สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (14 มีนาคม 2568)-------ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank และบริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG ที่ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ฟิทช์ยังได้คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ F1+(tha)
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตได้รับปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น: อันดับเครดิตของ LH Bank และ LHFG พิจารณาจากการคาดการณ์ของ
ฟิทช์ว่าผู้ถือหุ้นจากไต้หวันซึ่งคือ CTBC Bank Co., Ltd. (CTBC; อันดับเครดิตสากล 'A'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน 'a') จะให้การสนับสนุนในกรณีที่จำเป็น การคาดการณ์นี้สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ถึงความสามารถของ CTBC ที่สูงแต่มีโอกาสในการให้การสนับสนุนในระดับปานกลาง โดย CTBC ถือหุ้นใน LHFG สัดส่วน 46.6% และมีอำนาจควบคุมการบริหารกลุ่มบริษัทลูกในประเทศไทย
อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงโครงสร้างอันดับเครดิตของ LHFG และ LH Bank เมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ และแสดงถึงระดับของโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทรายอื่นในประเทศไทย
ช่วยเสริมสร้างเครือข่ายของ CTBC: LHFG มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเครือข่ายระหว่างประเทศของ CTBC Bank ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน โดยมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่งและกำลังขยายธุรกิจระหว่างประเทศโดย LHFG ช่วยให้ CTBC Bank ขยายและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่าย รวมทั้งสนับสนุนการให้บริการทางการเงินข้ามพรมแดน โดยบริษัทจากไต้หวันมีการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นรวมถึงในประเทศไทย ซึ่งบริษัทเหล่านี้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญสำหรับ LHFG
ความเชื่อมโยงกับธนาคารแม่ที่อ่อนแอกว่าเมื่อเทียบธนาคารลูกของธนาคารต่างประเทศอื่นในประเทศไทย: ฟิทช์มองว่าความเชื่อมโยงด้านชื่อเสียงระหว่าง LHFG กับธนาคารแม่ CTBC มีข้อจำกัด เนื่องจาก CTBC ถือหุ้นใน LHFG ในสัดส่วนที่ต่ำกว่า 50% แม้ว่าจะมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นในการประสานงานด้านชื่อเสียงและสัญญลักษณ์ทางการค้า แต่ความเชื่อมโยงยังคงอ่อนแอกว่าธนาคารลูกของธนาคารต่างประเทศอื่นในประเทศไทยที่มีสัดส่วนการถือหุ้นสูงกว่าและใช้ชื่อและแบรนด์ร่วมกันกับธนาคารแม่อย่างเต็มที่
ธนาคารแม่มีความสามารถที่แข็งแกร่งในการสนับสนุน: ความสามารถของ CTBC ในการให้การสนับสนุนแก่ LHFG สะท้อนจากโครงสร้างเครดิตของธนาคารเองซึ่งสะท้อนโดยอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของCTBC ฟิทช์คาดว่าการสนับสนุนใดๆที่ให้แก่ LHFG จะอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้โดย CTBC เนื่องจากขนาดสินทรัพย์ของ LHFG ที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับธนาคารแม่โดย สินทรัพย์ของ LHFG คิดเป็นประมาณ 5% ของสินทรัพย์ของ CTBC
ความเชื่อมโยงในการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น: ฟิทช์คาดว่าความเชื่อมโยงในการดำเนินงานระหว่าง CTBC กับบริษัทและธนาคารลูกจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย LHFG และ LH Bank ถูกรวมเข้ากับรายงานทางการเงินของ CTBC ซึ่งสะท้อนถึงการควบคุมและอิทธิพลของธนาคารแม่ต่อคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทและธนาคารลูก นอกจากนี้ CTBC ยังแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ เช่น ในธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งและการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพของ LH Bank ทั้งนี้การแนะนำลูกค้าจาก CTBC แม้ว่าจะยังอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก แต่คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต CTBC ยังดูแลให้กลุ่ม LHFG ปฏิบัติตามมาตรฐานการบริหารจัดการความเสี่ยงและการดำเนินงานของกลุ่ม CTBC รวมทั้งสอดคล้องกับกรอบกฎหมายและข้อบังคับของกลุ่มด้วย
การสนับสนุนด้านสภาพคล่องจากธนาคารแม่: โครงสร้างการระดมทุนและสภาพคล่องของ LHFG ถูกกำหนดโดยฐานเงินฝากของ LH Bank ที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งอาจทำให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่มากกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารที่ใหญ่กว่าและมีฐานที่มั่นคงได้หากเกิดสภาวะกดดันต่อสภาพคล่องในระบบ อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนด้านการระดมทุนตามปกติจาก CTBC ผ่านเงินฝากหรือการกู้ยืมระหว่างธนาคารช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องบางส่วนได้ ทั้งนี้การสนับสนุนดังกล่าวอาจน้อยกว่าธนาคารลูกของต่างประเทศที่ได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์ทางการถือหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าและมีระดับความเชื่อมโยงในการดำเนินงานที่สูงกว่า
