพอสำหรับงบลงทุนดังกล่าว และไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงิน ทำให้ต้นทุนเงินทุนยังคงอยู่ในระดับต่ำ
คงประมาณการเดิม demand ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงโลกยังเติบโต
เป้าหมายรายได้และอัตราทำกำไรของบริษัทใกล้เคียงกับประมาณการของเราที่คาดรายได้เติบโต 9% และอัตราทำกำไรคาดที่ 19.8% ภาพรวมอุตสาหกรรมธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงส่งออกในประเทศไทยเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 11% YoY และลดลงเล็กน้อย 5% MoM โดยประเทศส่งออกหลักยังเป็นสหรัฐฯ (ซึ่งเป็นประเทศส่งออกหลักของ AAI เช่นกัน) เดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 30% YoY และลดลงเล็กน้อย 2% MoM
แนวโน้มผลประกอบการ 1Q24F คาดยังเติบโตได้ YoY แต่คาดจะลดลง QoQ จาก demand ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดอัตรามาร์จิ้นลดลง QoQ จากราคาปลาทูน่าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย ม.ค.-ก.พ. อยู่ที่ 1,620$/tons เพิ่มขึ้น 13% เทียบกับเฉลี่ยปี 2024 ที่ 1,438$/tons เราคงประมาณการคาดกำไรสุทธิปี 2025-26F เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 6%YoY และ 12%YoY จาก 1) ธุรกิจ Pet Food คาดรายได้เพิ่มขึ้น 12% ตามลำดับ จากยอดขายรับจ้างผลิต OEM ที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าปัจจุบันทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่มีการขยายตลาดแย่งส่วนแบ่งการตลาด การออกสินค้าใหม่ Functional pet food ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น 2) ธุรกิจ Human Food คาดเพิ่มขึ้นปีละ 5% เนื่องจากตลาดหลักในตะวันออกกลางยังมีปัญหาความไม่สงบในภูมิภาค คาดอัตราทำกำไรลดลงอยู่ที่ 19.8% จากราคาต้นทุนปลาทูน่าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (ต้นทุนปลาทูน่า คิดเป็น 20% ของต้นทุนรวม) คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปี 2024-25F ลดลงจากการลดค่าใช้จ่ายโฆษณาการทำการตลาด
จากการทำ sensitivity จากสมมติฐานในกรณีต้นทุนอื่นๆคงที่ การอ่อนไหวของต้นทุนปลาทูน่าที่เพิ่มขึ้นทุกๆ +/- 1% กระทบต่อกำไรสุทธิ +/- 1.5% และอัตราแลกเปลี่ยนบาท/US$ ที่เปลี่ยนไปทุกๆ 1 บาท จะกระทบต่อกำไรสุทธิ +/-2.17% (สัดส่วนรายได้เป็น US$ 93% และค่าเงินบาท 7% ของรายได้รวม และต้นทุนที่เป็น US$ คิดเป็นประมาณ 20% ของรายได้ในส่วนที่เป็น US$)
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากคาดการณ์ demand อาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกที่ยังเติบโต ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6.50 บาท อ้างอิงกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง PER (-1STD) ที่ 13X จากอัตราการเติบโตของผลประกอบการที่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา คาดเงินปันผล Dividend Yield ที่ 4.7% บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็น net cash ไม่มีหนี้ ความเสี่ยง : ยอดรายได้ไม่เป็นไปตามคาด, ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากภาวะเงินเฟ้อ, ค่าแรงขั้นต่ำที่อาจปรับเพิ่มขึ้นตามภาครัฐฯ