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตภายในประเทศอาจถูกปรับลดอันดับหากมีการปรับตัวด้อยลงของสมมติฐานด้านการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นของฟิทช์ ตัวอย่างเช่น การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ CTBC ซึ่งอาจบ่งชี้ว่า CTBC มีความสามารถที่ลดลงในการสนับสนุนและส่งผลต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของ LHFG และ LH Bank
นอกจากนี้ การลดความเชื่อมโยงระหว่าง LHFGหรือ LH Bank และ CTBC อย่างมีนัยสำคัญอาจบ่งชี้ถึงโอกาสที่ลดลงของธนาคารแม่ในการให้การสนับสนุน และอาจนำไปสู่ผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หาก CTBC ลดสัดส่วนการถือหุ้น ส่งผลให้สูญเสียการควบคุม LHFG รวมกับการลดความเชื่อมโยงในการดำเนินงานและการสนับสนุนทางการเงิน ความล้มเหลวในการผสานธุรกิจในประเทศไทยกับ CTBC และ/หรือผลการดำเนินงานทางการเงินที่แย่อย่างรุนแรง อาจทำให้ CTBC ต้องทบทวนความผูกพันธ์ทางกลยุทธ์ใหม่ ในสถานการณ์ดังกล่าว ฟิทช์อาจทบทวนวิธีการจัดอันดับเครดิตของ LHFG และ LH Bank ใหม่ และมีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนจากการอ้างอิงปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นเป็นการประเมินจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวบริษัทลูก และอาจนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตลงหลายอันดับ แต่อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในโอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนในระยะปานกลาง
การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตจะต้องพิจารณาถึงโครงสร้างอันดับเครดิตของทั้ง LHFG และ LH Bank ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นเทียบกับบริษัทหรือธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วยเช่นกัน
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ LHFG และ LH Bank จะถูกปรับลดอันดับลงเป็น F1(tha) หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ LHFG ถูกลดอันดับลงเป็น A-(tha) หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อสมมติฐานการสนับสนุนของ CTBC ต่อบริษัทลูกในประเทศไทย
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ LHFG และ LH Bank หากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ CTBC ได้รับการปรับเพิ่มอันดับ (โดยที่โอกาสในการให้การสนับสนุนไม่ลดลง) ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความสามารถในการให้การสนับสนุนบริษัทลูกในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตหากรับรู้ได้ถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของโอกาสที่ CTBC จะให้การสนับสนุนแก่ LHFG และ LH Bank ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากความเชื่อมโยงและผสานการดำเนินงานกับ CTBC ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจสะท้อนจากการใช้ชื่อและสัญญลักษณ์ทางการค้าร่วมกันที่เพิ่มขึ้น สัดส่วนการถือหุ้นที่สูงขึ้น หรือการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธนาคารเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศ และเพิ่มบทบาทเชิงกลยุทธ์ของธนาคารต่อธนาคารแม่
ไม่มีโอกาสที่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ LH Bank และ LHFG จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับขึ้นอีก เนื่องจากเป็นอันดับที่สูงที่สุดแล้ว
อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น
ตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ LHFG อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคาร เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร
ตราสารหนี้ด้อยสิทธิ
หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ของ LH Bank ได้รับการจัดอันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารอยู่ 2 อันดับ ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันเนื่องจากฟิทช์เชื่อว่าตราสารเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับชำระหนี้คืนที่แย่กว่าตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้ไม่มีการปรับลดอันดับเพิ่มเติมสำหรับความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากตราสารเหล่านี้ไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ในการจัดอันดับของฟิทช์สำหรับตราสารลักษณะเดียวกันที่ออกในประเทศไทย
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับลดอันดับเครดิตของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ LHFG หรือ LH Bank จะส่งผลในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัทหรือหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคาร
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ LHFG หรือ LH Bank จะทำให้เครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัทหรือหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับ
อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของ LH Bank และ LHFG มีความเชื่อมโยงกับโครงสร้างเครดิตของ CTBC
รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้
LHFG
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ ‘AA+(tha)’
LH BANK
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิคงอันดับที่ ‘AA-(tha)’